ดู: 13807|ตอบกลับ: 39
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

สตรีผู้บอบช้ำ จากการทำศัลยกรรม

[คัดลอกลิงก์]
สตรีผู้บอบช้ำ จากการทำศัลยกรรม
เรื่องต่อไปนี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวคนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้เธอมีใบหน้าที่ถึงแม้จะไม่สวยมาก แต่ก็จัดได้ว่าไม่ขี้เหร่อะไร
ก็เป็นเรื่องปกติของสาวทุกคนที่อยากมีบุคลิกหน้าตาที่ดูดีขึ้น
จึงพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงปรับปรุงหน้าตาด้วยการศัลยกรรม
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรอีกเช่นกัน ถ้าเธอจะไว้ใจ เชื่อใจ ผู้ที่เป็นศัลยแพทย์
โดยที่เธอรู้จักผ่านสื่อต่าง ๆ แล้วมุ่งหน้าไปหา  โดยหวังว่า ศัลยแพทย์ผู้นั้น
จะทำให้เธอสวยขึ้นได้  ก็เค้าเรียนมา ก็น่าจะทำเป็นซิ ก็เค้าเป็นหมอ ก้ต้องมีจรรยาบรรณซิ
( เธอคิด )
แต่ใครจะรู้  
คุณไม่รู้
เธอเองก็ไม่รู้  ว่าเรื่องราวมันจะเป็นไปในทางที่เลวร้ายอย่างนี้  เธอต้องออกจากงานที่ทำอยู่
แฟนหนุ่มเริ่มห่างเหิน  เครียด หมกมุ่นกับความคิดในหัวว่า เธอมีเวรกรรมอะไร  นี่เธอทำศัลยกรรมความงามนะ
ไม่ได้ประสบอุบัติเหตุ ทำไมผลลัพท์มันถึงเป็นเยี่ยงนี้   
ดังนั้นเธอจึงฝากมาให้ป้าเผยแพร่ เพื่อเป็นวิทยาทานแด่ทุกคนค่ะ
ขอบุญกุศลกลับสู่เธอ ให้พบแนวทางแก้ไขใบหน้าของเธอในเร็ววันด้วยค่ะ
เคยลงรูปของเธอไว้แล้วที่ลิ้งค์นี้นะค๊ะ
http://www.dungdong.com/viewthre ... &extra=page%3D1
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-7-19 08:28:53 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เมื่อหลายวันที่แล้ว ขณะที่ป้ากำลังบรรจงทาลิปสติก สีชมพูแปร๋น ที่ดูยังไงก็ไม่เข้ากับหน้าป้าวุ้นเส้นอยู่นั้น
ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

ป้าวุ้นเส้น " สวัสดีค่ะ ป้าวุ้นเส้นพูดค่ะ "
กรรณิกา " ป้าวุ้นเส้นใช่มั๊ยค๊ะ คือนู๋มีเรื่องจะปรึกษาค่ะ ป้า "
ป้าวุ้นเส้น " เชิญจ้า ว่ามาเลย "
กรรณิกา " คือนู่ไปตัดกรามที่คลีนิคแห่งนึงมา แล้วนู๋ปากเบี้ยวมุมปากตกสองข้าง ตั้งแต่วันแรกเลย
เวร !!  ( ป้าอุทานออกมาเอง ) พอเวลาผ่านมา 3 เดือน หน้านู๋ก็เว้าเข้าไป ค่ะ ตอนนี้นู๋แย่มากเลย แถมเค้ายังตัดคางนู๋ออกด้วย
ตัดแล้วมาบอกนู๋ที่หลัง  มาตัดของนู๋ทำไม คางนู๋ดี ๆ อยู่แล้ว  ฮือ ฮือ นู๋เครียดมากเลยค่ะป้า
นู๋จะทำยังไงดี ป้าช่วยนู๋หน่อยนะ หมอที่ตัดให้นู๋ไม่ยอมคุยกับนู๋เลย "
ป้าวุ้นเส้น " โอเค เล่าเรื่องโดยละเอียดทาง Mail หน่อยนะค๊ะ แล้วขอดูฟิลม์เอกเรย์กับรูปหน่อย ส่งมาด้วย
เดี๋ยวป้าตอบทาง Mail หลังดูฟิลม์กับรูปนะค๊ะ

ป้าขอสรุปเรื่องราวของกรรณิกา ดังนี้ค่ะ
กรรณิกา เข้าใจว่าตัวเอง มีกล้ามเนื้อกราม ก็เลยคิดว่าจะไปฉีดโบท๊อกซ์ที่คลีนิคแห่งนึง
แต่หลังจากที่พบว่า หมอบอกว่าเธอไม่มีกล้ามเนื้อกราม ต้องตัดมุมกรามเท่านั้น เธอจึงตกลงจะขึ้นเขียง
ผ่าตัดมุมกรามเป็นการผ่าตัดจากด้านในปาก  ที่คลินิคแห่งนั้น ผ่าตัดที่คลินิคนะค๊ะ
ไม่ได้ไปที่ห้องผ่าตัดของ โรงพยาบาลแต่อย่างใด

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดก็เหมือนกันการผ่าตัดใหญ่ทั่วไป คือ เอกซเรย์ ตรวจเลือด  งดน้ำ งดอาหาร
ใช้วิธีการวางยาสลบ  ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 4 ชม.
ฟังแล้วก็ทั่ว ๆ ไป ไม่น่าตกใจสำหรับคนที่ไม่เคยผ่านการผ่าตัดมาก่อน และ สำหรับคนอื่น ๆ  
แต่สำหรับป้าวุ้นเส้น ป้าว่าน่าตกใจเป็นที่สุด  การผ่าตัดใหญ่นี่จะให้ปลอดภัยเครื่องมือต้องพร้อมค่ะ
บุคลากรต้องพร้อม  ต้องมีห้องผ่าตัดที่พร้อมทุกอย่างถ้าได้แบบห้องสูญญากาศด้วยยิ่งดี ปลอดเชื้อ ปลอดภัย
ไม่ว่าคนไข้จะ Sentitive กับอะไรขึ้นมา ก็มีอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ พร้อมช่วยเหลือทุกอย่าง
ดังนั้นการผ่าตัดใหญ่ไม่ควรทำที่คลีนิค  เผื่อร่างกายเกิดมีอาการตอบสนอง หรือไม่ตอบสนองกับการวางยาสลบ หรือ ยาที่ต้องใช้ในการผ่าตัด เช่นยาห้ามเลือด ยาแก้ปวดยาแก้อักเสบ สาระพัดชนิด หรือความเข้มข้นของเลือดคนไข้ไม่อยู่ในระดับที่ปลอดภัย  รอรถหวอโรงพยาบาลมารับไปรักษาต่อ  ก็อาจตายคาเขียงได้  เรื่องพวกนี้สำคัญนะค๊ะ ทีมแพทย์ ผู้ช่วยแพทย์ วิสัญญีแพทย์ โอ้ย มากมายค่ะ นู๋กรรณิการอดมาได้ไม่ตายก็บุญแล้ว
3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-7-19 08:34:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขล่าสุดโดย pavoonsen เมื่อ 2010-7-19 08:35

ตอนผ้าพันศรีษะ
กลับมาเรื่องของกรรณิกาต่อ ตอนที่คุณหมอทำการผ่าตัดป้าก็แสดงความตกใจไป 1 ทีแล้ว
การดูแลหลังการผ่าตัดทำเอาป้าตกใจ เป็นครั้งที่ 2 จนต้องบอกว่า โอ้ พระเจ้าช่วย
ทำกันเช่นนี้ได้อย่างไรเนี่ย  ดูผ้าพันศรีษะของกรรณิกาแล้วพาให้จิตตกค่ะ
บางมาก ก็ไม่เข้าใจบางขนาดนี้ จะพันเพื่ออะไร พันเพื่อเทรนด์แฟชั่นใหม่เป็นรุ่นตาข่ายซีทรูรึ
นี่ถ้าผูกให้มีโบว์อันใหญ่ ๆ บนหัวอีกนิด ป้าก็ว่า เลดี้กาก้า ชัวร์

ผ้าพันศรีษะหลังผ่าตัด ที่คุณหมอพันไว้ ตามหลักการที่ปลอดภัยจะแน่นและหนามาก ถึงขั้นอึดอัดกันเลยทีเดียว
วัตถุประสงค์คือเพื่อช่วยหยุดเลือด และไม่ให้บวมมากค่ะ เพราะถ้าพันหลวม ๆ จะบวมแล้วจะไปมีผลต่อ
หลอดลมคือ บวมแล้วไปกดการหายใจได้ ดังนั้นหมอจะพันแน่นค่ะ

4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-7-19 08:36:31 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
การประคบเย็น
กรรณิกาบอกว่า หลังออกจากห้องผ่าตัดไม่มีการประคบด้วยเจลเย็นแต่อย่างใด
ให้นอนเฉย ๆ และกินยาแก้ปวดเท่านั้น ป้าขอแสดงความตกใจเป็นครั้งที่ 3 โอ้ รอดมาได้ไม่ตายก็บุญมากแล้วค่ะ

การประคบเย็นวัตถุประสงค์เพื่อให้ความเย็นช่วยทำให้เลือดหยุดไหล ลดอาการบวมค่ะ ควรประคบด้วยเจลเย็นที่แช่จนเป็นน้ำแข็งบริเวณที่ผ่าตัด ตลอดเวลา หรืออย่างน้อยต้องเปลี่ยนทุกชั่วโมง ประคบติดต่อกัน นาน 48 ชั่วโมงค่ะ


สายระบายเลือด
โอ้แม่เจ้า สายระบายเลือด รึต่างหูรุ่นใหม่ของ เลดี้กาก้าฟ่ะเนี่ย ทำไมมันมาอยู่ข้างนอกล่ะ
กรรณิกาบอกว่า คุณหมอเจาะรูด้านนอกบริเวณมุมกรามเพื่อทำการติดตั้งสายระบายเลือด
ทำให้เธอมีแผลเป็นปูด ๆ เป็นที่ระลึกด้วยความระทึกอีก ข้างละ 1 รู และในขวดที่ต่อจากสายระบายเลือด
ก็เต็มไปด้วยเลือดของเธอ ข้างละประมาณครึ่งขวด คำนวนได้ราว ๆ 500 cc ต่อข้าง


ระยะเวลาพักฟื้นที่โรงพยาบาล 2 คืน และหมอให้เธอกลับบ้านทั้งที่เธอยังมีต่างหูเลดี้กาก้า ( ขวดเลือด )
ติดอยู่ ถ้าเธอนอนต่อ หมอจะคิดตังค์เพิ่ม สำหรับสายระบายเลือดนั้น เมื่อครบ 4 วันกรรณิกาค่อยมาเอาออกนะ

สายระบายเลือด
ตามปกติควรจะอยู่ภายในปาก ไม่ได้ห้อยด้านนอกเพราะจะทำให้เห็นแผลและมีแผลเป็นนูนแข็งได้
และติดตั้งจากแผลที่คุณหมอเปิดด้านในเพื่อตัดมุมกรามนั่นแหละ ไม่มีการเปิดแผลใหม่ วัตถุประสงค์เพื่อช่วยระบาย
เลือดเสีย  ปริมาณเลือดเสียที่ระบายออกมาไม่ควรเกิน 200 cc
แม้จะผ่านไปนานสองวัน และจะต้องตรวจเช็คปริมาณเลือดเสียที่ไหลออกมาทุกชั่วโมง  
ถ้าปริมาณเลือดเสียมีมากกว่าเกณฑ์ที่ควรจะเป็นและไหลต่อเนื่องคุณหมอจะต้องพิจารณา
ใช้เทคนิคทางการแพทย์ รักษาอาการให้เป็นปกติทันที

อ้อ ก่อนกลับบ้านหมอให้ยานู๋กรรณิกาดังนี้ ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด ยาลดบวม ในปริมาณที่กินได้อาทิตย์กว่า ๆ
ในราคากันเองมาก จ่ายไป 1000 กว่าบาท อืม อืม ก็เค้าบอกแล้วนิ ว่าเป็นราคาเริ่มต้น ดังนั้น มันมักไม่จบที่การจ่ายครั้งแรกค่ะ  มันไม่ใช่ราคาเหมาจ่ายเป็น Package แต่อย่างใด
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-7-19 08:45:52 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขล่าสุดโดย pavoonsen เมื่อ 2010-7-19 08:57

สุดท้าย ของความน่าตกใจ แบบพูดไม่ออกบอกไม่ถูกคือ
คุณหมอตัดคางของเธอให้สั้นลงโดยความเห็นส่วนตัวของคุณหมอเอง และไม่ได้ไถ่ถามเธอก่อน
ผลลัพท์ของการตัดกรามครั้งนี้ จึงเป็นผลร้ายที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย
เท่านั้นยังไม่พอค่ะ มุมปากเธอตก ปากเธอเบี้ยวซะแล้ว
และเมื่อเวลาผ่านมา เมื่อหน้าเธอเริ่มยุบบวมได้ 3 เดือน เธอก็พบว่า
หน้าของเธอไม่เรียวแต่กลับเว้าแหว่งเข้าไปตรงมุมกรามที่ตัด เพราะความที่ตัดมากเกินไป
จากภาพเอกซเรย์ก็เห็นได้ชัดว่า เป็นรอยตัดที่ไม่เรียบ และเว้าแหว่ง
อยู่ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ
http://www.dungdong.com/viewthre ... &extra=page%3D1

โดยส่วนตัว จากประสบการณ์ป้าวุ้นเส้นเข้าใจว่า  การที่คุณหมอได้ทำการผ่าตัดในสถานที่ ๆ ไม่พร้อมเรื่องบุคลากร
และอุปกรณ์ทางการแพทย์ จึงไม่สามารถทำการตกแต่งกระดูกมุมกรามให้เนียนเรียบ  ต้องรีบทำ รีบผิดแผล
ก่อนที่จะเกิดอันตรายซึ่งอาจถึงแก่ชีวิตได้  (เป็นการคาดเดานะค๊ะ ไม่ได้มีหลักการอะไร )
หลังจากที่ป้าวุ้นเส้นได้รับรู้เรื่องราวของเธอ ป้าก็ได้แต่ปลอบใจเธอค่ะ
บอกตรง ๆ ว่า ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้  ไม่มีหมอคนไหนอยากแก้ไขเรื่องแบบนี้หรอกค่ะ
โดยคุณหมอส่วนใหญ่ที่ป้าไปขอคำปรึกษา ท่านจะบอกเหมือนกันหมดว่า
" วุ้นเส้น เวลาเกิดการทำศัลยกรรมที่ผิดพลาด  ร้ายแรงขนาดนี้ รวมทั้งพวกฉีดสารอันตรายด้วย อย่าพยายามที่จะแก้ไข มันจะแย่ไปกันใหญ่ ทางที่ดี ไม่แตะได้เป็นดีที่สุด "

ป้าเลยได้แต่ช่วยเธอเรื่อง แนะนำให้ทำกายภาพบำบัด รักษาด้วยกระแสไฟฟ้า  เพื่อรักษาเยียวยาอาการปากเบี้ยวเท่านั้น
และหวังใจว่า คนไทย จะตั้งใจอ่านหนังสือ มากกว่านี้  ไม่ใช่ดูแต่ภาพก่อนทำกับหลังทำ ศึกษาเยอะ ๆ  เปรียบเทียบเยอะ ๆ

เพื่อจะได้ไม่มีเคสน่าเสียใจแบบนี้เกิดขึ้นอีก และอีกอย่าง ภาพและข้อความที่ลงโฆษณาในหนังสือที่ได้รับความนิยม มียอดขายถล่มถลาย ไม่ได้เป็นการการันตรี ความปลอดภัยจากการทำศัลยกรรมนะค๊ะ
สิ่งที่จะการันตรีการทำศัลยกรรมของคุณได้ระดับหนึ่งคือ

1 ทางโรงพยาบาลต้องมีเอกสารสัญญา รับประกันผลงานการผ่าตัด หากเกิดปัญหาขึ้น จะภายในกี่เดือนก็ว่ากันไป

2 ทางโรงพยาบาลต้องยินดีที่จะออกเอกสารรับรองการผ่าตัด จากคุณหมอที่ทำการผ่าตัดนั้น ๆ เพื่อเป็นหลักฐานให้คุณ

3 ทางโรงพยาบาลต้องออกเอกสารการับเงิน หรือที่เรียกว่าใบเสร็จให้ เป็นการแสดงว่า คุณจ่ายตังค์เพื่อการใด

4 หากคุรต้องการรายงานการรักษา ฟิลม์เอกเรย์ หรือผลตรวจจากการผ่าตัดในครั้งนั้น ๆ ทางโรงพยาบาลจะต้องยินยอม
พร้อมใจจัดให้คุณแต่โดยดี  เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิทธิของคนไข้ค่ะ

ป้าอยากจะบอกทุกคนว่า ป้าพบเจอกับคนที่ทำศัลยกรรมแล้วผิดพลาด หรือ ฉีดโน่น ฉีดนี่ โดยรู้เท่าไม่ถึงการแล้วต้องมาเสียใจไปตลอดชีวิตบ่อยมาก ทุกๆ เดือนจะมีอย่างน้อย 10 ราย จริง ๆ แล้วการทำศัลยกรรมทุกชนิดมีค่าความเสี่ยงทั้งนั้นแหละค่ะ หมอก็คนนะค๊ะ ไม่ใช่เครื่องจักร จะได้100 % เห็นจะยาก เพียงแต่ป้าอยากแนะนำให้ลดปัจจัยเสี่ยงด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำศัลยกรรมของคุณด้วยค่ะ

นี่เป็นสิ่งที่ป้องกันได้นะค๊ะ หากคุณรู้จักอ่าน และวิเคราะห์ด้วยเหตุด้วยผล  เลิกถามหมอซะทีเถอะค่ะ ไอ้คำถามประเภทที่ว่า หมอค๊ะ เจ็บมั๊ย บวมนานมั๊ย เพราะเค้ารีวิวอธิบายกันไว้เกลื่อนเว็บ แล้วไอ้เรื่องอ่านหนังสือเนี่ย ป้าพูดจริงนะค๊ะ หลายคนที่โทรหาป้า หรือส่ง Mail มาถามมักไม่อ่านสิ่งที่ป้าเขียน จะดูแต่รูปแล้วเขียนมาถาม   ป้าก็ไม่เข้าใจนะ  พอบอกให้กลับไปอ่านก่อนดีมั๊ยค๊ะ ก็กลายเป็นว่า ป้าวุ้นเส้นหยิ่งไม่อยากตอบ

โธ่ ที่รัก ก็ป้าวุ้นเส้นเขียนไว้เยอะเลย แล้วการพูดแบบเดิม ๆ วันละหลาย ๆ รอบหรือพิมพ์ตอบซ้ำ  อธิบายซ้ำอีก พูดกันทั้งวัน วันละหลาย ๆ รอบนี่มันเหนื่อยนะ  ป้าไม่ใช่ พวก Callcenter เน้อ  ที่พูดแล้วป้าวุ้นเส้นนึกว่านี่ตรูพูดอยู่กับคนจริง ๆ รึเปล่า

ขอร้องล่ะค่ะ อ่านกันหน่อย เพื่อประโยชน์ของตัวคุณเอง

ศัลยกรรมที่แพง  คือ ศัลยกรรมที่ทำแล้วผิดพลาด เพราะคุณต้องจ่ายด้วยเวลาที่เหลือทั้งชีวิต ไม่ใช่มูลค่าของเงินที่จ่ายไป

คะแนน

2

ดูบันทึกคะแนน

ขอบคุณค๊าบสำหรับหนึ่งกรณีศึกษาที่นำมาแบ่งปันกัน
น่าเห็นใจสุดๆค่ะ อยู่ๆมาตัดคางคนไข้ออกได้ไง ใครจะศัลยกรรมอะไรก็ตามต้องศึกษาข้อมูลเยอะๆนะคะ และวิเคราะห์ด้วยเหตุด้วยผลอย่างป้าวุ้นเส้นบอกเลยค่ะ

หนูเป็นอีกคนที่ตามไล่ล่าอ่านเว็บนู้นเว็บนี้ของป้าวุ้นเส้นมาเป็นเดือนๆ
สนใจเรื่องตัดกรามกับเสริมคางด้วยกระดูกตัวเองค่ะ
ที่ยันฮีแพงกว่าที่อื่นนะคะป้า..อิอิ แต่เพื่อสวยอย่างปลอดภัย ก็น่าลงทุนอ่ะค่ะ
เศร้าอ่ะ แล้วยังงี้จะแก้ไขใบหน้ายังไงได้บ้างอ่ะค่ะ ป้าวุ้นเส้น
เป็นกำลังใจให้สู้ๆๆต่อไปนะคะ
น่าเห็นใจสุดๆค่ะ อยู่ๆมาตัดคางคนไข้ออกได้ไง ใครจะศั ...
ต้นฉบับโพสต์โดย JAH+AOF เมื่อ 2010-7-19 20:13



    เหนด้วยค่ะ
น่าสงสาร


ที่จริงหมอน่าจะปรึกษาเราก่อนนะ อยุ่ดีดีมาตัดคางเราได้ไง
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-7-22 08:47:08 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ไม่ได้เข้ามาหลายวัน สำหรับคนที่ถามว่าจะแก้ยังไงนี่
แก้ยากค่ะ จริง ๆ แล้วมันก็พอจะเป็นได้ด้วยหลักการเดิม ๆ คือเมื่อเกินก็ตัด เมื่อขาดก็เติม

แต่คุณหมอส่วนใหญ่ไม่รับแก้ไขเพราะ การเปิดแผลเข้าไปแก้เป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก
อาจจะแย่กว่าเดิมก็ได้ค่ะ ส่วนเรื่องเส้นประสาท สามารถฟื้นฟูได้ด้วยการทำกายภาพบำบัด
แบบใช้ไฟฟ้าค่ะ  

นี่ไม่ใช่เคสแรกที่ป้าเจอหรอกค่ะ มีเยอะแต่ป้าไม่ได้เขียนถึงเท่านั้นเอง
รู้มาก เปิดเผยมาก ป้าอาจจะไม่แก่ตาย ฮ่า ฮ่า
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ดีจากคุณป้าค่ะ  หนูคนหนึ่งที่โชคร้ายเรื่องศัยกรรม เรื่องมีอยู่ว่าไปเสริมเต้านม ....หมอดันไปตัดหัวนมทิ้งเฉยเลย พอตื่นมาไม่มีหัวนมเสียแล้วไม่รู้จะทำอย่างไรจะไปแก้ไขที่ไหนดีค่ะ คุณป้าช่ยตอบหนูด้วย......
อ้านแล้ว สะเทือนใจอะคะป้าวุ้นเส้นน T-T

ขอบคุณมากๆคะ ที่นำมาแบ่งปันกัน
ขอบคุณมากค่ะป้าวุ้นเส้น
สำหรับข้อมูลที่ดีก่อนการตัดสินใจ
ขอเป็นกำลังใจให้สู้ๆต่อไปค่ะ
ขอบคุณป้าวุ้นเส้นมากๆคับ ที่นำข้อมูลดีๆมาเตื่อนสติน้องๆ หลานๆ

ต่อจากนี้ไปก่อนไปทำอะไรคงต้องขอหลักสื่อหรือไม่ก้อใบรับรองอารายสักอย่างแล้ว

น่ากลัว บรื๋อ
ขอถามค่ะ ถ้าฉีดไบโอมา และแก้ไขแล้วด้วยการขูด และเสริมใหม่ด้วยซิลิโคน

แต่มันเป็นผิวไม่เรียบ ขรุขระ ควรปล่อยไว้แบบนี้ดีกว่าใช่ไหมคะ

อย่างที่พี่วุ้นเส้นบอก คือควรปล่อยและไม่ยุ่งดีกว่าใช่ไหมคะ

หรือสามารถ ทำใหม่ได้ กลุ้มใจมาก

ไปปรึกษาหมอ หมอบอกทำได้ แต่ใจก็กลัว กลัวจะแย่กว่านี้อ่ะคะ รบกวนด้วยค่ะ
อ่านแล้วหดหู่มากเลยค่ะ ฝากเป็นกำลังใจให้คุณกรรณิกาด้วยนะคะป้าวุ้นเส้น
ขอให้เธอได้พบทางออกที่ดีๆ แล้วกันนะคะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ดีจากคุณป้าค่ะ  หนูคนหนึ่งที่โ ...
ต้นฉบับโพสต์โดย zampa6 เมื่อ 2010-9-23 19:56



    อ้าวทำไมงั้นอ่ะคะ แล้วหมอเค้าว่าไงอ่ะ อยากรู้ค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ดีจากคุณป้าค่ะ  หนูคนหนึ่งที่โ ...
ต้นฉบับโพสต์โดย zampa6 เมื่อ 2010-9-23 19:56



...ฉ...เฉือนหัวนม....เอ่อ.....แล้วได้ติดต่อหมอเดิมรึเปล่าคะ?
....ส่วนสำหรับคุณกรรณิกา...ขอให้เธอรักษาตัวให้หายโดยเร็วนะคะ....อย่างน้อยวิทยาการทางการแพทย์เดี๋ยวนี้ถือว่าดีค่ะ(ถ้าเลือกที่ไม่ผิดนะคะ).....เพราะคาดว่าเรื่องปากนี่...การฝังเข็มคงจะช่วยได้ค่ะ....เพราะขนาดคนตรงข้ามบ้าน...ใบหน้าเป็นอัมพาตครึ่งซีก...ไปฝังเข็มมา....ทุกวันนี้ดีขึ้นจนเกือบจะหายละล่ะค่ะ....ส่วนเรื่องคางของคุณเค้า....เอ่อ...คาดว่าถ้ารักษาตัวอะไรเรียบร้อย...คาดว่าการเสริมคางด้วยซิลิโคนน่าจะช่วยได้รึเปล่าคะ?
น่า เห็นจัย มากกๆเลย  สู้ๆๆ ค่ะเพื่อความสวย ของเราๆ
ขอบคุณมากเลยครับ ผมเรียนมาด้านวิทย์สุขภาพแต่ไม่มีเคยคิดแบบป้าเลย มีแต่ใจขึ้นจะทำ จะทำ

พอมีปัญหาเล็กน้อยก็มาเครียด ว่าจะแก้ยังไง เพราะไม่ศึกษาผลกระทบ และข้อควรรู้ ก่อน-หลัง ศัลยกรรม

ต่อไปทำอะไรจะศึกษาดีๆก่อนทำนะครับ ขอบคุณมากสำหรับวิทยาทาน  ช่วยให้คิดได้เยอะ ลดความบ้าลงเยอะเลยครับ
ชอบประโยคนี้มากครับ ฟังแล้วปรี๊ดเลย

ศัลยกรรมที่แพง  คือ ศัลยกรรมที่ทำแล้วผิดพลาด เพราะคุณต้องจ่ายด้วยเวลาที่เหลือทั้งชีวิต ไม่ใช่มูลค่าของเงินที่จ่ายไป
เป็นอีกคนที่กำลังบอบช้ำอยู่ค่ะ..ตอนนี้ต้องรวบรวมกำลังใจและทำใจเพื่อที่ตัวเอง
สะเทือนใจมากมาย ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้