|
ต่อนะคะ
วันผ่าตัด
เราได้วันผ่าคือ 23 มิถุนายน 2559 ค่ะ ผ่าที่โรงพยาบาลนนทเวช ใกล้เดอะมอลล์งามวงศ์วาน โรงพยาบาลคือพรีเมี่ยมมาก ดูใหม่ไฮโซ วัดความดัน เช็คเลือด x-rayเช็คปอด เซ็นเอกสารยินยอม เรียบร้อย พยาบาลก็พาไปนอนพักรอเวลาผ่าตัดในห้องพักค่ะ ห้องใหญ่มาก อุปกรณ์ครบครัน แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ วันนั้นตื่นเต้นไปหมด แอบหลับไปแปปนึงบุรุษพยาบาลก็มารับไปห้องผ่าตัดค่ะ
เราได้คิวผ่าตัดราวๆ 11 โมงเช้าค่ะ ก่อนผ่าตัดจะมีขั้นตอนตรวจสอบข้อมูลซิลิโคนกับคุณหมอครั้งสุดท้ายข้างห้องผ่าตัด ตอนรอคุณหมอมาบรีฟคือเราได้ยินเสียงพยาบาลปลุกคนไข้ที่ผ่าตัดเสร็จแล้วห้องข้างๆ บอกตรงๆว่าเรากลัวมาก 55555 คือหน้าซีด กลัวขนาดอยากผลักประตูไม่ทำแล้ว จะกลับบ้าน แต่คุณหมอพีระมาพอดี 555 เกือบไป คุณหมอเหมือนจะรู้ว่าเรากลัวมาก ถามใหญ่เลย กลัวเหรอไม่ต้องกลัวหรอก เค้าปลุกคนไข้ที่ผ่าตัดเสร็จแล้วให้รู้สึกตัว เราก็โอเค เบาใจหน่อยนึง
ขั้นตอนก่อนเข้าห้องผ่าคือคุณหมอจะวัดฐานหน้าอกสองข้าง ใช้ปากกามาร์ค และถ่ายรูปอีกครั้ง สรุปว่าเราได้ข้างซ้าย ทรงกลมสูงผิวเรียบ 350cc และข้างขวา 375 cc เพราะข้างขวาฐานเดิมเล็กกว่าซ้าย ,ผ่าเป็นแผลเป็นใต้หน้าอก และเสริมใต้กล้ามเนือค่ะ เสร็จแล้วเดินตามคุณหมอเข้าห้องผ่าตัด ใจเต้นตึกตักๆๆเลยค่ะ แต่ก็เชื่อใจคุณหมอ เรื่องสุดท้ายที่จำได้คือ ผู้ช่วยคุณหมอและวิสัญญีเอาหน้ากากอ๊อกซิเจนมาครอบบอกให้สูดหายใจปกติค่ะ แล้วก็ไม่เกินห้าวิ เราก็หลับไปเลยค่ะ จำไรไม่ได้ รู้ตัวอีกทีคือโดนเข็นออกมาห้องพักฟื้นแล้ว ที่อ่านรีวิวคนอื่นเค้าบอกว่า เจ็บเหมือนรถสิบล้อทับ เจ็บกว่าคลอดลูก สำหรับเราเจ็บแบบทนได้ค่ะไม่ถึงกับรถบรรทุกแน่นอน เอาจริงๆไม่ได้เจ็บขนาดนั้นเลยค่ะ ขอมอร์ฟีนพยาบาลไป 1 เข็ม นอนพักในห้องพักฟื้นประมาณชั่วโมงนึง แล้วก็โดนเข็นกลับห้องพักค่ะ
บอกตรงๆว่าเราฟื้นตัวเร็วค่ะ หลังคือผ่าตัด ไม่มีอาการอ้วก หรือแพ้ยาสลบหรือเจ็บปวดทนไม่ไหวเลยค่ะ ส่วนนึงขอให้เครดิตคุณหมอค่ะ หมอมือเบามาก เราไม่ช้ำ ไม่แพ้ (อีกอย่างตอนคุณหมอแวะมาถอดเข็มระบายเลือดเสีย แทบไม่รู้เลย มือเบาจริงๆ) ก่อนกลับบ้าน พยาบาลแวะมาให้กล่องซิลิโคน mentor พร้อมใบรับประกัน เพื่อให้มั่นใจว่าเมนเทอร์แน่ๆ ไม่ได้ย้อมแมว พร้อมถุงยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวด ยาแก้ปวดแบบยานอนหลับ พร้อมใบนัด follow-up
อีก 1 เดือนหลังการผ่าตัด
หลังจากนั้น คือค่อยๆฟื้นตัวตามระยะค่ะ เราคิดว่าตัวเองฟื้นตัวเร็วนะคะ 2-3 วันก็เดินได้แบบไม่เจ็บแผลเท่าไหร่ แต่ต้องอาศัยคนพยุงหลังตอนลุกจากเตียง แต่ค่อยดีขึ้นค่ะ
การดูแลตัวเอง
- เราพยายามไม่กินของแสลง แอลกอฮอล์ บุหรี่อะไรงี้ ปกติไม่อยู่แล้วค่ะ ของหมักของดองงดก่อน (แอบถามคุณหมอตอนตัดไหม คุณหมอบอกว่าจริงๆอาหารเรากินได้ปกติ ไม่เกี่ยวเลยว่าจะทำให้แผลนูน อะไรงี้)
- เรื่องอาบน้ำ เราใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวค่ะ ผมก็หมักหมมนิดนึง ฮ่าาา
- คุณหมอจะให้ยาทาลดรอยแผลเป็นและแผ่นปิดกันเป็นคีรอยด์มาแปะค่ะ พร้อมกะยาทานกันผังผืด
รูปหลังทำ 3 วันค่ะ
|
|