ดู: 5013|ตอบกลับ: 12
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

โบท๊อกซ์ทำให้ริ้วรอยหายไปได้อย่างไร

[คัดลอกลิงก์]
ปกติริ้วรอยมักเกิดจากการขยับกล้ามเนื้อตรงส่วนนั้นๆบ่อยๆเป็นประจำจนทำให้เกิดริ้วรอย ร่องลึกตรงส่วนที่กล้ามเนื้อมาชนกัน โบท๊อกจะช่วยลดการหลั่งของสารที่หล่อเลี้ยงเส้นประสาทที่เรียกว่า อาเซตินโคลิน ที่ทำให้เกิดการหกตัวของกล้ามเนื้อโบท๊อกซ์นั้นทำให้กล้ามเนื้อที่เป็นริ้วรอยมีความผ่านคลายทำให้ผิวนุ่มลงนั้นเอง ตรงที่เป็นริ้วรอยร่องลึกก็จะเกิดการขยายตัวออก โบท็อกซ์ จะทำปฎิกิริยากับกล้ามเนื้อส่วนที่เป็ฯสาเหตุของริ้วรอยก่อน  แล้วริ้วรอยเล็กรอบๆที่เหลือก็จะขยายตัวออกจนไม่เห็นริ้วรอยนั้นเอง และริ้วรอยที่จะเกิดใหม่ก็ยากที่จะเกิดขึ้นใหม่
การฉีดโบท๊อกซ์จะมีผลในส่วนที่ฉีดเท่านั้น เพราะฉะนั้นก็ทำให้ใบหน้ารออกมาเด้งอย่างเป็นธรรมชาติด้วย  

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโบท๊อก โบท๊อกไม่ใช่เวทมนต์แต่อย่างใด


โบท๊อกซ์เป็นโปรตีนธรรมชาติที่มีค่าบริสุทธิ์ที่สูงที่มีการสกัดจากเชื้อโรค ที่เหมือนกับการสกัดเอาเพนิซิลินจากเชื้อรา โดยทั่วไป คนเราจะสับสนกันระหว่างการฉีดโบท๊อกกับการฉีดฟิลเลอร์  มีบางคนที่มีร่องลึกตรงข้างแก้มและข้างจมูกแล้วตรงการฉีดโบท็อกตรงรอยย่น โบท๊อกไม่ใช่สารที่ทำให้รอยย่นหายไปแต่มันจะมีปฎิกิริยาให้กล้ามเนื้อตรงส่วนที่เป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยเกิดการเป็นอัมพาตไป
หลังฉีดมันจะไม่มีอะไรอยู่ใต้ผิวหนังที่เหี่ยวย่น  แต่มันทำปฎิกิริยาโดยตรงกับกล้ามเนื้อนั้นเอง

ขึ้นตอนการฉีดโบท๊อกซ์  เพื่อจะให้ผลการฉีดโบท๊อกออกมาได้ด้วยดี ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าเราต้องฉีดไปทีจุดไหนบ้าง และการฉีดโบท๊อกจะฉีดโดยใช้เข็มฉีดยาที่มีขนาดที่เล็กเรียวมากๆ และปริมาณที่จะฉีดลงไปนั้นต้องมีความเหมาะสมกับกล้ามเนื้อของส่วนที่เราจะฉีดไปด้วย ตอนฉีดแทบจะไม่ค่อยรู้สึกเจ็บเลย ความรู้สึกเจ็บเหมือนแค่มดกัด ส่วนคนที่กลัวแม้เป็นความเจ็บนิดเดียวตอนฉีด จะมีครีมทาหรือกระเป๋าน้ำแข็งทำให้บริเวณนั้นชาไปแค่ชั่วขณะนึ่งเวลาฉีดจะไม่รู้สึกเจ็บเลย  ระยะเวลาในการฉีดก็จะใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที หลังฉีดแล้วก็สามารถทำกิจกรรมประจำวันได้ตามปกติ หลังฉีดจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน จึงจะเริ่มเห็นผล และใช้เวลาประมาณ 7 วัน จึงจะเห็นผลสมบูรณ์ 100 เปอร์เซนต์

โบท๊อกซ์จะใช้ได้ดีกับหน้าแบบไหน

โบท๊อกซ์ทำให้ริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ และใช้ได้ทั่วไปหลากหลาย  ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยระหว่างคิ้ว ริ้วรอยที่หน้าผาก ริ้วรอยรอบดวงตา  และส่วนที่เหี่ยวย่นหย่อนคล้อยลงมาปิดตาก็สามารถทำให้ดูสาวขึ้นได้ด้วยโบท็อก ริ้วริยตรงริมฝีปาก รอบปาก ริ้วรอยตรงคอ รอยบุ๋มบริเวณคาง ก็สามารถเห็นได้เช่นกัน

ฉีดโบท๊อกซ์.jpg1.jpg (5.29 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 8)

ฉีดโบท๊อกซ์.jpg1.jpg
“การยิ้มหรือหัวเราะบ่อยๆทำให้ใบหน้าเหี่ยวเร็วจริงหรอ”
เป็นอีกคำถามที่คนสงสัยกันมาก บางคนบอกว่าจริง หลายคนคัดค้านด้วยเหตุผลว่า การยิ้มหรือหัวเราะทำให้อารมณ์ดีและช่วยให้ไม่แก่ ฉะนั้นแล้วการยิ้มจะทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นขึ้นได้อย่างไร

ถ้าหมอบอกว่าการยิ้มหรือหัวเราะมากๆ คืออีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้จริงๆ คุณจะเชื่อไหมคะ

ฟังแล้วอย่าเพิ่งตกใจจนหุบยิ้ม คนที่มีตีนกาปรากฏชัดเจนเวลายิ้มมากๆหรือมีรอยย่นที่หน้าผากหรือหัวคิ้วนั้น เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวทำงานดี ซึ่งไม่ใช่จะเกิดกับทุกคน ลองยิ้มหรือเลิกคิ้วดูสิคะ หากไม่มีสิ่งใดปรากฏก็จงดีใจเถิดค่ะ

ไม่ว่ารอยประสบการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นจากอายุหรือกล้ามเนื้อทำงานได้ดี วิธีการแก้ไขที่ได้รับความนิยมโดยไม่ต้องทำการผ่าตัดในปัจจุบันก็คือ การฉีดโบท็อกซ์ (Botox)
โบท็อกซ์คืออะไร
โบท็อกซ์ เป็นชื่อการค้าของยาฉีดที่บริษัทหนึ่งคิดค้นวิธีการนี้ขึ้นมาในทางการแพทย์ เรียกว่า “โบทูลินั่มท็อกซิน” (Botulinum Toxin) เป็นสารที่สกัดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง สารที่เรานำมาใช้อยู่ขณะนี้เป็นชนิดเอ

คุณสมบัติของโบท็อกซ์ คือ เมื่อฉีดเข้าบริเวณกล้ามเนื้อแล้วสามารถทำให้กล้ามเนื้อมัดนั้นคลายตัวได้
แรกเริ่มโบท็อกซ์ถูกนำมาใช้ฉีดกล้ามเนื้อตาเพื่อรักษาอาการตาเหล่ในเด็ก เมื่อปี 1977 นับแต่นั้นมาก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เริ่มนำมาฉีดเพื่อรักษาริ้วรอยบนใบหน้าที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อใบ หน้าเมื่อปี 1990 แท้ที่จริงแล้วผู้เชี่ยวชาญนิยมใช้โบท็อกซ์ในด้านความงามมาร่วมสิบปีแล้ว แต่ FDA หรือ อย.ของอเมริกาเพิ่งรับรองให้ใช้ได้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2545 นี้เอง เพราะเขาต้องการความมั่นใจว่าผลที่ได้ปลอดภัยจริงๆ

การฉีดโบท็อกซ์นั้นทำได้ง่าย เพียงแค่ฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อบริเวณที่ต้องการจะทำให้รอยย่นหายไป คล้ายกับการฉีดยาทั่วๆไป แต่เข็มที่ใช้ฉีดโบท็อกซ์นั้นมีขนาดเล็กกว่า และเจ็บน้อยกว่า เพียงแต่ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกซ์จริงๆเป็น ผู้ฉีดให้ เพราะเทคนิคการฉีดโบท็อกซ์นั้นมีความสำคัญต่อผลของการรักษาและการเกิดอาการ ข้างเคียง

บทบาทใหม่ของโบท็อกซ์
นอกจากโบท็อกซ์จะใช้ฉีดแก้ไขรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผาก หว่างคิ้วและลบเลือนรอยตีนกาแล้ว โบท็อกซ์ยังสามารถฉีดเพื่อลดคางเหลี่ยม ได้ด้วย

ปัญหาคางเหลี่ยมอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

กระดูกขากรรไกรใหญ่และยาวกว่าที่ควรจะเป็น
วิธีแก้ ไปให้หมอศัลยกรรมตกแต่งตัดส่วนที่เกินออก
กล้ามเนื้อบริเวณขากรรไกรโตและแข็งแรงหว่าปกติ
วิธีแก้ ฉีดโบท็อกซ์ลดขนาดของกล้ามเนื้อ รูปคาง แก้มจะเรียวขึ้น
โบท็อกซ์ใช้ฉีดลด "น่องทูู่"
หญิงที่น่องทูจากกล้ามเนื้อน่องแข็งแรงและโตมากๆ พอฉีดโบท็อกซ์น่องจะดูเรียวขึ้น
โบท็อกซ์ใช้ฉีดลดไมเกรน
อาการปวดหัวจากไมเกรนจะทุเลาลงจากการฉีดพรมโบท็อกซ์
อาการข้างเคียง หากฉีดโดยแพทย์มือใหม่อาจเกิดปัญหาขึ้นได้ เช่น
1.หน้าแข็งเป็นหน้ากาก ดูแล้วไม่เป็นธรรมชาติ
2.เลิกคิ้วไม่ได้ หรือคิ้วตก
3.คิ้วโก่งเกินไป ซึ่งพอชำนาญเราจะมีเทคนิคฉีดป้องกันไม่ให้เกิดได้ แต่หากฉีดในตำแหน่งแลปริมาณที่พอเหมาะ ก็จะทำให้คิ้วของคุณ โก่งสวย หางตาไม่ตก ตาโตอย่างเห็นได้ชัดเจนที่เดียว
4.ถ้าฉีดบริเวณโหนกแก้มลึกไป จะทำให้ริมฝีปากบนตกห้อยได้
5.อาการมีตาตกหลังฉีดโบท็อกซ์ พบรายงานทั่วโลก 1 – 3% แม้จะฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่สุดก็มีโอกาสเกิดได้ การเกิดหนังตาตก เกิดจากมีการไหลซึมของยาผ่านลงไปที่กล้ามเนื้อหนังตา จึงทำให้เกิดหนังตาตกชั่วคราว 1 – 4 อาทิตย์ แล้วหนังตาก็จะกลับมาเป็นปกติเช่นเดิม
     ในอเมริกา การฉีดโบท็อกซ์เป็นเรื่องธรรมดา ทั้งวัยรุ่นและวัยกลางคนนิยมไปฉีดที่คลินิกหรือโรงพยาบาล เพราะเขามองว่าการฉีดโบท็อกซ์เป็นการป้องกันรอยเหี่ยวย่น ผิดกับคนไทยที่นิยมฉีดเพราะกลัวเข็ม กลัวเจ็บ หรือไม่มั่นใจว่าหมอฉีดอะไรให้ ส่วนใหญ่จะฉีดเมื่อเกิดริ้วรอยขึ้นแล้วซึ่งหากเป็นริ้วรอยที่เกิดขึ้นมานาน และลึกโบท็อกซ์ก็ไม่สามารถคลายกล้ามเนื้อได้เต็มที่
ถึงเวลานัดมีดหมอก็ไม่สามารถช่วยกำจัดตีนกาได้ เพราะรอยย่นหางตาไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัด
      การฉีดโบท็อกซ์ 1 ครั้ง จะออกฤทธิ์นาน 3 – 6 เดือน อาจจะมีบางคนยาออกฤทธิ์อยู่ได้ 8 – 12 เดือน แต่ข้อดีของโบท็อกซ์คือ หากฉีดครั้งต่อไปฤทธิ์การทำงายจะยืดระยะนานออกไปเรื่อยๆ สมมติว่าคุณฉีดโบท็อกซ์ครั้งแรกสามารถแก้ปัญหารอยย่นได้นาน 4 เดือน คราวต่อไปก็อาจจะอยู่ได้ 6 – 8 เดือน
หลังจากฉีดโบท็อกซ์แล้ว ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ประมาณวันที่ 2 – 3หลังการฉีด หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง รอยย่นจะดีขึ้นประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ถ้าจะให้ผล 100เปอร์เซ็นต์ ก็ควรต้องรอประมาณสองอาทิตย์นับจากวันที่ฉีด
     ขณะนี้มียาคล้ายๆกับโบท็อกซ์ผลิตขึ้นจากหลายแหล่ง และราคาแตกต่างกันมาก มีทั้งจากอังกฤษ ไอซ์แลนด์ และจากจีนแดง ที่ได้ อย.ของไทยคือโบท็อกซ์จากไอซ์แลนด์ และ Dysport จากอังกฤษ ยาจากจีนแดงยังเป็นยาเถื่อนอยู่นะคะ ถ้าจะให้ปลอดภัย ใช้ยาที่ อย.รับรองจะดีกว่า เพราะถ้าไม่ใช้ยามาตรฐานหรือยาเข้มข้นเกินไป อาจมีอันตรายต่อสุขภาพได้
       โบท็อกซ์อันตรายหรือไม่
โบท็อกซ์เป็นสารที่มีความปลอดภัยสูงมาก จาการใช้มานานร่วม 30 ปี ไม่เคยมีสักรายที่มีอาการแพ้รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต แม้แต่อาการแพ้แบบผิวไว คือมีผื่นแดงหลังฉีด ก็ยังไม่เคยมีรายงานหรือพบสักราย ฉะนั้นไม่ต้องทดสอบผิวก่อนฉีด อาการข้างเคียงเล็กน้อยที่อาจพบคือ จุดช้ำแดงบริเวณที่ปักเข็มซึ่งจะหายได้เองภายใน 1 – 7 วัน
       การฉีดโบท็อกซ์หากฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญจะไม่มี อันตรายหรือผลข้างเคียงใดๆเลย แต่เพื่อความปลอดภัย หลังจากฉีดแล้ว 3 ชั่วโมงอย่างเพิ่งนอน เพราะตัวยาอาจไหลไปส่วนอื่นได้ แต่ถ้าแพทย์นวดเกลี่ยได้ทั่วจนไม่เหลือที่จะไหลไปที่อื่น ก็สามารถนอนได้เล

คะแนน

1

ดูบันทึกคะแนน

5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-2-14 11:47:32 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ขอบคุนที่เข้ามาร่วมแบ่งปันความรู้ดีๆนะค่ะ

แสดงความคิดเห็น

ยินดีค่ะ  โพสต์ 2011-2-15 14:23
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ ค่ะ         
ต้นฉบับโพสต์โดย alexandra เมื่อ 2011-2-12 03:49
ในอเมริกา การฉีดโบท็อกซ์เป็นเรื่องธรรมดา ทั้งวัย ...

สุดยอดข้อมูลดีดีค่ะ

แสดงความคิดเห็น

สมัยนี้โลกเปิดกว้างละ ต้องหาข้อมูลเยอะๆก่อนจะทำอะไรเน๊าะ  โพสต์ 2011-2-15 14:24
อยากไปฉีดเหมือนกัน อายุไม่เท่าไหรมีริ้วรอยรอบดวงตาแล้วน่าเศร้าจิงๆ ขอบคุณข้อมูลดีๆนะคะ
9#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-2-17 13:39:09 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ kung181103 ตั้งกระทู้

ใช่แล้ว เพราะตอนนี้ทางเลือกในการทำให้สวยขึ้นมามีเยอะแยะมากมาย
ก้ต้องเลือกวิธีที่เรามั่นใจแล้วก้ถูกใจมากที่สุดน่ะนะค่ะ
ขอขอบที่ได้รับข้อมูลดีๆน๊ะค่ะ
อยากฉีดลดกรามคะ กำลังหาข้อมูลอยู่พอดี ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ:)
เพื่อนที่เปนหมอบอกมา ช่วงสัปดาห์แรกที่ฉีดอย่าพึ่งเข้าสปานวดหน้าเพราะจะทำให้โบสลายไปใว
13#
 เจ้าของ| โพสต์ 2011-6-15 09:34:30 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ตอบกระทู้ sirathan ตั้งกระทู้

โดยส่วนใหญ่ พวกสารที่ฉีดเข้าไปไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า หรือส่วนใดๆของร่างกายก็ตาม ในช่วงเดือนแรก เค้าจะห้ามทำการนวดสปา ซาวน์นา หรือการออกกำลังกายหนักๆอ้ะค่ะ เพราะมันจะทำใ้ห้สารที่ฉีดเข้าไปสลายเร็วอย่างที่บอก แล้วก้พอสลายเร็วโดยวิธีการที่ไปเร่งมัน จะทำให้เกิดการผิดรูปของใบหน้าได้นะค่ะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้