‘ฟิลเลอร์’ กับ ‘โบท็อกซ์’ ต่างกันอย่างไร? มาทำความเข้าใจกันดีกว่า

primmyyy

        มีใครสงสัยมั้ยว่าฟิลเลอร์กับโบท็อกซ์ ต่างกันอย่างไร?  เราเป็นคนหนึ่งที่เคยสงสัยค่ะ แต่หลังจากที่หาข้อมมูล+สอบถามผู้รู้ ก็เข้าใจมากขึ้น วันนี้ว่างๆ ก็เลยลองเขียนกระทู้ค่ะ คิดว่าหลายคนก็คงอยากรู้เหมือนกัน เข้าเรื่องกันเลยเนอะ

        ฟิลเลอร์ คือ  ‘สารเติมเต็ม’  ที่ใช้สำหรับเติมเต็มใต้ผิวหนัง เพื่อลดและแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก ฟิลเลอร์ประกอบด้วยสารไฮยาลูโรนิค แอซิด ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนัง นอกจากเรื่องริ้วรอยแล้ว ฟิลเลอร์ยังใช้ในการปรับรูปหน้าด้วย เช่น เติมเต็มริมฝีปาก เสริมจมูก หรือใช้ในการบำรุงผิวให้กลับมาเต่งตึงเปล่งปลั่ง ฟิลเลอร์มีระยะเวลาประมาณ 1 ปี ถ้าเป็นยี่ห้อ Juvederm จะสลายไปเองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย  

        ส่วน โบท็อกซ์  คือ โปรตีนบริสุทธิ์ที่สกัดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง นิยมนำมาใช้ในการลดเลือนริ้วรอย และใช้ในการปรับรูปหน้า เช่น ลดกราม  ปรับรูปคิ้วให้โค้งสวย รักษาอาการเหงื่อออกบริเวณรักแร้มากผิดปกติ และยังใช้ในการรักษาอาการปวดไมเกรนชนิดเรื้อรัง โบท็อกซ์มีระเวลาประมาณ 4-6 เดือน ยี่ห้อที่หลายๆคนแนะนำ คือ ยี่ห้อ BOTOX ค่ะ สำหรับใครที่กังวลเรื่องผลข้างเคียง ผู้รู้หลายท่านแนะนำมาว่า  ‘ให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและฉีดกับหมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง’ แค่นี้ก็แทบไม่มีผลค้างเคียงแล้วค่ะ

        ข้อดีของฟิลเลอร์และโบท็อกซ์ :  เห็นผลได้เร็วและชัดเจน ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น และแทบไม่มีอันตรายค่ะ
  
แตกต่างกันยังไง?

       จากที่อธิบายไว้ข้างต้น คงพอจะเข้าใจต่างบ้างแล้ว แต่จะเห็นว่าโบท็อกซ์และฟิลเลอร์ใช้ในการแก้ปัญหาริ้วรอยทั้งคู่ แล้วเราควรเลือกอันไหน? อันนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของริ้วรอยค่ะ ถ้าเป็นริ้วรอยจางๆ หรือริ้วรอยไม่ถาวรเหมาะจะใช้โบท็อกซ์  แต่ถ้าเป็นริ้วรอยร่องลึก หรือริ้วรอยถาวร ควรใช้ฟิลเลอร์ค่ะ  แต่ยังไงเราก็ควรให้คุณหมอช่วยวิเคราะห์อีกทีจะดีกว่าค่ะ เพื่อจะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุดค่ะ