ดู: 4170|ตอบกลับ: 5
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[เสริมจมูก] ปัญหาและภาวะแทรกซ้อนหลังการเสริมจมูก

[คัดลอกลิงก์]



ปัญหาและภาวะแทรกซ้อนหลังการเสริมจมูกคร่า
การศึกษาข้อมูลศัลยกรรมก่อนที่คิดจะทำศัลยกรรมนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ว่ากันเรื่อง ศัลยกรรมเสริมจมูก เป็นการศัลยกรรมที่สาว  ๆ ทั้งหลายให้ความสำคัญกันมาก ปัจจุบันจึงมีผลการสำรวจออกมาว่า ศัลยกรรมยอดฮิตที่สุด คือ เสริมจมูก ให้ดูโด่งได้รูป

แต่ปัญหาและภาวะแทรกซ้อนทั่วไป ที่พบได้กับทุกๆการผ่าตัด ไม่ว่าใครทำ  โดยทั่วไป เราแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ

ปัญหาเฉพาะที่ ซึ่งเกิด ณ ตำแหน่งที่ผ่าตัด

แผลเป็น - ไม่มีบาดแผลอะไร ที่เกิดขึ้นแล้วไม่มีแผลเป็นเลยสักนิดเดียว ขอให้จำจุดนี้ไว้ ไม่ว่าหมอเก่งหรือดังขนาดไหน ก็ต้องมีแผลเป็น ลงถ้าได้ทำให้เกิดแผลแล้ว แต่มันขึ้นกับของสองอย่าง คือ เทคนิคในการทำผ่าตัดของหมอ กับธรรมชาติของผิวหนังของคนไข้เอง  ถ้าอย่างแรกไม่ดี ทำไงมันก็ไม่ดี ถ้าอย่างแรกดี แต่โชคไม่ดี ก็อาจเกิดแผลเป็นผิดปกติ ใหญ่มัก คัน โตขึ้นเรื่อยๆ (keloid)
การติดเชื้อ - อันนี้ก็เหมือนกันคือ เกิดได้เสมอ โดยเป็นผลลัพธ์จากปัจจัย 3 ประการ คือ 1) ตัวภูมิคุ้มกันคนไข้เอง 2) เทคนิคปลอดเชื้อของหมอและสถานพยาบาลผ่าตัด 3) ความรุนแรงของตัวเชื้อโรคที่มาปนเปื้อนแผลผ่าตัด
เราถือหลักกันทั่วไปว่า ถ้าเป็นแผลผ่าตัดที่ผิวหนัง อัตราการติดเชื้อไม่ควรเกิน 5%  ถ้าแผลเกี่ยวข้องกับช่องปาก จมูก หู ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ ไม่ควรเกิน 10%
การมีเลือดออก - ส่วนใหญ่เป็นที่วิธีการและความรอบคอบในการห้ามเลือดระหว่างผ่าตัด แต่ส่วนหนึ่งอยู่ที่ชนิดของการผ่าตัดที่ทำ ซึ่งบางครั้งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีเลือดออก และอาจออกต่อไปในช่วงหลังผ่าตัดใหม่ๆ กรณีนี้จึงมักใส่ท่อระบายเลือดไว้หลังผ่าตัด 1 วัน  อีกกรณีหนึ่งคือ คนไข้มีความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด คือไม่หยุดแบบคนปกติ ถ้าสังเกตตัวคุณเอง ว่าจ้ำเลือดง่ายเวลาถูกกระแทก เลือดออกแล้วไม่ค่อยยอมหยุด หรือกินยา (แอสไพริน ยาแก้ปวด ยาไขข้อ) ควรบอกหมอก่อนทำผ่าตัดใดๆ
ปวด ยวม แผลหรือบริเวณที่ทำ - อันนี้เป็นเรื่องปกติ ที่จะมากหรือน้อยขึ้นกับ การผ่าตัดว่าเลาะมาก ช้ำเยอะ  กับตัวคุณเอง ว่าจิตใจแข็งแรงขนาดไหน บางคนอะไรนิดหน่อยก็เจ็บไปหมด บางคนอดทนชมัด ไม่บ่นเลย ยาก็ไม่เอา  แต่ทั้งหมดนี้จะต้องน้อยลงเรื่อยๆเมื่อพ้น 2-3 วันแรก ถ้าความเจ็บปวดนั้นมากผิดปกติ อย่าลืมนึกถึง ปัญหา 3 ข้อแรก อาจจะเป็นเหตุได้
ชาชั่วคราว - เมื่อใดก็ตามที่มีการเลาะเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เส้นประสาทเล็กๆที่รับความรู้สึกบริเวณจะถูกรบกวนหรือทำลาย  ดังนั้น อาจพบมีความรู้สึกชา ณ.บริเวณที่ทำผ่าตัดได้ แต่จะเป็นชั่วคราว นานเพียงใดขึ้นกับการผ่าตัดว่ามากน้อยเพียงใด อาจเป็นสัปดาห์ถึงหลายเดือน  และไม่พบว่ามียาใดช่วยเร่งให้อาการดีขึ้นเร็วได้
ไม่สมความคาดหวัง - คือทำแล้ว มันไม่เป็นอย่างที่นึก สาเหตุก็คือ ไม่คุณหวังมากไป ก็หมอทำได้ไม่ดีพอ
ปัญหาต่อร่างกายโดยรวม มีผลต่อร่างกายได้ทุกระบบ

แพ้ยา - คุณมีโอกาสแพ้ยาได้หลายอย่าง ตั้งแต่ยาแก้ปวดที่กินก่อนทำผ่าตัด ยาดมสลบ ยาชาชนิดฉีดที่หมอใช้ระหว่างผ่าตัด ยาปฏิชีวนะ (ที่ชอบเรียกกันว่า ยาแก้อักเสบ)  อาการที่ควรจับตามอง มีหลายอย่าง ผื่นผิวหนัง คันตามตัว ชามือชาเท้าชารอบปาก แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก  หยุดยาแล้วรีบบอกหมอด่วน !
ความเสี่ยงจากการดมยาสลบ - เมื่อใดก็ตามที่ต้องดมยาสลบ เพื่อให้นอนหลับสิ้นสติ เราถือเป็นผ่าตัดใหญ่ คุณมีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิต หรือพิการเป็นผักได้ จากความผิดพลาดของเครื่องมือดมยาสลบ หรือจากหมอดมยา หมอผ่าตัด  แต่ความเสี่ยงนี้น้อยมาก น้อยกว่าความเสี่ยงที่เกิดจากการเกิดอุบัติเหตุในท้องถนน โดยเฉพาะกรุงเทพฯ
ดังนั้นคุณที่คิดจะเสริมจมูก ต้องเน้นว่า จะต้องปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะผ่าตัดกับโรงพยาบาลที่ดีเท่านั้น จะได้ไม่มีปัญหาตามมา

2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-18 16:40:48 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แต่สำหรับผู้ที่ทำไปแล้วและเกิดเป็นปัญหาก็ไม่ต้องตกใจไปเพราะแพทย์สามารถแก้ไขให้คุณได้ครับ มาดูกันว่าโดยส่วนใหญ่มีปัญหาอะไรและแพทย์จะแก้ไขได้อย่างไรกันบ้าง เริ่มจากจมูกคุณคดก่อนเลยก็แล้วกันนะครับ

ปัญหาที่พบเจอบ่อย ๆ ก็จะมีดังนี้

1.  จมูกคดเอียง เนื่องจากแท่งซิลิโคน แพทย์จะแก้ไขโดยเอาแท่งซิลิโคนเก่าออก และปรับช่องว่าง (Pocket) ใหม่ให้ตรงแนวกลางของจมูก แล้วใส่แท่งซิลิโคนใหม่ให้ เป็นอันเรียบร้อย หลังผ่าตัดแก้ไขจมูกคดควรจะใส่เฝือกจมูกไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ จะได้ไม่คดเอียงอีก

2. จมูกสูง หรือต่ำเกินไป ปัญหานี้แพทย์จะแก้ไขโดยการผ่าตัด เพื่อปรับแต่งแท่งซิลิโคนใหม่ ให้ได้รูปและขนาดตามที่คุณต้องการ

3. ปลายจมูกบางแต่ยังไม่ทะลุ ปัญหานี้แก้ไขโดยแพทย์จะใช้เนื้อเยื่อบริเวณหลังใบหูด้านใดด้านหนึ่ง (Dermal-fat graft) หรืออาจจะมีส่วนกระดูกอ่อนของใบหู (Cartilageneus graft) แล้วแต่กรณีมาเสริมบริเวณเนื้อเยื่อปลายจมูก เมื่อเนื้อเยื่อใหม่อยู่ตัวแล้ว ปลายจมูกจะมีผิวหนังที่แข็งแรงขึ้น ลำหรับแท่งซิลิโคนควรปรับเปลี่ยนใหม่ให้แรงกดไม่อยู่บริเวณปลายจมูกมากนัก

4. จมูกที่มีแท่งซิลิโคนทะลุ กรณีนี้ต้องเอาแท่งซิลิโคนออก ปลายจมูกจะยุบตัวลงและมีรอยแผลเป็น

5. จมูกมีการติดเชื้ออักเสบ มักจะพบในช่วง 1-2 อาทิตย์ หลังจากเสริมจมูก จมูกจะมีอาการปวดบวม แดง ร้อน กรณีนี้ต้องเอาแท่งซิลิโคนออกก่อน เมื่ออาการอักเสบหายหมดจึงจะใส่แท่งซิลิโคนใหม่ได้

โดยทั่วไปแล้ว การเสริมจมูกด้วยแท่งซิลิโคน เป็นวิธีที่ทำกันแพร่หลายและได้ผลดีมาก คุณไม่ต้องเป็นกังวลใด ๆ เพียงคุณเลือกทำในโรงพยาบาลที่พร้อม มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญ และทำตามที่หมอแนะนำข้างต้น ที่สำคัญคือ อย่าพยายามเสริมจมูกสูงหรือเลือกทรงจมูกที่ฝืนธรรมชาติมากเกินไป คุณก็จะได้เปลี่ยนรูปลักษณ์ให้โดดเด่นสวยเก๋มีจมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าแน่นอน
อิอิ อย่าคิดมากเวลาเท่านั้นที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น จุีฟๆ
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-2-18 17:18:06 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ต้นฉบับโพสต์โดย EFiERCE เมื่อ 2013-2-18 17:15
อิอิ อย่าคิดมากเวลาเท่านั้นที่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้น จ ...

ช่ายแล้วค่ะ และอีกอย่างต้องเลือกหมอที่มีประสบการณ์ พร้อมกับดวงค่ะ อิๆ
เพิ่มความรู้ได้เยอะเลยค่ะ ชอบ ๆ มีเรื่องดี ๆ เอามาบอกต่ออีกนะค่ะ

แสดงความคิดเห็น

ได้เลยคร่า..วันว่างๆก้อเลยมาบอกค่ะ ขอบคุนที่อ่านนะคะ  โพสต์ 2013-2-18 19:53
ให้ความรู้และเป็นประโยชน์มากๆค่ะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้