|
ศัลยแพทย์ไทย โชว์เทคนิค “Modern facelift 7s” เพื่อการศัลยกรรมดึงหน้า ตอบโจทย์คนไม่ยอมแก่ พร้อมให้ผลลัพธ์ยาวนานยิ่งขึ้น ลดระยะเวลาการพักฟื้น แผลเล็ก หายเร็ว และดูเป็นธรรมชาติ
กว่า 100 ปีของการเริ่มต้นศัลยกรรมมนุษย์คนแรกจนถึงปัจจุบัน วิวัฒนาการและเทคนิคทางการแพทย์ ผลักดันให้ “ศัลยกรรม” เป็นทั้งบริบทแห่งการรักษาและเสริมความงามเพื่อเพิ่มความมั่นใจ พร้อมทั้งได้รับความนิยม และเปิดเผยกันเพิ่มมากขึ้น โดยเทรนด์ศัลยกรรมทั่วโลกที่ได้รับความสนใจในอันดับต้นๆ คือ การศัลยกรรมตา, การเสริมจมูก, การเสริมหน้าอก, การดูดไขมัน และการศัลยกรรมดึงหน้า
ในการประชุมวิชาการประจำปี 2562 ศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด หนึ่งในผู้นำด้านศัลยกรรมความงามของประเทศมายาวนานกว่า 30 ปี ได้มีการเปิดเผยถึงข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับศัลยกรรมดึงหน้าในปัจจุบัน พร้อมเปิดตัวเทคนิคใหม่ที่ได้คิดค้นและพัฒนาจนมาเป็นเทคนิค “Modern facelift 7s” โดย นพ.ธนัญชัย อัศดามงคล แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง และผู้อำนวยการศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด ว่า
“จากการเก็บรวบรวมสถิติคนไข้ศัลยกรรม ประจำศูนย์ศัลยกรรมความงาม รพ.บางมด พบว่า ที่ผ่านมา ศูนย์ฯ มีจำนวนคนไข้เข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าสูงถึง 4,000 รายต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันแม้การศัลยกรรมดึงหน้าจะเริ่มได้รับความนิยม แต่ก็ถือเป็นศัลยกรรมที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยทีมแพทย์ได้ใช้ระยะเวลาในการศึกษา คิดค้น และพัฒนาจุดเด่นของการศัลยกรรมดึงหน้าในแต่ละยุคมาผนวกรวมกัน จนเกิดเป็นเทคนิค “Modern facelift 7s” ขึ้นมา เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อคนไข้”
สำหรับเทคนิค “Modern facelift 7s” มีหลักการสำคัญคือ แผลเล็ก เจ็บน้อย หายเร็ว และ ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งจุดเด่นของเทคนิคนี้ สามารถทำศัลยกรรมดึงหน้าแบบแยกส่วนได้ ทำเฉพาะส่วนที่เป็นปัญหาจริงๆ ไม่จำเป็นต้องทำทุกส่วน เมื่อการผ่าตัดสามารถทำแบบแยกส่วนได้ จึงไม่จำเป็นต้องทำเยอะ เพราะยิ่งทำน้อย ยิ่งปลอดภัย และในการผ่าตัดสามารถใช้การฉีดยาชาแทน ซึ่งจะมีความปลอดภัยกว่าการดมยาสลบ ทำให้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยลง เพราะทำเพียงบางส่วน รวมทั้ง ยังสามารถดึงหน้าในชั้นลึกได้ พร้อมปรับความตึงในการเย็บกล้ามเนื้อ ตามความหย่อนคล้อยของแต่ละคนได้
ดังนั้น ก่อนผ่าตัดแพทย์จะมีการวิเคราะห์ ด้วยวิธีการ Grading ความหย่อนคล้อยของใบหน้าในแต่ละส่วน และผ่าตัดตามความหย่อนคล้อยของคนไข้แต่ละคน ตรงกับปัญหาของแต่ละคนมากขึ้น และทำให้ใบหน้าดูเป็นธรรมชาติมาก ช่วยให้ใบหน้าคงความกระชับได้ยาวนานมากขึ้น
“เพราะปัจจัยด้านความแตกต่างของช่วงอายุ สภาพของผิวหนัง และปัญหาความหย่อนคล้อยในแต่ละบุคคล ทำให้เทคนิค “Modern facelift 7s” เป็นคำตอบที่มีความลงตัวสำหรับคนไข้ และให้ผลลัพธ์ที่ดีในเรื่องความเป็นธรรมชาติ เพราะนอกจากจะมีการวิเคราะห์ปัญหาในแต่ละบุคคลอย่างตรงจุดโดยเทคโนโลยีที่มีความทันสมัย และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว การผ่าตัดยังสามารถลงในระดับชั้นลึกได้อีกด้วย ดังนั้น คนไข้ไม่จำเป็นต้องทำทั้งใบหน้า แต่ทำเฉพาะส่วนที่มีปัญหาเท่านั้น ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยแล้ว ใบหน้าก็จะดูเป็นธรรมชาติด้วย” นพ.ธนัญชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม เทคนิค “Modern facelift 7s” ขณะนี้ยังไม่ได้เปิดรับผ่าตัดให้กับบุคคลทั่วไป คาดว่าจะเริ่มให้บริการช่วงต้นปี 2563
|
|