สวัสดีค่ะ หลิวนะคะ เป็นพนักงานโรงพยาบาลศัลยกรรมบาโนบากิค่ะ
วันนี้มาอัพเดทช่วง 2 สัปดาห์ให้ดูกันค่ะ จริงๆช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงมาค่ะ
จะมีความบวมหน้าที่บวมขึ้นๆลงๆ แล้วแต่อาการสแต่ละวัน
ช่วงนี้เกาหลีร้อน วันไหนร้อนมากๆ หน้าก็จะค่อนข้างบวมค่ะระ
นี่คือรูปวันที่ 9
ตายังช้ำมากๆแต่มาทำงานแล้วนะคะ ลูกค้าก็มีตกใจกันบ้าง
แต่เราก็ไม่ได้ซีเรียสค่ะ ออกไปเจอลูกค้าตามปกติ อย่างวันที่ 9นี้จะถือว่าค่อนข้างบวมมากๆค่ะ
จะเห็นว่าข้างๆหูจะมีเทปสีขาวๆ แปะไว้อยู่ เทปนี้จะเริ่มแปะตั้งแต่วันที่ 9ที่ตัดไหมหน้าหู
ไหมตรงนี้คือแผลโหนกแก้มค่ะ ต้องแปะทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน
แต่ถ้าหลุดก่อนก็สามารถปล่อยให้หลุดไปได้เลย
ส่วนที่เราอยู่ครบทั้งที่อาบน้ำสระผมวันเว้นวัน แกะออหกวันที่ครบกำหนดพอดีค่ะ
วันที่12หลังผ่าตัด
ช่วงนี้ก็ยังมีอาการบวมอยู่มากๆค่ะ ยังทายาและกินยาอยู่
ยังประคบเย็นอยู่เรื่อยๆ และเริ่มรัดหน้ามาตั้งแต่วันที่ 7 รัดบ้างไม่รัดบ้าง เพราะยังมีไหมอยู่ในปาก
ตอนรัดหน้าเลยจะค่อนข้างเจ็บ พอเจ็บเราก็จะไม่รัดค่ะ รัดเท่าที่ไหวพอ ไม่ไหวไม่ฝืนค่ะ><
ถ้าให้แนะนำว่าระหว่างผ่าตัดควรกินยาอะไรดูแลตัวเองยังไง
ส่วนตัวเรารู้มาก่อนแล้วว่าผ่าตัดจะต้องสอดท่อ และอาจจะเจ็บคอ มีเสมหะได้
เลยเตรียมยาพ่นคอมาเผื่อ จะบอกว่าช่วยได้มากจริงๆค่ะ
และระหว่างนั้นก็มีทานยาลดน้ำมูกบ้างเพราะทำจมูกมาก้ยังมีน้ำมูกอยู่เยอะมากๆ
จำว่าเลิกทานอีกทีคือวันที่ 14 หลังผ่าตัดเลย แต่ไม่ใช่ว่าน้ำมูกหมดแล้วนะคะ
แต่ใส่แมสไว้ ไม่อยากทานยาเยอะให้ร่างกายได้ปรับตัวด้วยตัวเองบ้าง5555
และสิ่งสำคัญที่คิดว่าน่าจะช่วยอาการบวมได้บ้างคือน้ำฝักทองค่ะ
เรากินน้ำฝักทองหลังผ่าตัด ทานบ้างไม่ทานบ้าง บางวันก็ไม่มีเวลาเลยไม่ได้ทาน
จะบอกว่ารสชาติค่อนข้างแย่เลยค่ะ
ขนาดเป็นคนชอบกินผลไม้ก็คิดว่ากินยากเลยต้องแช่เย็นถึงจะกินง่ายขึน
ยาพ่นคอ
น้ำฝักทอง
และนี่คืออาหารที่เราทานช่วงแรกๆค่ะ
-นม -โปรตีน(ยี่ห้อในรูปอร่อยสุดค่ะㅠㅠ) -โจ๊ก
ช่วงแรกก่อนตัดไหมในปากก็จะเน้นกินอาหารอ่อนๆยังเคี้ยวอะไรไม่ค่อยได้
อย่างรูปด้านบนเราจะเน้นกินโปรตีนเป็นหลัก โจ๊กก็กินบ้างเพราะต้องทำงานจำเป็นต้องมีสารอาหารค่ะ
และหิวด้วย ต้องใช้ชีวิต 55555
แต่ทุกคนไม่ต้องกลัวจะอดตายนะคะ เพราะเราผ่านมาแล้ว
เป็นคนที่กินค่อนข้างเก่ง เลยลองเคี้ยวอะไรดูบ้าง พอเริ่มกินได้ก็กินค่ะ
แต่เอาจริงๆจะบอกว่าที่กินๆไปคือติดอยู่ในปากที่บวมๆแล้วประมาณ60% กินไปจริงแค่40%ค่ะ