เจ้าของ: kibkaeshop
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[สักคิ้ว/ปาก/หัวนม] เครียดมากค่ะ สอบถามคนเคยลบรอยสักคิ้วถาวร

[คัดลอกลิงก์]
1#
โพสต์ 2012-6-1 09:41:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย kibkaeshop เมื่อ 2012-2-24 15:27
ไม่ได้ปิดอะไรออกมาจากบ้านเลยอ่ะค่ะ ออกมาทำงานทุกว ...

หลังการลบรอยสักด้วยแสงเลเซอร์แล้วแพทย์จะแนะนำให้คุณดูแลตัวเอง ดังนี้
- ประมาณ 24 ชั่วโมง หลังทำเลเซอร์ให้แกะพลาสเตอร์ปิดแผลออก และไม่ควรให้บริเวณแผลถูกน้ำเป็นเวลา 2-3 วัน
- ถ้ามีอาการปวดแผล ให้รับประทานยาแก้ปวดครั้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง
- กรณีที่แผลมีอาการอักเสบ บวมแดง ให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการ และสาเหตุของการอักเสบ
- แผลจะแห้งตกสะเก็ด และหลุดเองภายใน 1-2 สัปดาห์ คุณไม่ควรแกะสะเก็ดออกเอง
- ไม่ควรใช้เครื่องสำอาง หรือครีมอื่นใดทาบนแผล จนกว่าสะเก็ดจะหลุดออกหมด หรือแผลหายสนิทแล้ว
- หลังแผลหายควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และใช้ครีมกันแดดติดต่อกันอย่างน้อย 2-3 เดือน และมารับการตรวจตามแพทย์นัด
2#
โพสต์ 2012-6-1 13:00:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย เด็กไก่ เมื่อ 2012-6-1 01:22
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เด็กไก่ เมื่อ 2012-6-1 01:35

ไม่ทราบ ...

เมื่อยิงเลเซอร์แล้ว บริเวณที่เป็นรอยสักก็จะเป็นสะเก็ดสีดำ อยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ สะเก็ดก็จะหลุดลอกออกหลังจากนั้นจะเห็นว่าสีของรอยสักจางลงไป

ไม่ต้องกังวลว่าเลอซอร์ลบรอยสักแล้วจะมีปัญหาขนคิ้ว เพราะ เลเซอร์ต่างชนิดกัน  จึงมีช่วงความยาวและความกว้างของคลื่นที่ไม่เหมาะสม ที่จะให้พลังงานเพียงพอไปยังขน เพื่อทำลายขน จึงไม่มีผลต่อขนคิ้ว

สำหรับการทำลายขน  คลื่นแสงในแต่ละความยาวคลื่นก็มีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนี้

       1.คลื่นแสงที่มีความยาวคลื่น 590-1,200 nm หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ IPL
       2.เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 800 nm หรือที่เรียกว่า Diode Laser        
       3เลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1,064 nm หรือที่เรียกว่า Long Pulse ND-YAG Laser หรือที่คุ้นหูว่าแย๊ก  
3#
โพสต์ 2012-6-3 14:46:54 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย kibkaeshop เมื่อ 2012-6-3 11:22
ขอบคุณมากค่ะตอนนี้จะสี่เดือนเเล้ว เปนเเผลเปนนูนเร ...

ต้องแยก  “แผลเป็นนูน”  2 ชนิด คือ Hypertrophic Scar (แผลเป็นนูน) กับ Keloid (เนื้องอกแผลเป็น)
1 แผลนูนชนิดธรรมดา เรียกว่า Hypertrophic Scar   แผลจะมีลักษณะนูนอย่างเดียว ไม่ขยายขอบออกจากแผลเก่า ซึ่งแผลอาจมีขนาดเล็กลงได้เองโดยไม่ต้องทำอะไร  
2 แผลเป็นที่มีลักษณะนูนและแดง เรียกว่า คีลอยด์ (Keloid) จะมีขนาดใหญ่กว่าแผลเดิม และลามออกไปยังผิวหนังบริเวณข้างเคียง กว้างใหญ่กว่าแผลตอนเริ่มต้น มีลักษณะนูน แข็ง หรือหยุ่นคล้ายยาง ผิวมัน มองเห็นชัดเจนจากผิวหนังปกติ มีสีแดงเนื่องจากมีเส้นเลือดมาเลี้ยงเป็นจำนวนมาก อาจจะมีอาการเจ็บ คัน ร่วมด้วย อาจจะกดแล้วเจ็บ ก้อนเนื้ออาจจะค่อยๆ โตขึ้นหรือคงที่แต่จะใหญ่กว่าแผลเดิม
เกิดจากการแบ่งตัวที่ผิดปกติของเนื้อเยื่อผิวหนังส่วนที่เป็นแผล ผิวหนังมีการสร้างเนื้อเยื่อซ่อมแซมที่มากเกินไป จนทำให้เกิดการขยายตัวกว้างขึ้นมากกว่ารอยแผลที่เป็นอยู่ และพันธุกรรมมีส่วนทำให้เกิดรอยโรคได้

วิธีการรักษาแผลเป็นนูน: มีหลายวิธีดังนี้
   1. การใช้ยาทาแก้แผลเป็น เช่น ยากลุ่มสเตียรอยด์ ยาที่มีวิตามิน E หรือ A เป็นส่วนประกอบ กรณีที่แผลเป็นนูนเป็นเพียงเล็กน้อยและไม่นานนัก ซึ่งโดยทั่วไปอาจช่วยลดอาการคันหรือทำให้แผลเป็นสีจางลง หรือบางลงได้เล็กน้อย ซึ่งก็ต้องใช้เวลาพอสมควร
   2. การใช้แผ่นซิลิโคนเจลปิดบริเวณแผลเป็น สำหรับแผลเป็นที่เป็นใหม่ๆ เพื่อช่วยลดการขยายตัวของแผล
   3. การฉีดยาสเตียรอยด์ที่บริเวณแผลเป็น เพื่อให้แผลเป็นยุบลง โดยต้องฉีดหลายครั้ง  ครั้งละประมาณ 0.5 - 1 cc ห่างกันประมาณเดือนละ 1 ครั้งจนกว่าแผลจะยุบและเรียบ  ซึ่งใช้เวลาไม่เท่ากันในแต่ละแผลเป็น
   4. กรณีของแผลเป็นที่มีลักษณะการเปลี่ยนแปลงของสีผิว เช่น สีเข้มหรืออ่อนกว่าสีผิวข้างเคียง แพทย์อาจต้องใช้ วิธีการสักสี เข้าไปในแผลเป็น เพื่อให้มีสีใกล้เคียงกับผิวหนังปกติได้
นอกจากนี้แล้ว ยังอาจมีวิธีอื่นๆ ในการรักษาแผลเป็น เช่น การใช้เลเซอร์บางชนิด

สำหรับการรักษาแผลเป็นดังที่กล่าวมา ทางการแพทย์พยายามที่จะคิดค้นหาวิธีการที่จะแก้ไขและรักษาแผลเป็นให้กลับคืน สู่สภาพผิวปกติ แต่พบว่ายังไม่มีวิธีใดที่จะรักษาให้หายได้ 100% แต่ก็สามารถทำให้ดีขึ้นได้บ้าง แต่ก็จะดีขึ้นในระดับหนึ่ง จนไม่เป็นที่สังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน ฉะนั้นต้องทำใจ  ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของแผลเป็น และวิธีการรักษา คุณสามารถขอคำปรึกษาได้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง

ในการรักษาแผลเป็นไม่ว่าวิธีใด ควรระมัดระวังไม่ให้เกิดการระคายเคืองกับแผล เช่น ไม่ควรเกาหรือขัดด้วยสารเคมี เนื่องจากอาจทำให้การรักษาไม่ได้ผลดีเท่าที่ควรจะเป็น หากคันจนทนไม่ไหวก็ควรใช้วิธีลูบเบา ๆ ที่แผลไม่ควรเกาแรง ๆ เพราะอาจจะทำให้แผลปูดได้

4#
โพสต์ 2012-6-11 10:45:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย เด็กไก่ เมื่อ 2012-6-4 10:14
ตอนนนี้ที่ทำอยู่ค่ะ RevLite
กลไกการรักษา:RevLite ถือว่าเป็น ...

RevLite® เป็นเลเซอร์สายพันธุ์อเมริกา ที่ผลิตจาก บริษัท HOYA ConBio® ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงด้านเลเซอร์ของอเมริกา
เพื่อใช้รักษาปัญหาเม็ดสีที่ผิดปกติ ( Pigment Lesions) โดยเฉพาะ จัดเป็น Pigmented Laser ชนิด Q-switched laser รุ่นใหม่ล่าสุด ( The next generation of Q-switched laser technology) ที่พัฒนาจากเลเซอร์กลุ่ม Medlite Series ( C3-C6) และ จัดเป็น เลเซอร์ที่ผ่านการรับรองเรื่องประสิทธิภาพและประสิทธิผลจาก FDA ของอเมริกาเรียบร้อยแล้ว
RevLite® เป็น Q-switched laser ที่ได้มีการพัฒนาให้มีคุณลักษณะที่โดดเด่น ด้วยเทคนิคเฉพาะที่เรียกว่า PhotoAcoustic Technology Pulse(PTP) มีค่าพลังงานมากขึ้น แต่ระยะเวลาในการยิงสั้น มีความจำเพาะต่อรอยโรคที่แม่นยำขึ้น (delivers very narrow pulse widths at peak energy ) จึงได้ผลมากขึ้น เร็วขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น และยังเหมาะกับทุกสภาพสีผิว ผลข้างเคียงน้อยกว่าเลเซอร์รุ่นเดิมๆ ซึ่งจะทำงานแบบ Photothermal effect คือจะมีระยะเวลายิงที่ยาว( longer pulses width) และมีความร้อนสะสมที่ผิวสูง จึงมีอันตรายต่อผิวหน้ามากกว่า และไม่เหมาะกับคนสีผิวเข้ม เช่น ผิวเอเชียหรือผิวดำ จะเกิดผลข้างเคียงได้ง่ายกว่า (รอยดำ-PIH) แต่เลเซอร์ RevLite® เหมาะกับทุกสภาพสีผิว สามารถเลือกยิงได้ หลากหลายช่วงความยาวคลื่น(multi-wavelength) จึงเพิ่มขีดความสามารถได้มากกว่า Q-switched laser รุ่นก่อนหน้านี้
RevLite® มีความโดดเด่นกว่าเลเซอร์เม็ดสีรุ่นก่อนๆ ในการรักษารอยโรคของเม็ดสีผิดปกติ คือ สามารถปรับพลังงานได้และมีระดับพลังงานสม่ำเสมอ สามารถยิงในทุกพื้นที่ แม้แต่ที่แคบๆ หรือที่กว้างๆ ได้ ด้วยหัวเลเซอร์ตั้งแต่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-8 มล.จึงสามารถยิงได้ทั่วร่างกาย อย่างทั่วถึง ในระยะเวลาที่รวดเร็ว ในขณะที่เครื่องเลเซอร์รุ่นก่อนยิงได้เฉพาะจุดเท่านั้น จึงทำให้ใช้เวลานานกว่า


     Tattoo Removal (Full-color Spectrum)  สำหรับ การลบรอยสักทุกชนิด  RevLite® และ Medlite ถือว่าเป็นเลเซอร์ที่สามารถลบรอยสักที่ได้ผลดีสุดในปัจจุบัน (Gold Standard device for multi-color tattoo removal ) เพราะสามารถลบรอยสักได้ตั้งแต่สีดำ สีแดง สีเขียว แม้แต่สีน้ำเงิน ฯลฯ เพราะมีหลากหลายช่วงคลื่นให้เลือกใช้ และหลังทำสีผิวจะกลับมาเหมือนปกติ กำจัดได้หมดจด ไม่ปรากฏเม็ดสีให้หลงเหลืออยู่เลย และไม่เกิดรอยแผลเป็นหรือรอยด่างขาวหลังทำ ซึ่ง YAG lasers แบบเดิมๆ จะลบรอยสักได้เฉพาะบางสีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีหัวยิงที่ใหญ่ ทำให้สามารถลบรอยสักในบริเวณกว้างๆ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ลดความเจ็บปวดลงได้มาก เพราะถ้าใช้เวลาในการลบรอยสักนานเกินไป เหมือนเลเซอร์รุ่นเก่าๆ อาจจะทำให้ยาชาที่ทาทิ้งไว้ ฤทธิ์ลดลงไป และด้วยเทคนิคนี้ พบว่า ในปี ค.ศ. 2005 MedLite® C6 ได้รับรางวัลเลเซอร์ที่ดีที่สุดในการลบรอยสัก ดังนั้น RevLite® เป็นรุ่นที่ พ้ฒนาจากรุ่นนี้ ก็ต้องมีความสามารถไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
5#
โพสต์ 2012-6-11 10:51:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย เด็กไก่ เมื่อ 2012-6-3 17:26
ตอนนี้ทำมา 3 วันแล้ว คิ้วไม่บวมเหมือนวันแรก เริ่มมีต ...

ผ่านมาถึงวันนี้ ตอนนี้เป้นยังไงแล้วครับ
6#
โพสต์ 2012-6-11 11:01:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย เด็กไก่ เมื่อ 2012-6-3 17:24
หลังจากเลเซอร์ ไม่เห็นหมอให้ดูแลอะไรเลยค่ะ  ไม่มีอา ...

ต้นฉบับโพสต์โดย เด็กไก่ เมื่อ 2012-6-3 17:24   

หลังจากเลเซอร์ ไม่เห็นหมอให้ดูแลอะไรเลยค่ะ  ไม่มีอาการอะไรนอกจากบวม ก็เอาเจลเย็นประคบ ก็ยุบลงค่ะ สีคิ้วดูจางลง 10 % ในครั้งแรก ไม่แซบ ไม่ปวด ไม่มีแผล ไม่ตกสเก็ต ไม่มีอะไรนอกจากคิ้วเดิมที่เป็นสีดำน้ำตาล  อนนี้กลายเป็นสีน้ำตาลแดงอ่อนๆ  จางๆๆ  หมอนัดอีก 2 เดือนมาเลเซอร์ครั้งที่ 2 ค่ะ  หมอบอกว่า เครื่องเลเซอร์ทำงานโดยการจับเม็ดสีที่สักในชั้นลึก ไม่ทำให้ผิวหนังมีแผล หรือผล้างเคียงอื่น  แล้วการทำงานก็เป็นการยิงเพื่อให้เม็ดสีกระจายตัวออก แล้วให้เม็ดเลือดาวในร่างกายเก็บกิน และกำจัดออกจากร่างกายเองโดยธรรมชาติ  จึงใช้เวลาพักร่างกาย ระยะเวลานานครั้ง ละ 2 เดือน  ค่ะ





ตอบ

แต่ไม่ควรขัดถูผิวบริเวณที่ยิงเลเซอร์ หลังการรักษา คนไข้ควรต้องทาครีมกันแดดปกป้องผิว เลี่ยงแดดหลังทำประมาณ 5-7 วัน เพราะบางคนมีฝ้าแฝงโดยไม่รู้ตัว เมื่อเจอความร้อนจากแสงแดด ทำให้เกิดรอยดำ หรือฝ้ากลับมาอีกได้

ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้
เครื่องเลเซอร์ RevLite® เป็นเครื่องเลเซอร์ที่กำจัดเม็ดสีโดยเฉพาะ จึงมีความไวมากในการกำจัดเม็ดสี บางครั้งหลังจากการยิงเม็ดสีแล้ว อาจจะทำให้เซลล์เมลานินไม่ทำงาน เกิดร่องรอยด่างขาวได้ ซึ่งอาจจะเป็นชั่วคราวหรือถาวร ดังนั้นในการรักษาด้วยเครื่องเลเซอร์ RevLite® จึงควรเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทีมีประสบการณ์และมีเทคนิคในการรักษา เช่น อาจจะยิงครั้งเดียวก่อนเพื่อรอดูว่าเม็ดสีกลับคืนมาอีกหรือไม่ ถ้าจะกลับมาอีก ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้ผล เพราะสามารถนัดมาทำซ้ำได้อีก เพราะบางทีแพทย์อาจจะไม่ยิงซ้ำทันทีเพราะการยิงซ้ำทันทีอาจทำให้เม็ดสีหายไปเลยหรือในบางคนยิงแล้วอาจเกิดรอยดำ



จำนวนครั้งในการทำ แพทย์อาจจะนัดทำการรักษาทุก 2-4 อาทิตย์ บางคนอาจทำเพียงครั้งเดียวก็เห็นผล หรือบางคนอาจทำ 2-5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละคน


สนใจอยากจะดูวิดีโอ การทำงานของเลเซอร์ตัวนี้ หรือศึกษาเพิ่มเติม คลิกดูที่นี่ http://www.youtube.com/watch?v=P88174WBOkM

แสดงความคิดเห็น

อยากเลเซอร์ลบคิ้วค่ะ เลเซอร์ที่ไหนดีคะ  โพสต์ 2016-11-9 09:51
7#
โพสต์ 2012-6-16 00:49:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย kibkaeshop เมื่อ 2012-6-3 11:22
ขอบคุณมากค่ะตอนนี้จะสี่เดือนเเล้ว เปนเเผลเปนนูนเร ...

ระหว่างรอผลว่าทางthe kliniqe จะยังไงต่อ ตอนนี้ไปถึงไหนแล้วครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้