ดั้งโด่งดอทคอม

ชื่อกระทู้: ความงาม หรือ ความทรมาน [สั่งพิมพ์]

โดย: pattezia    เวลา: 2010-3-28 09:55
ชื่อกระทู้: ความงาม หรือ ความทรมาน
พอดีไปอ่านเจอก็เลยเอามาแบ่งปันกันจ้า ถ้าโพสต์ซ้ำขออภัยด้วยนะค่ะ ^^

Credit by: http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X9015345/X9015345.html

คงต้องอรัมภบทก่อนเข้าเรื่องนิดนึงนะ ชื่อโรคชนิดนี้มาจากภาพยนตร์เรื่อง Dorain Gray ไม่รู้ว่าใครในที่นี้เคยดูภาพยนตร์เรื่องนี้กันรึยัง แต่เราอยากดูเพราะพระเอกหล่อมาก อิอิอิ



เนื้อเรื่องมีอยู่ว่า ดอเรียน เกรย์ หนุ่มน้อยหน้ามนใสซื่อหน้าตางดงามและยังเยาว์ผู้เดินทางมาถึงกรุงลอนดอนเพื่อย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านซึ่งเขาได้รับเป็นมรดก  เขาได้มาเป็นแบบวาดรูปให้กับศิลปินชายชื่อเบซิล ตาเบซิลนี่วาดไปก็หลงรักและหลงไหลในความงามของดอเรียน เกรย์ เบซิล นั้นชื่นชมรูปโดเรี่ยน เกรย์ ที่เขาวาดเป็นอย่างมากและยกให้เป็นผลงานชิ้นเอกของเขาที่ใส่อารมณ์ศิลปินของเขาไปมากที่สุด

หล่อได้อีก อิอิอิ

โดย: pattezia    เวลา: 2010-3-28 09:57
วันหนึ่ง ลอร์ด เฮนรี วอทตัน หนุ่มใหญ่เจ้าเสน่ห์มีเมียแล้ว ได้มาเยี่ยมเบซิล เบซิล ได้แนะนำดอเรียนให้รู้จักกับท่านลอร์ด ตาลอร์ดพิลึกพิลั่นกว่าชาวบ้านเขาอยู่สักหน่อย เป็นพวกที่บูชาสิ่งสวยงามเป็นนิจสิน ลอร์ดเฮนรี่อยากเป็นชายหนุ่มที่พร้อมทั้งความงดงามและความอ่อนเยาว์ (อย่างที่ตัวเองไม่มี) จึงปั้นโดเรียน เกรย์ให้เป็นชายหนุ่มที่กระทำในสิ่งที่เขาปรารถนาจะกระทำมาโดยตลอด ลอร์ด เฮนรี่จึงได้ยัดความคิดเรื่องการบูชาสิ่งสวยงามให้กับโดเรี่ยน แล้วก็กล่าวว่า "น่าเสียดายนะที่ความงามของโดเรี่ยนก็จะจบลงไปเมื่อกาลเวลาผ่านเลย"

ดอเรียนได้ยินดังนั้นจึงพูดออกว่าโดยที่ไม่คิดอะไรว่า "อยากให้รูปเหมือนของตัวเองนั้นแก่ลงไป ในขณะที่ตัวเองจะยังหนุ่มตลอดไป" ดอเรียนไม่รู้เลยว่าคำพูดพล่อยๆ ของเขานั้นจะกลายเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ และพลังอันยิ่งใหญ่นั้นก็ทำให้คำขอของเขาเป็นจริง

ลอร์ดเป็นผู้ชักนำดอเรียนให้ได้รู้จักกับโลกที่เต็มไปด้วยตัณหาและความโลภ ทำตัวสำมะเลเทเมา มีแต่คนหลงไหลทั้งชายและหญิง ตอนแรกไปรักผู้หญิงคนนึงถึงขั้นจะแต่งงานด้วย พอลอร์ดเฮนรี่พาไปเที่ยวผู้หญิง ไปรู้จักว่าความงามและความอ่อนเยาว์แบบนี้มันยังสร้างความรื่นเริงให้ชีวิต ได้อีกเยอะ จะรีบแต่งงานมีครอบครัวไปทำไมกัน มิสเตอร์เกรย์เลยเลิกคิดจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นไปเลย ขนาดผู้หญิงคนนั้นเสียใจฆ่าตัวตายไปแล้ว อีลอร์ดนี่ก็ยังเสี้ยมต่อว่า จะไปติดใจผู้หญิงคนเดียวทำไม ข้างหน้ามีผู้หญิงอีกมากมาย


โดย: immityDoock    เวลา: 2010-3-28 09:58
ชื่อกระทู้: university of virginia lacrosse camps 5
Us navy questions boot camp Pierpoint resort near camp nelson Girls camps boulder junctio Calico critters country market dollhouse Bald eagle boys camp Soccur camp Camp heady Camp counselor staff manuals Charitable camps in michigan Camp mockingbird alberta Smiling river campground camp sherman oregon Camp bandina kerrville Sarasota parks and recreation camp Revolution summer christian camp Danver camp pa Sushi chalet coupon Camp songs recorded mpg Boy scout troops camp pendleton Walesby forest camp site Riverside bible camp Rose trail camp ground Basketball camp seattle pacific university Team duals camp iowa western dubuque Las vegas soccer camp Todra gorge camp sites Ccc camp g-89 jordan valley Diseny chanly moive camp rock Camp at cowen lake ohio Rio hi-tech tri-fold padded camp bed Wisconsin uw football camp Rv camp ground merrit island florida Adidas superstar basketball camp Virginia teen naturalist camps Chalet vars Summer soccer camps langley bc Camp jeremiah johnson Mining camp bordellos Nj fencing camp Andover soccer camp Usmc boot camp graduation jewry Chubb lake camp Roanoke va camp discovery halfway house Washington softball camps University of georgia football camp 2007 Boat rigging camp Chalet travel Recreational camp queensland government cairns Surf camp costa rica women Ski chalet champery Nou camp stadium barcelona Byron bowers Leadership camp detroit mi Lester forest bowers beach delawrae Spring camp road property for sale Camp lejeune postal office Ted nugent kids camp Football camp stevens point wi Free country house plans Camp lawerence nys Virginia the golden camp Camps american dance Country houses with pool val d'orcia Cazadero camp nurse Rolling om ranch elk camp Free graphic girl scout camp Grizzley camp 2007 dates Libby prison camp Texas a m kid's camps Chalets cote mer Lake laurie camp ground Ou sooners softball camp Tennis summer performance camp rice Chistochena camp grounds Hollands wood camp site uk Jamie c bower Britney bower Internments camp in 1942 Union tribune camp for dogs Adult snowboard camp Girl scout summer camps southeast wisconsin Wine baseball camps in virginia Chalet takena Sabattis scout camp Summertime surf camp new jersey Horse camp mn Clara barton and camp Adventist summer camps Budget safari camps south africa Jcc camp medfod nj Team football camps Asstr summer camp Mount lemon prison camp England rufc training camp algarve Catawba fish camp Angels camp police Candy cane camp grounds in 2008 knoxville tn summer camps Jay johnson's boot camp fitness dvd Pescadero surf camp Ny land and camps
โดย: pattezia    เวลา: 2010-3-28 10:01
ขณะที่ดอเรียนคงความอมตะเป็นหนุ่มรูปงามเหมือนเดิม ภาพวาดของเขาซึ่งถูกเก็บซ่อนไว้ในห้องใต้หลังคาก็ทวีความน่าเกลียดน่ากลัวยิ่งขึ้น ดอเรียนไม่แก่ลงเลยหน้าเด้งอยู่เสมอ แต่รูปกลับแก่และอุบาทว์ขึ้นทุกที และเมื่อเบซิลยืนยันจะขอดูภาพนั้นอีกครั้ง ดอเรียนจึงจำใจฆ่าเบซิลเพื่อปกปิดความลับ แล้วเขาก็หลบหนีไปชนบท



สิบแปดปีผ่านไป ดอเรียนหวนกลับมายังลอนดอน เขาสร้างความตกตะลึงแก่เหล่ามิตรสหาย ด้วยรูปลักษณ์ที่มิได้แปรเปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นชายผู้ต้องทนทุกข์ทรมานจากชีวิตที่ไร้รักและจุดหมาย เขาถูกหลอนหลอกโดยอดีตของตัวเอง ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในห้องใต้หลังคา

จนกระทั่งดอเรียนได้พบกับลูกสาวของลอร์ด หญิงสาวผู้หลงใหลในตัวเขา ดอเรียนคิดว่าจะเริ่มต้นใหม่กลับตัวเป็นคนดีเลิกทำตัวเสเพล เขาคิดว่ารูปภาพจะดูดีขึ้น แต่กลับน่าเกลียดมากขึ้นอีก ดอเรียนเลยหยิบมีดที่เคยแทงเบซิลมาแทงรูปภาพ ต่อมาคนใช้ได้ยินเสียงกรีดร้องจึงวิ่งมาดู เห็นภาพว่าดอเรียนมีบาดแผลทั่วร่างกายและรูปร่างหน้าตาเละพิกลพิการจนจำไม่ได้และเสียชีวิตแล้ว สิ่งเดียวที่ทำให้คนใช้รู้ว่าเป็นดอเรียนคือแหวนบนนิ้วเขา แต่รูปภาพวาดนั้นกลับมางดงามบริสุทธ์เหมือนเดิม


โดย: pattezia    เวลา: 2010-3-28 10:02
ร่ายกันมาซะยาว เข้าเรื่องแล้วจ้า

Dorian Gray Syndrome (DGS)
คือปรากฏการณ์ทางสังคมและวัฒนธรรมที่คนคนหนึ่งหมกมุ่นอยู่กับรูปลักษณ์ของตน ทำใจไม่ได้กับการแก่ชรา ผู้ที่ทรมานจากโรคนี้มักใช้เครื่องสำอางค์และเวชภัณฑ์ปริมาณมากเพื่อจะยื้อความอ่อนเยาว์ไว้ โรคนี้ไม่มีบรรจุอยู่ใน DSM 4 (Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders) โรคนี้ได้ชื่อจากนิยายเรื่อง The picture of Dorian Gray
เกณฑ์การวินิจฉัย
•Signs of Dysmorphophobia  หมกมุ่นกลัวว่าฉันไม่สวย อาจมีเรื่องการกินผิดปกติได้
•Inability to mature and to progress in terms of psychic development ต้องการว่ายทวนกระแสเวลา
•Utilization of at least two medical lifestyle offers (different areas required): ใช้ผลิตภัณฑ์ต่อไปนี้อย่างน้อยสองอย่าง
1.Hair growth restorers (e.g., finasteride) ปลูกผม
2.Antiadiposita (e.g., orlistat)  ยาลดความอ้วน
3.Medication against Erectile Dysfunction (e.g., Sildenafil) ยาแก้มะเขือเผา
4.Mood uplifters (e.g. Fluoxetine) ยาต้านเศร้า
5.Cosmetic dermatology (e.g., laser resurfacing) สวยด้วยแพทย์ผิวหนัง เช่น เลเซอร์
6.Aesthetic surgery (e.g., face lifting liposuction) สวยด้วยแพทย์ศัลยกรรมตกแต่ง เช่น ดูดไขมัน
ผู้ป่วยโรคนี้อาจจะเป็นโรคซึมเศร้าตามมา มีแนวโน้มฆ่าตัวตาย หรืออาจมีการติดยา
โดย: pattezia    เวลา: 2010-3-28 10:05
แก้ไขล่าสุด pattezia เมื่อ 2010-3-28 10:07

โรคทางจิตเวชที่รู้จักกันดีคือ Dysmorphophobia  หรือ โรคคิดว่าตนเองมีรูปร่างหรืออวัยวะผิดปกติ หรือโรคฉันไม่สวย

โรคคิดว่าตนเองมีรูปร่างหรืออวัยวะผิดปกติ (อังกฤษ: Body dysmorphic disorder ย่อว่า BDD) หรือ ดิสมอร์เฟีย เดิมรู้จักกันในชื่อโรคกลัวพิการ (อังกฤษ: Dysmorphophobia] เป็นโรคจิตชนิดหนึ่งที่เกิดจากความไม่พอใจในรูปร่างของตนเอง

จากการตรวจสอบพบกว่าโรคนี้มักจะพบในกลุ่มบุคคลที่สนใจในรูปร่างของตนเองมาก กลุ่มคนที่เข้างานสังคมบ่อย ๆ หรือกลุ่มคนที่เป็นที่สนใจจากคนอื่น ๆ และสังคม บุคคลที่อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงนี้ได้แก่ ดารา นางแบบ ศิลปินดนตรี วัยรุ่น นักเรียนมัธยม และนักศึกษามหาวิทยาลัย หรือใคร ๆ ก็ตามที่ต้องทำงานหน้ากล้อง

วิธีในการตรวจสอบว่าโรคนี้จากสมาคมนักจิตวิทยาอเมริกัน (the American Psychiatric Association) ได้แยกปัจจัยการตรวจสอบค้นหาโรคดิสมอร์เฟียนี้ออกเป็นสามปัจจัยด้วยกันคือ
1. การมีความหมกมุ่นเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงในรูปร่างของตน หากพบความเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย บุคคลคนนี้จะมีความวิตกกังวลอย่างมาก
2. ความหมกมุ่นทำให้เกิดความโศกเศร้า ความทุกข์ ความเครียด และทำให้ความสามารถทั้งทางครอบครัว การงาน สังคม ฯลฯ ลดน้อยลง
3. ความหมกมุ่นนี้ไม่ได้เกิดจากการมีปัญหาทางด้านจิตใจอื่น ๆ (คือไม่ได้เป็นโรคจิตอื่นอยู่แล้วหรือมีความผิดปกติทางสมองหรือจิตใจ)

รูปแบบของโรค Dysmorphophobia
โรคนี้จะเกิดขึ้นทั้งในผู้ชายและผู้หญิง โดยสามารถแบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก ๆ คือ
ประเภทที่ 1 โรคไบกอร์เร็กเซีย หรือโรคที่คิดว่าตนเองตัวเล็กเกินไป (มักจะเกิดในผู้ชาย)
ประเภทที่ 2 โรคโบลิเมียหรืออนอร์เร็กเซีย คือโรคที่คิดว่าตนเองอ้วนเกินไป (มักจะเกิดในผู้หญิง)
ประเภทที่ 3 โรคที่คิดว่าตนเองมีหน้าตาที่น่าเกลียดหรืออวัยวะในร่างกายที่น่าเกลียด
โดย: pattezia    เวลา: 2010-3-28 10:13
แก้ไขล่าสุด pattezia เมื่อ 2010-3-28 10:41

อีกโรคนึงที่คนในปัจจุบันเป็นกันมากคือ โรคกลัวฉันไม่สวย หรือ body dysmorphic disorder (BDD)

นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์อเมริกันบอร์ดสาขาผิวหนัง เปิดเผยว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทำให้คนไทยมีความเครียดสูง จึงมีแนวโน้มจะพบการกำเริบของโรคผิวหนังหลายชนิด เพราะจิตใจมีความสัมพันธ์กับผิวหนังชัดเจน สำหรับผู้ป่วย BBD ต้องระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเสริมความงามในผู้ป่วยโรคนี้ เพราะผลลัพธ์อาจเป็นฝันร้ายของทั้งผู้ป่วย เนื่องจากการเสริมความงามไม่ได้แก้ปัญหาพื้นฐาน คือเรื่องของจิตใจ เพราะสภาพจิตใจมีผลต่อโรคทางผิวหนังโดยตรง

นพ.ประวิตร พิศาลบุตรเผยว่า ประมาณการว่าประชากรทั่วไป 1-2% เป็นโรคบีดีดี แต่สถิติบีดีดีกลับสูงขึ้นชัดเจนในกลุ่มคนที่มาพบแพทย์ กล่าวคือ คนไข้ที่มาพบศัลยแพทย์ตกแต่ง 2-7% และคนไข้ที่มาพบแพทย์ผิวหนัง 9-15% เป็นบีดีดี

ผู้ป่วย BDD จะมีความมั่นใจในตัวเองต่ำ ชอบดูกระจก หรืออีกทีก็หลีกเลี่ยงการดูกระจกไปเลย ชอบเปรียบเทียบอวัยวะที่ตนเองคิดว่าผิดปกติกับคนอื่น ชอบถามคนอื่นว่า ตา หู จมูกของตนเองปกติ หรือพอดูได้ไหม ชอบแต่งหน้า ทำผม ครั้งละนาน ๆ ใช้เวลาครุ่นคิดถึงรูปร่างหน้าตาตัวเองวันละ 1-3 ชั่วโมง

บางคนไปทำจมูกซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ได้ขนาดที่พอใจเสียที บางคนโดดเรียน หนีงาน หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม พบอาการซึมเศร้ารุนแรงได้บ่อย มีสถิติว่าผู้ป่วยโรคนี้เคยพยายามฆ่าตัวตายสูงถึง 29% พบในหญิงและชายเท่ากัน แต่ในชายพบว่าติดยาสูงถึง 50%

โรค BDD มักเริ่มเป็นในวัยรุ่น คืออายุ 16-17 ปี และเป็นเรื้อรัง ถ้าโรคนี้เกิดในผู้ใหญ่ อาจแสดงอาการในรูปของความกลัวแก่อย่างรุนแรง ที่เรียกว่ากลุ่มอาการ ดอเรียน เกรย์ ซินโดรม (Dorian Gray syndrome)

Body dysmorphic disorder ฟอร์มหนึ่งคือ อะนอเร็กเซีย เนอโวซา (anorexia nervosa) คือ คิดว่าตัวเองอ้วน เห็นตัวเองอ้วนในกระจก แต่จริงๆแล้วผอมแห้ง


Karen Carpenter เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง ก็เสียชีวิตจากโรค anorexia nervosa ซึ่งเป็นฟอร์มหนึ่งของโรคฉันไม่สวย ผอมลงเรื่อยๆจนเสียชีวิต


โดย: pattezia    เวลา: 2010-3-28 10:47
Case study ที่สำคัญอีกอย่างสำหรับ คนที่เป็นโรคฉันไม่สวย คือมักไปสรรหาการศัลยกรรม หรือทำเอง บางทีเรียก เสพติดศัลยกรรม

ปัจจุนมีผู้เสพติดศัลยกรรมเพิ่มขึ้นเรื่อย หนึ่งในนั้นเป็นสาวเกาหลีที่คลั่งผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้ามาก จนเกิดผลข้างเคียง แทนที่จะสวยสมใจกลับกลายเป็นน่ากลัวแทน เธอทำศัลยกรรมอย่างต่อเนื่องมานานถึง 20 ปี กลายเป็นโรคเสพติดการทำศัลยกรรม จนแพทย์เกาหลีใต้ไม่ยอมทำให้ ก็ดิ้นรนไปผ่าตัดต่อที่ญี่ปุ่น จนหมอขอบายและแนะให้ไปหาจิตแพทย์แทน แต่รักษาอยู่ครึ่งๆ กลางๆ ก็เลิก แล้วไปทำศัลยกรรมต่อ โดยซื้อเข็มและซิลิโคนมาฉีดหน้าตัวเอง จนซิลิโคนหมดก็ใช้น้ำมันพืชฉีดแทนจนหน้าเละเสียรูป ก่อนมีคนใจบุญร่วมบริจาคเงินให้ไปรักษา แต่หมอจนปัญญาเพราะช่วยได้เพียงเล็กน้อย เพราะฉีดสารสารพัดชนิดเข้าใบหน้า ไม่สามารถทำให้กลับมาดีได้ดังเดิม

สื่อมวลชนเกาหลีใต้รายงานข่าวสยองอุทาหรณ์สอนใจคนอยากสวยผิดธรรมชาติ กรณีนางฮัง เมียวคู อายุ 48 ปี ซึ่งผ่าตัดทำศัลยกรรมมาตลอดเวลา 20 ปี ตั้งแต่อายุ 28 ปี จนมีอาการป่วยทางจิตเป็นโรคเสพติดการทำศัลยกรรม และอาการหนักถึงขนาดใช้น้ำมันพืชทำอาหารฉีดเข้าใบหน้าแทนซิลิโคน จนเกิดอาการข้างเคียงเน่าเฟะ แม้แพทย์พยายามรักษาแต่ทำได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากใบหน้าผิดรูปร่างไปมากจนไม่สามารถผ่าตัดให้กลับมาเหมือนคนปกติได้

ผู้คลั่งไคล้การทำศัลยกรรมจนเสพติดเล่าว่า เธอตัดสินใจเข้าบำบัดอาการทางจิต แต่เนื่องจากค่ารักษาแพงมาก ทำให้ต้องหยุดรักษากลางคัน เป็นเหตุให้อาการเสพติดศัลยกรรมกำเริบอีกครั้ง อย่างไรก็ตามหมอหลายคนในเกาหลีใต้ยังคงปฏิเสธและไม่ยอมผ่าตัดเหมือนเดิม แต่ในที่สุดมีหมอคนหนึ่งยอมขายเข็มและสารซิลิโคนให้นำกลับมาฉีดเองที่บ้าน เธอฉีดหน้าด้วยซิลิโคนจนหมด และไม่สามารถหาซื้อได้อีก จึงนำน้ำมันพืชมาฉีดเข้าใบหน้าแทนเพราะเข้าใจว่าน่าจะใช้ได้เหมือนกัน แต่ผลออกมาว่าใบหน้าซึ่งเสียรูปอยู่แล้วยิ่งอักเสบบวมเป่งอย่างรุนแรงดูน่ากลัว กระทั่งเด็กๆ แถวบ้านล้อเลียนว่าเป็น”พัดลมเดินได้” เพราะใบหน้าบานออก ตาแทบปิด

หลังจากนางฮังไปออกรายการทีวีทำให้มีคนดูใจบุญร่วมบริจาคเงินเพื่อให้เธอไปรักษาเพื่อให้ใบหน้ากลับมาดีดังเดิม ซึ่งแม้แพทย์จะผ่าตัดนำสารแปลกปลอมชนิดต่างๆ ที่เธอฉีดเข้าใบหน้าตลอด 20 ปีออกมาได้จำนวนหนึ่ง แต่ก็ยังมีอีกไม่น้อยที่ตกค้างอยู่ ไม่สามารถนำออกมาได้หมด ทำให้ใบหน้ายังผิดรูปร่าง แพทย์ระบุว่าคงไม่สามารถผ่าตัดเพื่อให้ใบหน้าของเธอกลับมาดีเหมือนเดิมได้



Amanda Lepore ดารานางแบบสาวประเภทสองชาวอเมริกันที่เสพติดศัลยกรรม


โดย: pattezia    เวลา: 2010-3-28 10:57
แก้ไขล่าสุด pattezia เมื่อ 2010-3-28 10:59

วกมาดูโรคอานะล๊อกเซีย ซึ่งเป็นอีกฟอร์มหนึ่งของโรค กลัวฉันไม่สวย อีกรอบนะค่ะ ประมวลภาพของดาราที่ทุกข์ทรมานกับโรคนี้

นิโคล ริชชี่ ตอนตั้งท้องเธอได้เข้าศูนย์บำบัดโรคการกินผิดปกติ ตอนนี้คลอดแล้ว ไม่ผอมแล้ว



แมรี่ เคท โอลเซน คู่แฝดสุดดังและร่ำรวย บอกว่าหมอวินิจฉัยโรคนี้ตอนอายุสิบแปด แต่เดิมเธอดูเหมือนคู่แฝดจนแยกไม่ได้ แต่พอเป็นโรคนี้แล้วแยกได้เพราะผอมกว่าแอชลีย์คู่แฝดมาก เธอเข้ารับการบำบัด 6 สัปดาห์ แต่ก็ยังต้องต่อสู้กับโรคนี้

“Anorexia Almost Killed Me”


วิคตอเรีย เบกแฮม เคยปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นโรคนี้ แต่ต่อมาก็ยอมรับในปี 2001 เธอบอกว่าเธอหมกมุ่นเรื่องรูปลักษณ์และการอดอาหารมาก


โอ้โห วงเดียวกัน spice girls มีคนเป็นโรค anorexia nervosa สองคน
Geri Halliwell


Allegra Versace เธอเป็น Anorexia เหมือนกัน ผอมมากๆ

โดย: pattezia    เวลา: 2010-3-28 11:01
อีกโรคนึงที่เป็นการผิดปกติเหมือนกัน คือ บูลิเมีย เนอโวซา โรคนี้คนไทยเป็นเยอะมากก

A. มีการรับประทานอย่างมากเป็นระยะๆ ซึ่งช่วงดัง กล่าวมีลักษณะทั้งสองประการต่อไปนี้
(1) มีช่วงของ การรับประทาน ( เช่น ในเวลา 2 ชั่วโมง) ที่รับประทานอาหารครั้งละมากกว่าที่คนทั่วไปจะบริโภคได้ในช่วงเวลาเท่ากัน และในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน
(2) มีความรู้สึกว่า ควบคุมการรับประทานไม่ได้ในระหว่างนั้น ( เช่น รู้สึกว่า หยุดการรับประทานไม่ได้ หรือ ควบคุมชนิดหรือปริมาณอาหารไม่ได้ )

B. พยายามป้องกันน้ำหนักเป็นการชดเชยในลักษณะที่ไม่เหมาะสมอยู่เป็นระยะๆ เช่น ทำให้ตนเองอาเจียน มีการใช้ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ หรือยาสวนถ่าย หรือยาอื่นอย่างไม่เหมาะสม อดอาหาร หรือ ออกกำลังกายอย่างหักโหม

C. ทั้งการรับประทานที่มากกว่าปกติ และพฤติกรรมชดเชยที่ไม่เหมาะสม เกิดขึ้นเฉลี่ยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้งมา 3 เดือน

D. การประเมินตนเองขึ้นอยู่กับเรื่อง น้ำหนักตัว หรือรูปร่างอย่างมาก

E. ความผิดปกตินี้ไม่ได้เกิดเฉพาะในช่วง ของ Anorexia Nervosa เท่านั้น

คนดังๆที่เคยเป็นโรคนี้ คือเจ้าหญิงไดอาน่า และท่านเซอร์ เอลตัน จอห์น
โดย: pattezia    เวลา: 2010-3-28 11:03
แก้ไขล่าสุด pattezia เมื่อ 2010-3-28 11:06

มีข้อมูลอีกมากมายที่น่าสนใจเกี่ยวกับโรคกลัวฉันไม่สวย

ว่าแต่เราเป็นโรคกับเค้าป่าวหว่า พรุ่งนี้จะไปทำตาแล้ว หลังจากที่ตอนไปทำจมูกประกาศกร้าวว่าจะไม่ทำศัลยกรรมอีก เพราะนานหายเหลือเกิน แต่พอหายเจ็บ เอาอีกแล้ว 555+

กลัวเจ็บแต่อยากสวย เอิ้กๆๆ เราจะสู้เพื่อความสวยต่อไป อิอิอิ

ลืมบอกไปอีกนิด สำหรับโรค Dorian Gray Syndrome (DGS) นักจิตวิทยาไทย ยังไม่มีการระบุโรคนี้ในสารบัญโรคทางจิตเวช หากมีคนไข้ที่มีปัญหากังวลกับรูปร่างตัวเองอย่างมาก จะวินิจฉัยไปโรคอื่นจ้า (ข้อมูลนี้เพื่อนร่วมรุ่นบอกมา ร้างลาจากตำรามานานเหลือเกิน แฮะๆๆๆๆ)
โดย: jakkch    เวลา: 2010-3-28 11:16
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ.............  เริ่มชัักไม่แน่ใจในตัวเองละว่าเป็นโรคนี้หรือเปล่า.........!!!!
โดย: kurama    เวลา: 2010-4-29 16:56
สงสัยเราคงเป็นโรคนี้ด้วยล่ะมั๊ง รู้สึกว่าอยากทำนู้นทำนี่ตลอดเวลา
โดย: stich    เวลา: 2010-8-22 10:21
ขอบคุณอย่างมากนะคะ กำลังทำรายงานอยู่พอดีเลยค๊ะ ถ่ามีข้อมูลดีๆแบบนี้เพิ่มเติมก้บอกด้วยนะคะ
โดย: pumpui    เวลา: 2010-8-22 11:36

โดย: anunyaaa    เวลา: 2010-8-22 17:32
หมายเหตุ: ผู้โพสต์ถูกแบนหรือถูกลบ โพสต์นี้ถูกปิดโดยอัตโนมัติ




ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com/) Powered by Discuz! X3.2