ดั้งโด่งดอทคอม

ชื่อกระทู้: Plastic Surgery Online In trend Update Fashion & Make up [สั่งพิมพ์]

โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:04
ชื่อกระทู้: Plastic Surgery Online In trend Update Fashion & Make up
ref : Men 's health  , Cleo , Slimming , Cosmatic , Cawaiii

4 เทรนด์ผมใหม่ ดาราฮอลลีวูด

4 แบบ  สไตล์ให้ได้สนุกกันไม่ซ้ำแบบ โดยทรงผมทั้ง 4 นี้กำลังเป้นที่นิยมในหมู่เซเลบริตี้และดาราฮอลลีวูด...

เป็นจริงแล้ว สำหรับคน ที่อยากมีทรงผมสวยอย่างนางแบบนายแบบบนแคตวอล์ก

"เวลล่า" ผู้นำผลิตภัณฑ์ผมระดับอินเตอร์ และผู้กำหนดเทรนด์ แฟชั่นผมโลก   มาพร้อมกับโลโก้ใหม่ซึ่งตอกย้ำความเป็นโปรเฟสชั่นนอล โดยเผย "เทรนด์แฟชั่นผมปี 2009" ที่ไม่เพียงแค่โชว์บนรันเวย์เท่านั้น   แต่สาวๆ สามารถนำมาแต่งเติมให้สวยเก๋และเหมาะกับตัวเองได้ ในคอนเซปต์ "เวลล่า เพอร์ซันนอลไลซ์ด เทรนด์" นำเสนอเทรนด์ผมที่กำลังฮอตฮิตในหมู่เซเลบริตี้และดาราฮอลลีวูดมีอยู่ 4 แบบ ได้แก่ พาสเทล เซอร์วิส (Pastel Service), เซ็นซัส เซอร์วิส (Sensous Service), คริสตัล กลอส เซอร์วิส (Crystal Gloss Service) และคัลเลอร์ แอคเซ็นท์ส เซอร์วิส (Color Accents Service)


พาสเทล

สำหรับเทรนด์ แรก พาสเทล เซอร์วิส เกิดขึ้นจากจินตนาการผ่านมุมมองของโลกที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน โดยดึงโค้งสร้างจากเส้นผม ด้วยความโค้งมนที่งดงาม ความพลิ้วไหวและความเที่ยงตรง ประยุกต์ให้เข้ากับรูปทรงแห่งอนาคต ด้วยผมสั้นความยาวระดับบ่า ซอยไล่ระดับดูพลิ้วไหว มีขอบมุมที่โดดเด่น สีผมเป็นประกายสว่างในโทน "บลอนด์ แพลทินั่ม" เซเลบริตี้ที่ดูดีในลุคนี้คือ วิกตอเรีย เบคแคม, เรเน่ เซลเวเกอร์



เซ็นซัส




ส่วน เซ็นซัส เซอร์วิส เป็นความงามในรูปแบบใหม่ เน้นความงามที่ไม่เรียบหรู ออกมาในรูปแบบผมยาวสลวยปล่อยตามธรรมชาติ เน้นลอนคลื่นที่นุ่มนวลโค้งมน   หรือเก็บผมยาวแล้วปล่อยให้สลวย จัดเป็นคลื่นลอนใหญ่อ่อนๆดูมีมิติ รวมทั้งการเกล้าผมในแบบดั้งเดิม เพิ่มเสน่ห์ให้ทรงผมด้วยประกายสีขิง โทนอุ่นร้อนแรงและประกายสีเข้มผสมผสานของสีเหลือง   น้ำตาลและความชุ่มฉ่ำของสีทองแดง คนดังที่เจิดจรัสในลุคนี้คือ เจนนิเฟอร์ การ์เนอร์, ฮีทเธอร์ เกรแฮม


คริสตัล กลอส




เทรนด์ต่อมาคือ คริสตัล กลอส เซอร์วิส เป็นทรงผมของสาวยุคใหม่ที่ฉีกกฎดั้งเดิม อย่างไร้ขีดจำกัดเป็นอิสระแห่งความคิดสร้างสรรค์   มีการเติมลูกเล่นเป็นแบบเงางาม ใช้เทคนิคการตัดแบบ "ราวด์แอนด์สแควร์ คัทส์" ผ่านการมิกซ์แอนด์แมตช์ของสองโทนสี เช่น ดำ-น้ำตาล, น้ำตาล-บลอนด์ หรือสีเข้ม ที่ผสมผสานกับไฮไลต์เฉดสีน้ำเงินเข้มจัดและสีม่วงแดง ดาราที่ทำในลุคนี้ได้แก่ เคธี่ โฮล์ม



คัลเลอร์ แอคเซ็นท์ส


ปิดท้ายด้วย คัลเลอร์ แอคเซ็นท์ส เซอร์วิส เป็นเทรนด์ที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ตามธรรมชาติในทิศทางของความสนุกสนาน   โดยการสร้างบุคลิกใหม่ๆ ที่มีสีสันผ่านไฮไลต์   พร้อมสนุกสนานกับขอบคมของเส้นผมที่ผสมผสานกับปอยผมยาว และซอยไล่เลเยอร์ให้เส้นผมมีความแตกต่างกันและทำให้ดูเด็กลงด้วยเทคนิคเน้นประกายสีผมแบบ 3 มิติ กับสีผมในโทนสีเข้มที่คั่นด้วยไฮไลต์สะดุดตาอย่างประกายน้ำเงินหรือสีม่วงแดงเข้ม ทำให้สวยได้อย่างบียอนเซ่, เอวิล ลาวีน และไรฮันนา...ไม่อยากตกเทรนด์ลองเลือกซักทรง   ที่เหมาะกับคุณๆนะ.


Cleo
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:06
วิธีเลือกซื้อคอนซีลเลอร์





คอนซีลเลอร์ คือ เครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติช่วยปกปิดจุดด่างดำ กระ ฝ้า และแผลเป็น

คอนซีลเลอร์ คือ เครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติช่วยปกปิดจุดด่างดำ กระ ฝ้า และแผลเป็น เช่นเดียวกับครีมรองพื้น แตกต่างตรงที่คอนซีลเลอร์จะใช้ปกปิดร่องรอยบนใบหน้าเท่านั้น คอนซีลเลอร์ มีให้เลือกใช้หลายแบบ ทั้งแบบเนื้อครีม แบบสติก และแบบเนื้อเหลว

- ขอบตาคล้ำ เนื่องจากใต้ตาเป็นส่วนที่บอบบาง คอนซีลเลอร์ที่เหมาะสำหรับใช้ใต้ตา ควรมีความชุ่มชื้นสูง เพื่อการเกลี่ยที่เรียบเนียนและช่วยถนอมผิวใต้ตา คอนซีลเลอร์ที่ใช้สำหรับใต้ตาควรมีเฉดที่อ่อนกว่าสีผิว 1 เฉด ดังนั้นถ้าใช้คอนซีลเลอร์ที่ปกปิดรอยคล้ำใต้ตา แล้วนำมาทาที่สิว จะทำให้ดูเป็นดวง ๆ

- รอยสิว คอนซีลเลอร์ที่ใช้ปกปิดรอยสิวได้ดี ควรเลือกชนิดที่ให้การปกปิดสูง เนื้อหนา แต่ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรใช้คอนซีลเลอร์ที่มีสี และเป็นเฉดสีเขียว เพื่อปกปิดรอยบวมแดงของสิว ถ้าใช้คอนซีลเลอร์ที่เป็นเฉดสีเขียวลดรอยแดงของสิวเรียบร้อยแล้ว ก็ลงคอนซีลเลอร์ที่มีเฉดใกล้เคียงกับผิวลงทับอีกที หรือลงรองพื้นทับก็ได้ แต่ถ้าสะดวกจะเลือกซื้อคอนซีลเลอร์ที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อปกปิดสิวก็ได้

รู้อย่างนี้แล้ว ลองนำวิธีที่แนะนำไปเลือกซื้อคอนซีลเลอร์ให้เหมาะกับตัวเองกันดูได้.
โดย: BOBBY    เวลา: 2009-6-17 23:06
มีข้อมูลดีๆ มาให้ได้อีก อ่ะคัฟ

ถ้าจะดีมากกว่านี้ แถมรูปให้หน่อยจิคัฟ

อิ อิ
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:06
แก้ไขล่าสุด kallypaulsmith เมื่อ 2009-6-17 23:08

รองพื้น ..เรื่องพื้นๆที่ไม่ควรมองข้าม   
  

พูดถึงรองพื้น ร้อยทั้งร้อย ต้องเคยลองใช้กันมาบ้างแล้ว แต่เชื่อไหมว่าพอถามถึงการเลือกซื้อ และวิธีการใช้ที่ถูกต้อง กว่าครึ่งละที่ตอบผิด หรือไม่ก็ตอบถูกเพียงบางส่วน ทั้งๆที่วิธีการจริงๆนั้น ง่ายนิดเดียว ไม่เชื่อก็ลองอ่านดู

วิธีเลือกรองพื้น
รองพื้นที่มีขายในท้องตลาดมีอยู่สองสามชนิด คือ รองพื้นแบบลิควิด หรือเนื้อครีม,รองพื้นแบบแป้งเค้กที่ต้องใช้น้ำเวลาทา และรองพื้นแบบใหม่ล่าสุด ที่ทำออกมาเป็นแท่งสติ๊ก พกพาสะดวก

รองพื้นแต่ละชนิดมีข้อดีข้อเสียแต่กต่างกัน คือ

รองพื้นแบบลิควิดหรือครีม เมื่อทาจะทำให้ผิวสว่างขึ้นเล็กน้อย ใช้ได้ทั้งกับคนผิวแห้งและผิวมัน

รองพื้นแบบแป้งเค้กผสมน้ำ ทำให้หน้าหมองลง แต่เหมาะกับผิวที่มีปัญหา และผิวไม่ค่อยเรียบ เพราะช่วยให้ผิวดูเนียนนุ่มขึ้น และเหมาะกับคนที่มีผิวมัน

รองพื้นแบบสติ๊ก เหมาะที่จะใช้เติมในเวลาเร่งรีบ แต้มตามจุดที่ต้องการได้ทันที แต่เนื้ออาจจะไม่ละเอียดเท่าแบบอื่น

ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกรองพื้นแบบไหน คราวนี้ก็มาถึงเรื่อง สีของรองพื้น ข้อผิดพลาดที่คนส่วนใหญ่เป็น คือ เลือกรองพื้นสีอ่อนเกินไป ทำให้สีของผิวหน้าดูซีดเซียว ไม่มีชีวิตชีวา และดูไม่เป็นธรรมชาติ

ทริคง่ายๆ คือ ถ้าสีผิวของคุณค่อนข้างขาวอยู่แล้ว ให้เลือกรองพื้นที่เฉดสีเข้มกว่าสีผิว 1 สเต็ป แต่ถ้าผิวของคุณค่อนข้างคล้ำ ให้เลือกรองพื้นตามสีผิว หรือให้ใกล้เคียงที่สุด

สำหรับlสาวๆหนุ่มๆที่ผิวสีน้ำตาล แบบชาวเอเชียทั่วไป ควรหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มักออกคอลเลคชั่นสีชมพู หรือเทา เพราะรองพื้นของเครื่องสำอางยี่ห้อเหล่านี้ ก็จะทำออกมาให้เข้ากับสีของเครื่องสำอาง ซึ่งไม่เข้ากับผิวแบบเราๆ ใช้แล้วจะดูหลอกตา และทำให้หน้าหมอง

เทสต์ก่อนซื้อ
ถ้าดูด้วยตาเปล่ายังไม่มั่นใจว่าสีที่เลือกจะเหมาะกับผิวจริงๆ แนะนำว่า ให้ลองขอสินค้าตัวอย่างมาเทสต์กับผิวดูก่อน ถ้าคุณไม่ได้แต่งหน้าอยู่แล้ว ลองกับผิวหน้าดีที่สุด โดยทารองพื้นลงบนแนวโหนกแก้ม แต่ถ้าเผอิญแต่งหน้าอยู่แล้ว ให้เทสต์ที่ท้องแขน เพราะเป็นบริเวณที่โทนสีใกล้เคียง กับใบหน้าและลำคอมากที่สุด (อย่าลองกับหลังมือ เพราะสีและสภาพผิวแตกต่างจากใบหน้ามาก)

เมื่อทารองพื้นลงไปแล้ว รอเวลาให้สีของรองพื้นแห้ง และทำปฎิกริยากับผิวประมาณ 1 นาที แล้วขอให้เดินออกมาเช็คกับแสงธรรมชาติ (เพราะแสงไฟมักหลอกตาให้เราเห็นสีผิดเพี้ยนจากของจริง )

รองพื้นที่ดีจะต้องกลมกลืนกับสีของใบหน้าและลำคอ ชนิดที่เรียกว่าทาแล้วหายเข้าไปในผิว ไม่ใช่ทาแล้วเหมือนกับใส่หน้ากากอยู่อีกชั้น

ใช้รองพื้นให้ถูกวิธี

กันเส้นผมจากใบหน้า อย่าให้มีตกลงมารกหน้าผาก

ทำความสะอาดผิวหน้าและลำคอ

ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ รอ 5 นาทีให้เนื้อครีมซึมสู่ผิว

ถ้าใช้รองพื้นแบบแป้งเค้ก ให้เอาฟองน้ำชุบน้ำพอหมาดๆ (ความเข้มข้นของเนื้อแป้งขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในฟองน้ำ ถ้าอยากให้เนื้อแป้งเจือจางก็เหลือน้ำไว้มากหน่อย ถ้าอยากให้เข้มข้นก็บิดน้ำออกมากๆ)

ใช้ฟองน้ำแตะเนื้อแป้งลงตามบริเวณใหญ่ๆ (แก้ม/หน้าผาก/คาง) ระวังอย่าลงรองพื้นมากช่วงตีนผม

ค่อยๆเกลี่ยให้เสมอกัน เรื่อยลงไปจนถึงลำคอ

ถ้าใช้รองพื้นแบบครีม/ลิควิด อุปกรณ์ที่ดีที่สุดคือนิ้วมือ เกลี่ยให้เรียบอย่างเบามือ โดยเกลี่ยวนเป็นวงจากตรงกลางออกมาจนทั่วใบหน้า

ต่อจากการลงรองพื้น สำหรับคนที่ผิวมีจุดด่างดำและริ้วรอย ก็แต้มคอนซีลเลอร์ตามลงไป และจำไว้เสมอว่าเมื่อลงรองพื้นแล้ว แป้งที่ใช้ควรเป็นชนิดใส ไม่มีสี ให้กลมกลืนกับรองพื้น เพราะการใช้แป้งที่มีสีเติมลงไปอีก จะไปบิดเบือนสีผิวจริง และทำให้ดูหลอก
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:09
เกร็ดวิธีแต่งหน้าให้ผิวดูสวยเอง เหมือนไม่ได้แต่ง   
  
การแต่งหน้าทารองพื้นแล้วจะให้ผิวดูใสเหมือนไม่ได้ทาอะไรไว้นั้นจำเป็นต้องเตรียมผิวให้ดีเสียก่อน


เริ่มด้วยการล้างหน้าตลอดจนลำคอด้วยนมหรือครีมล้างหน้า แล้วขัดผิวด้วยผง หรือครีมสำหรับขัดผิวหน้า โดยไม่ต้องออกแรงมาก ถูเบา ๆ ก็พอ เพื่อให้ผิวส่วนที่กำลังจะลอกหรือยังขรุขระอยู่หลุดออกไป ผิวจะเนียนขึ้นแยะ


ต่อไปใช้แปรงถูฟันของเด็กเล็ก แปรงริมฝีปากเบา ๆ โดยรอบ เพื่อให้ริมฝีปากเกลี้ยง นุ่มเนียนและมีสีเลือดฝาดขึ้นตามธรรมชาติ โดยมีครีมทาริมฝีปากก็ทาบำรุงไว้ตอนนี้เลย


ใบหน้าส่วนอื่นและคอให้ชโลมด้วยม้อยส์เจอร์ไรเซอร์ ปล่อยม้อยส์เจอร์ไรเซอร์ทำความชุ่มชื้นไว้บนผิวสัก 5 นาที นำกระดาษทิชชูมาซับครีมส่วนเกินออก จากตรงนี้บางคนที่มียาทาก่อนรองพื้น เรียก Foundation Primer ก็อาจทา Primer ให้ทั่วเพียงบางเบาได้ สิ่งนี้มีคุณสมบัติที่จะทำให้ผิวลื่นและเรียบ เพื่อช่วยให้รองพื้นซึ่งแม้จะทาเพียงบาง ๆ อยู่ติดทน และเกลี่ยบนผิวได้ง่ายขึ้น


เกร็ดที่ควรรู้อีกข้อหนึ่งคือ อย่าแตะรองพื้นไว้เป็นจุด ๆ บนผิวหน้า เพราะในรองพื้นมีพิกเมนต์สีอยู่มาก เม็ดสีนี้จะถูกดูดซับลงในผิวเร็ว เป็นเหตุให้จุดเหล่านั้นเห็นชัดกว่าส่วนอื่น ผิวเลยดูเหมือนสีไม่เสมอกัน ทางที่ดีใส่รองพื้นลงบนฝ่ามือแล้วใช้ฟองน้ำชื้น (สำหรับทารองพื้น) แตะไป ไล้ไปทางตีนผม อย่าทาย้อนไปมา


ส่วนบริเวณรอบดวงตาซึ่งผิวบางมากนั้น ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะรองพื้นที่ทาทับเพิ่มไปเพียงแค่ครั้งเดียว ก็จะแลเห็นได้ มันจะแทรกลงไปแถวร่องผิว แม้จะอายุน้อย ก็จะดูเสมือนมีรอยย่นอย่างละเอียด เขาจึงนิยมใช้รองพื้นพิเศษสำหรับตา หรือถ้าเป็นรองพื้นหน้า ก็ให้เลือกสีเข้มขึ้นอีกหนึ่งเฉดสี แตะใส่เบา ๆ แล้วใช้แป้งแข็งแตะทับตรงนั้น


สำหรับคนที่มีจุดด่างดำ ใช้คอนซีลเลอร์สีอ่อนอันหนึ่ง สีแก่อันหนึ่ง ใส่ไว้บนหลังมือเพื่ออาศัยไออุ่นจากมือทำให้มันอ่อนตัว ใช้แปรงปลายเล็กผสมสีบนหลังมือ จนสีเข้ากันได้สนิทกับสีผิวหน้าของผู้นั้น แล้วทาเฉพาะตรงรอยที่ต้องการปิด จะไม่มีร่องรอยดำเหลือให้เห็นได้เลย ผิวหน้าจึงจะดูใสและสวยเสมอกันเหมือนไม่ได้เคลือบไว้ด้วยอะไร


ขั้นตอนสุดท้ายใช้แป้งฝุ่นสีใส (Translucent) แตะ ๆ บนผิวด้วยพัฟชนิดแบน อย่าใช้พัฟถูผิว เพราะรองพื้นจะถูกเช็ดออก ปัดฝุ่นแป้งที่อาจมีหลงเหลือด้วยแปรง สำหรับใช้เกลี่ยแป้ง การที่ต้องใช้แป้งฝุ่นทับรองพื้นก็เพื่อให้รองพื้นติดทน
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:10
ซื้อเครื่องสำอางอย่างไรดี   
  
คุณรู้แล้ว่าต้องการซื้ออะไร ในลิสต์หน้าโต๊ะเครื่องแป้งเขียนไว้ชัดแล้วว่า เครื่องสำอางชิ้นใดอยากได้เป็นอันดับหนึ่ง ชิ้นไหนอันดับสอง

ต่อไปนี้เป็นเทคนิคการซื้อเครื่องสำอางหน้าเคาน์เตอร์ เพื่อให้การช้อปปิ้งครั้งนี้คุ้มค่าที่สุด

ไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องสำอางทั้งเซ็ต คุณน่าจะได้ใช้ผลิตภัณฑ์หลากหลายจากเครื่องสำอางที่ต่างเซ็ตกัน

ก่อนซื้อเช็กดูว่าคุณมีผิวประเภทไหน ผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม

ลองถามหาสินค้าตัวอย่างแจกฟรี และเอาไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่ต้องกลัวพนักงานขายค้อนเอาหรอก

อย่าเทียบสีโดยใช้แสงไฟในเคาน์เตอร์ ถ้าเป็นไปได้ ออกจากร้านไปหาบริเวณที่แสงธรรมชาติ จะได้รู้ว่าสีแท้จริงของเครื่องสำอางเป็นสีอะไร

อย่าลองรองพื้น หรือสีของเมคอัพบนหลังมือ เพราะสีผิวตรงนี้ต่างจากสีผิวหน้า ลองบนขากรรไกร ถ้ามันกลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกับผิว นั่นแหละสีที่เหมาะกับคุณ

บอกพนักงานว่าคุณมีงบเท่าไหร่ เขาจะได้เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะและคุ้มค่ากับงบดังกล่าว

ซักถามข้อสงสัยให้มากที่สุด อย่าซื้อของที่คุณไม่รู้คุณสมบัติของมัน ถ้ารีบซ้อโดยมาค้นพบทีหลังว่าไม่ได้ใช้มันเลย เท่ากับเงินของคุณสูญเปล่า เพราะบริษัทเครื่องสำอางส่วนใหญ่ไม่รับเปลี่ยนคืน

ประเมินอารมณ์ของคุณก่อนออกไปช้อปปิ้งด้วย ถ้าออกไปด้วยอารมณ์สนุกสนานก็ดีไป แต่ถ้าอารมณ์หดหู่ หรือไม่กระตือรือร้น อย่าไปช้อปปิ้งเลย เปลี่ยนไปดูหนังแทนเถอะ ไม่งั้นจะมานั่งเสียใจ และสงสัยตัวเองว่าวันนั้นซื้อของอย่างนี้ไปได้ยังไง

ถ้าตอนนี้บริษัทเครื่องสำอางผลิตสินค้าชนิดที่คุณชอบไปซะแล้ว ลองมองหาซาลอนยุคใหม่ที่เขาสามารถผสมเครื่องสำอางให้คุณได้ใช้ได้ตามความพอใจ

แปรงแต่งหน้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ ดีกว่าจากเส้นใยสังเคราะห์ ตรงที่นุ่มกว่า และแน่นอนราคาแพงกว่า แปรงจะมีอายุการใช้นานขึ้นถ้าคุณดูแลอย่างถูกวิธี

เราสามารถประหยัดเงินได้เยอะถ้าซื้อเครื่องสำอางบางชนิดในร้านขายยา

ถ้าซื้อเครื่องสำอางมาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะใช้มันให้ได้ผลดีที่สุดอย่างไร ก็หาทางเรียนรู้เทคนิคการแต่งหน้าจากเมคอัพอาร์ทิสต์ชื่อดัง ผ่านรายการโทรทัศน์ หรือนิตยสารต่าง ๆ ดูสิ
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:12
แก้ไขล่าสุด kallypaulsmith เมื่อ 2009-6-17 23:16










วันนี้ไปเจอเว็บของญี่ปุ่นซึ่งเจ๋งมากๆ มีวิธีการเซ็ทผมหลายแบบเลยทีเดียว และที่สำคัญมีวิธีการเซ็ทอย่างละเอียด พร้อมคลิ๊ปวีดีโอสอนด้วย ว่าแล้วก็ลองเลือกทรงกันเลยดีกว่า

http://www.gatsby.jp/products/howto/mr_spiky.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/mr_shake.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/mr_loose.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/mr_airrise.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/mr_wet.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/mr_mat.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/sl_ult.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/sl_hold.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/sp_hold.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/mr_spiky.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/mr_shake.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/mr_loose.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/mr_airrise.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/mr_wet.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/mr_mat.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/sl_ult.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/sl_hold.html

http://www.gatsby.jp/products/howto/sp_hold.html



เป็นไงกันบ้าง เซ็ทแล้วลองถ่ายรูปมาอวดกันบ้างนะ
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:19
แก้ไขล่าสุด kallypaulsmith เมื่อ 2009-6-17 23:21

เลือกแป้งให้ถูกกับผิว   
  
ทุกครั้งที่คุณต้องการความนวลเนียนสำหรับการแต่งหน้า การเลือกใช้แป้ง ก็คืออีกหนึ่งขั้นตอนที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งในปัจจุบันมีแป้งให้คุณเลือกอยู่มากมายหลายชนิด และแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกัน ลองดูสิคะว่า ผิวของคุณจะเหมาะกับแป้งชนิดใด

1. ปรับผิวหน้าให้ขาวกระจ่างใส ดูเป็นธรรมชาติ ถ้าคุณคือหญิงสาววัยสดใสที่มีสุขภาพผิวดีอยู่แล้วแนะนำให้ใช้แป้งฝุ่นชนิดมีประกาย โดยให้คุณลูบไล้เนื้อแป้งด้วยแปรงให้ทั่วผิวหน้า แล้วจึงปัดซ้ำอีกครั้งตามบริเวณที่ต้องการความโดดเด่นเป็นพิเศษ เช่น ช่วงหน้าผาก ใต้ตา และจมูก จะช่วยให้ใบหน้าดูดีมีมิติยิ่งขึ้น นอกจากนั้นแป้งชนิดนี้ยังสามารถใช้เติมในช่วงระหว่างวัน เพื่อเพิ่มประกายความเปล่งปลั่งนวลเนียนอีกด้วย

2. อำพรางรูขุมขน ให้ผิวดูเรียบเนียน สำหรับสาวที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง หรือสภาพผิวที่หยาบกร้าน ควรเลือกใช้แป้งชนิดฝุ่นอัดแข็ง เพราะจะให้เนื้อแป้งที่เนียนละเอียด ทั้งยังช่วยปกปิดร่องรอยต่าง ๆ บนใบหน้าได้อย่างแนบเนียนเป็นธรรมชาติ โดยคุณควรเลือกแป้งชนิดนี้ขณะที่ผิวหน้าแห้งสนิท ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเกิดคราบต่าง ๆ

3. ให้ผิวดูนวลเนียน และลดความมันส่วนเกิน ส่วนคนที่มีสภาพผิวผสมถึงผิวมัน แนะนำให้คุณเลือกใช้แป้งฝุ่น ซึ่งจะทำให้อณูแป้งที่เนียนละเอียด และบางเบามากที่สุด ช่วยในการดูดซับความมันส่วนเกินได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แป้งชนิดฝุ่นยังเหมาะสำหรับกดซับหลังทารองพื้น เพื่อทำให้เนื้อรองพื้นติดทนนาน และดูเป็นธรรมชาติ

4. แก้ไขปัญหาผิว ทำให้ผิวเปล่งประกาย ผิวหน้าที่ดูหมองคล้ำ ขาดความเปล่งปลั่งสดใส หรือมีรอยจ้ำแดง ควรปรับสีผิวให้ดูเปล่งปลั่งและเนียนเรียบซะก่อน ด้วยแป้งชนิดสามสีในตลับเดียว เพื่อช่วยลดเลือนรอยคล้ำ หรือรอยแดง ทั้งยังสามารถใช้แป้งชนิดนี้แทนไฮไลต์ หรือบลัชออนเพื่อเน้นรูปหน้าให้ดูสวยเด่นได้ด้วย


Beauty Tips


ทุกครั้งก่อนเลือกใช้แป้ง ควรรอให้มอยส์เจอไรเซอร์หรือรองพื้นที่เริ่มแห้งสักครู่ ทั้งนี้เพื่อช่วยป้องกันการเกิดคราบหนาเมื่อทาแป้ง


ก่อนเลือกใช้แป้งซ้ำในช่วงระหว่างวัน ควรซับผิวหน้าด้วยกระดาษซับมันซะก่อน เวลาทาแป้งทับจะได้ไม่เกิดคราบต่าง ๆ


หลีกเลี่ยงการใช้แป้งในปริมาณมาก ๆ บริเวณเปลือกตา เพราะจะทำให้ทาอายแชโดว์ไม่ติดทนนาน


หากมีริ้วรอยแห้งบริเวณใต้ตา ไม่ควรใช้แป้งชนิดที่มีประกายเกลี่ยในปริมาณที่มากเกินไป เพราะจะยิ่งเน้นให้เห็นริ้วรอยเด่นชัดยิ่งขึ้น
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:23
แก้ไขล่าสุด kallypaulsmith เมื่อ 2009-6-17 23:28

วิธีเลือกสีผม ด้วยสีผิวเราเอง


ผิวขาวอมชมพู ผิวสีนี้ดูมีสุขภาพดี สีผมที่เหมาะกับคุณคือ เฉดสีบลอนด์ ควรเลือกสีบลอนด์ประกายหม่น หรือโทนน้ำตาลทอง และทองแดงประกายน้ำตาล แล้วเสริมด้วยการทำไฮไลต์โทนอ่อนกว่าหนึ่งระดับเพื่อช่วยให้ผิวดูไม่ซีดเกิน ไป

ผิวขาวอมเหลือง สีผิวนี้ทำให้ใบหน้าดูซีดเซียวหรือเหนื่อยล้าไม่สดใส จึงควรเลือกทำสีผมโทนสีแดง เช่น ประกายม่วงเหลือบแดง น้ำตาลแดงประกายม่วง หรือแดงเข้มประกายแดง

ผิวสองสีหรือสีน้ำผึ้ง เหมาะกับผมโทนสีทอง เช่น สีส้ม น้ำตาลทองเคลือบประกายทอง สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีเนื้อ หรือทำไฮไลต์สีน้ำตาลอ่อนไล่ระดับ เพื่อช่วยให้ใบหน้าดูสว่างขึ้น

ผิวสีแทน ผิวคล้ำหรือผิวสีเข้ม เหมาะกับผมสีน้ำตาลแก่ น้ำตาลช็อกโกแลต สีมอคค่า และควรเพิ่มประกายทองแดง หรือเพิ่มมิติด้วยไฮไลต์ไล่ระดับ เพื่อขับให้สีผิวไม่ดูคล้ำจนเกินไป
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:27
เลือกย้อมผมเพิ่มเสน่ห์


การย้อมสีให้ผม และการเลือกย้อมสีผมให้เหมาะกับทรงผมของเรา จะยิ่งช่วยเสริม

สร้างบุคลิกภาพและสร้างความน่าสนใจให้ทรงผมของเรามากยิ่งขึ้น อิทธิพลของสีย้อมผม

ทำให้บุคลิกภาพของแต่ละคนนั้นดูแตกต่าง การทำสีผมที่เหมาะสมกับตนเองส่งให้

บุคลิกภาพของแต่ละบุคคลนั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น แต่ในทางกลับกัน  

อาจจะดูไม่ดีก็ได้หากเลือกสีผมที่ไม่เหมาะสมกับสีผม รูปหน้า และบุคลิกภาพของตัวเอง  

          นอกจากนี้ การทำสีผมมีอิทธิพลทำให้มีบุคลิกภาพที่แตกต่างกันแล้ว บาง

ครั้งการทำสีผมอาจทำให้รูปหน้าปลี่ยน เพราะบางครั้งผมที่มีสีอ่อนจะช่วยลด

ความแข็งกระด้างของรูปหน้าและแววตาลงทำให้มีมาดที่สุขุมมากขึ้น บางครั้งการ

ย้อมผมสีอ่อนๆ อย่างเช่น

          สีน้ำตาลอ่อน อาจทำให้บางคนมีใบหน้าที่สว่างสดใสมากขึ้นด้วย เมื่อ

อิทธิพลของสีย้อมผมมีมากมายอย่างนี้แล้ว ลองมาดูแฟชั่นสีย้อมผมกันบ้าง
  
          สีย้อมผมที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้มีอยู่ 4 แนวที่อิงกับธรรมชาติ คือ  

            - สีแนวเทอร์ราค็อตต้า (Terracotta) เป็นสีที่เกิดจากดินธรรมชาตินำมาปั้นเป็น

ก้อนอิฐ ได้แก่ สีน้ำตาลอมแดง น้ำตาลอมทอง เป็นต้น แต่ในการหยิบยกนำมาย้อมผม

คงเป็นสีเดียวโดดๆ เท่ากันตลอดทั้งศีรษะคงไม่เกิดความสวยงาม ถ้าจะให้เหมาะ

สมควรทำให้สีมีมิติ มีความเข้มความอ่อน สลับที่กันอยู่เพื่อให้เกิดความสวยงามที่มาก

ขึ้น  
            
           - สีแนวโมร็อกโก มิวส์ (Morocco Muse) เป็นชื่อของสถานที่แห่งหนึ่งรวม

บรรยากาศของสีไว้ค่อนข้างเยอะแต่ยังอิงธรรมชาติ ซึ่งมีโทนสีคล้ายๆ กับเทอร์รา

ค็อตต้า ได้แก่ สีน้ำตาลแดง สีน้ำตาลอมส้ม หรือสีอิฐ

           - สีแนวริเวียร่า ไซเรน (Riviera Siren) เป็นทะเลทางชายฝั่งไมอามี เป็นโทนสีที่

สดใสตัดกัน อย่างเช่น สีโทนดำ และทำสีผมไล่เฉดสี อย่างเช่น สีพื้นธรรมชาติอาจจะ

ออกโทนดำ และตัดกับสีเหลืองทำเป็นเส้นเล็กๆ แซมอยู่ในปอยผม สีพื้นน้ำตาลอ่อนแต่

มีลูกเล่นผมบางปอยที่ตัดกันเพื่อเน้นความเด่นของทรงผมด้วย

           - สีแนวละติน ดีว่า (Latin Diva) ในความเป็นละตินดีว่า  คือสีแห่งความร้อนแรง

ที่มีการผสมผสานกันระหว่างหลากหลายวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกัน โทนสีที่อึมครึมได้แก่  

สีม่วง แดง เขียว เป็นต้น  


        เทรนด์สีผมที่ได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน คือ เป็นสีผมที่มีหลายสีผสมกันไป  

เพื่อให้เกิดความสวยงามบนเส้นผม เนื่องจากคนเรามีสีผิวที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการ

ทำสีผมของมนุษย์เราจึงค่อนข้างมีความหลากหลายเพื่อให้คนได้เลือกเนรมิตเปลี่ยนสี

ผมของตัวเองตามความพอใจและความเหมาะสมของแต่ละคน  


        สำหรับผู้ที่นิยมการเปลี่ยนบุคลิกของตัวเองด้วยการทำสีผม การเลือกสีย้อมผมให้

เหมาะสมนั้นควรเลือกให้เหมาะกับรูปหน้า ทรงผม และสีผิวของตัวเองเป็นหลัก เพราะ

โดยปกติสีน้ำยาย้อมจะมีหลากสีสันให้เลือก ส่วนใหญ่ผู้ที่กำหนดเทรนด์สีผม รวมทั้งนัก

ออกแบบทรงผมมักได้แรงบันดาลใจมาจากสีที่อิงธรรมชาติอย่างที่กล่าวมา แต่ในบาง

ครั้งการเลือกสีย้อมผมให้เหมาะกับตัวเองและดูดีก็ควรดูให้เหมาะสมกับอาชีพและ

กาลเทศะด้วย เพราะบางอาชีพคงไม่เหมาะนักกับการรรใช้สีย้อมผมที่ดูตัดกันหรือมีสีที่

ฉูดฉาดจนเกินไป
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:27
เคล็ดลับการรักษาและดูแลเส้นผมหลังย้อมจากลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล

        การดูแลเส้นผมก่อนการทำสี  

        1. ก่อนการทำสีผม คุณควรตรวจดูให้มั่นใจว่าหนังศีรษะของคุณไม่มีแผลหรือรอย

ฟกช้ำใด  

        2. หากคุณคาดว่าจะมีอาการแพ้จากการทำสีผม ควรให้ช่างผมระดับมืออาชีพของ

คุณทดสอบการแพ้ด้วยสีผมที่ท้ายทอย หรือหลังใบหูก่อนการทำสีผม  

        3. ไม่ควรสระผมหรือเกาหนังศีรษะก่อนการทำสีเพราะการสระผมจะทำให้น้ำมัน

ธรรมชาติบนหนังศีรษะถูกทำความสะอาดออกไป และอาจทำให้คุณเกิดการระคาบเคือง

ขณะทำสีได้  

        4. หลังการทำสีผม คุณควรหลีกเลี่ยงการสระผม 2 วัน เพื่อให้สีผมติดทนทาน  


        การบำรุงเส้นผมหลังการทำสี  

       1. การอบไอน้ำ (สำหรับผมที่อ่อนแอหรือรู้สึกว่าแห้งกระด้าง) เพราะการอบไอน้ำ

เป็นการบำรุงผมด้วยสารบำรุง ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปถึงโซนเกล็ดผมที่ช่วยบำรุงชั้น

เซราไมด์ตามธรรมชาติให้คืนความนุ่มลื่นและทำให้เกล็ดผมปิดและเรียงตัวกันได้ดีขึ้น

หลังการอบไอน้ำชนิดของเซรั่มสำหรับการอบไอน้ำนั้นมีสำหรับผมหลายประเภท ได้แก่  

ผมทำสี ผมดัด ผมที่ต้องการวอลุ่มผมที่ผ่านการกัดสีและอ่อนแอมาก เพราะฉะนั้นคุณจึง

ควรเลือกชนิดของเซรั่มที่ตรงกับสภาพผมของคุณมากที่สุด  

        2. การใช้แชมพูและครีมนวดผมหรือมาสก์บำรุงเป็นประจำ สำหรับการใช้แชมพู

นั้น คุณควรใช้แชมพูสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะเพราะทุกครั้งที่ผมของคุณโดนน้ำหรือ

ความชื้น ผิวผมและเกล็ดผมของคุณจเปิดอ้าและ  ทำให้สีผมนั้นหลุดออกมาตามชั้น

เกล็ดผมได้ แต่ถ้าคุณใช้แชมพูเพื่อการทำสีผมโดยเฉพาะจะช่วยไม่ให้เม็ดสีหลุดออก

มา และช่วยถนอมสีผมให้ติดทนนาน นอกจากนั้นแชมพูและครีมนวดผมสำหรับผมทำสี

นั้น จะมีสารบำรุงที่มากกว่า และเหมาะสมกับผมที่ได้รับความอ่อนแอจากการทำสีผม

มากกว่าแชมพูสำหรับผมชนิดอื่นๆ

        3. การทำทรีตเมนต์ให้กับผมด้วยการสปาผม สมัยนี้มีการเปิดสปาผมกันอย่าง

แพร่หลายในร้านซาลอนระดับสูง ซึ่งคุณสามารถขอรับบริการเพื่อการบำรุงผมที่เฉพาะ

กับชนิดและปัญหาของเส้นผมและหนังศีรษะของคุณ เช่น ผมแห้งตามธรรมชาติ ผมที่

อ่อนแอจากการทำเคมี การทำทรีตเมนต์เพื่อบำรุงหนังศีรษะมัน และอับชื้นการบำรุง

เส้นผมดัด เป็นต้น  


       เคล็ดลับการดูแลเส้นผม           

        1. คุณควรเช็ดผมให้แห้งหมาด 70-80% ก่อนการใส่ครีมนวด เพราะถ้าเส้นผมของ

คุณยังเปียกด้วยน้ำนั้น  หมายความว่าครีมนวดจะไม่สามารถแทรกซึมผ่านน้ำเข้าใน

เกล็ดผมได้ เปรียบเทียบผมเหมือนฟองน้ำ ถ้ามีน้ำอยู่ในฟองน้ำ ฟองน้ำนั้นก็จะไม่

สามารถซับน้ำเข้าไปได้อีก  

        2. ควรทิ้งเวลาใช้ครีมนวดตามที่ผลิตภัณฑ์แนะนำ เพราะเป็นเวลาที่ได้รับการ

วิจัยมาแล้วว่าได้ประสิทธิภาพมากที่สุด  

       3. ทุกครั้งที่คุณเช็ดผมหลังการสระผม ควรใช้วิธีซับผมให้แห้ง ไม่ควรใช้วิธีการถู

หรือเช็ดอย่างรุนแรง  เพราะจะทำให้เส้นผมที่เปียกและอ่อนแออยู่นั้นเกิดความเสีย

หาย และทำให้เกิดผมแตกปลายได้ง่าน  

       4. ควรเลือกผลิตภัณฑ์เพื่อการทำสีที่สามารถบำรุงผมได้ทั้ง 3 โซน ได้แก่ ชั้นผิว

ผม ชั้นเกล็ดผม และชั้นแกนผม  เพื่อรักษาและบำรุงเส้นผมของคุณให้แข็งแรง นุ่ม

สลวย และเงางามอยู่เสมอหลักการทำสี  
     
        หมายเหตุ ไม่มีผลิตภัณฑ์แชมพูหรือครีมนวดใดในโลกที่สามารถเข้าถึงแกนผม

ได้ มีเพียงการบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีเท่านั้นที่สามารถบำรุงเข้าถึงแกนผม



ข้อมูล  อสมท
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:38
อัพเดท! เทรนด์แฟชั่นที่กำลังมา เป็นลายคลาสสิคที่ไม่มีทางเอาท์แน่นอน เพราะหนุ่มๆสาวๆจะหยิบมาใส่ได้เรื่อยๆ นั้นคือ เสื้อลายขวางเพราะกระแสของเนื้อผ้าลายทางและลายตารางหมากรุกกำลังมาแรง ยิ่งเมื่อสอดส่ายสายตามองไปตามแผนกเสื้อผ้าหนุ่มๆ ก็มักจะเห็นลายเหล่านี้ ถูกแต่งอยู่บนตัวหุ่นให้เห็นทั่วทุกแบรนด์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากกะลาสีเรือนั่นเอง วันนี้ มีวิธีการมิกซ์แอนด์แมทช์ ลายขวางมาแนะนำ




แฟชั่น ลายขวาง



เริ่มที่คนตัวเล็ก ควรเลือกลายขวางตาเล็ก ๆ ถี่ ๆ จะช่วยให้คุณดูมีเนื้อมีหนังขึ้น

คนร่างท้วม ควรเลือกลายขวางท่อนบนแล้วใต้อกต่อด้วยผ้าสีพื้นด้านล่าง สำหรับสาวๆถ้าเป็นชุดเดรส ควรเลือกลายขวางบนเสื้อหรือ กระโปรงอย่างใดอย่างหนึ่ง

ส่วนสาวๆคนไหนที่อยากอกใหญ่ ควรใส่ลายขวางสีอ่อนๆคาดตรงหน้าอกพอดี รับรองว่าขนาดดูเพิ่มในทันตา และ

สาวที่อยากให้อกเล็กลง ให้สวมเสื้อลายขวางคอวีหรือแบบซิปผ่าหน้ารูปตัววี ควรเลือกแบบที่มีสีสันสดใส จะช่วยพรางตา และดึงดูดความสนใจจากหน้าอกของคุณไปได้

สุดท้ายเท่ห์ แนวร็อค นำเสื้อลายขวางมาใส่กับกางเกงยีนส์ แล้วสวมทับด้วยแจ็กเก็ตหรือเสื้อกั๊ก เพียงเท่านี้คุณก็ดูเท่ห์แล้ว



โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:41
เคล็ดลับใส่ยีนส์ให้เซ็กซี่



   ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย ยีนส์ก็ยังคงความอมตะครองใจคนทุกเพศทุกวัยอยู่เสมอ

              กูรูแฟชั่นแถวหน้า ตือ-สมบัษร ร่ายยาวว่าแฟชั่นยีนส์กำลังจะกลับไปสู่ความเป็นเบสิกของยีนส์ อะไรที่มากไปถือว่าเชยแล้ว ความเซ็กซี่ที่มาจากสรีระของตัวเอง ถือว่าเจ๋งกว่าการใส่เครื่องประดับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าใส่ยีนส์ให้เซ็กซี่ ต้องใส่น้อยชิ้น หากแต่หมายถึงการใส่ยีนส์ให้เหมาะกับบุคลิก รูปร่าง ความเป็นตัวของตัวเองของผู้สวมใส่
   ขณะที่ ฟอร์ด-กุลวิทย์ อัพเดตว่า เมื่อไม่นานนี้มีการบัญญัติคำว่า “ดีไซเนอร์ยีนส์” ทำให้ยีนส์ดูมีค่ามากขึ้น และการดีไซน์ยีนส์ยังทำให้ผู้สวมใส่ยีนส์เปลี่ยนลุคได้อีกมากมาย และจุดเด่นที่ส่งผลให้ยีนส์ได้รับความนิยมมาตลอดคือ ยีนส์เป็นเครื่องแต่งกายที่ยิ่งเก่ายิ่งมีค่า
ช่วยกันแนะเรื่องเบสิกๆ ของยีนส์ให้ฟังอย่างเดียวยังจุใจไม่พอ 2 กูรูวงการแฟชั่นยังช่วยกันแนะวิธีเลือกยีนส์ให้เหมาะกับรูปร่างอีกด้วย

     
ประเภท บั้นท้ายใหญ่
ต้องใส่กางเกงยีนส์ที่มีกระเป๋าหลังและมีตะเข็บยาวลงมา เพื่อช่วยอำพรางบั้นท้าย

ส่วน รูปร่างออกแนวแมนนิดๆ ควรเลือกกางเกงที่ออกแบบด้วยการเดินเส้นโค้ง สีสว่าง หลีกเลี่ยงการใส่กางเกงทรงตรงแบบผู้ชาย เพราะยิ่งกลายเป็นเน้นรูปร่างเข้าไปอีก

ช่วงขาสั้น
ควรหายีนส์ลายทางและเป็นเส้นตรงเพื่อให้ดูขายาว

ขาใหญ่
กางเกงทรงตรงถือว่าเลิศสุด แต่ถ้า ใหญ่เฉพาะช่วงต้นขา ต้องนี่เลย ขาม้า และสาวๆใส่ยีนส์ให้เซ็กซี่ต้องใส่กับรองเท้าส้นสูง เพื่อช่วยให้สรีระทุกอย่างของผู้หญิง แลดูกระชับและยังช่วยเสริมบุคลิกได้ดีอีกต่างหาก!

ข้อมูลจาก http://campus.sanook.com
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-17 23:57
แต่งตัวตามสี  ประจำวัน  เกิดมาก ณ จุดนี้



โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:03
วิธีเลือกสีคอนแทคเลนส์ให้เหมาะสม


โดยปกติคำถามนี้เป็นคำถามที่ยากมากสำหรับผู้ใส่คอนแทคเลนส์ครั้งแรก และมันจะง่ายขึ้นถ้าคุณรู้ว่าคุณมีบุคลิกาพแบบไหน เช่น
ถ้าสีของดวงตาโดยธรรมชาติของคุณเป็นสีน้ำตาล คุณอาจจะเลือกคอนแทคเลนส์ในสีม่วง, สีเขียว, หรือสีฟ้า
ถ้าผิวของคุณ, ผม, และสีดวงตาโดยธรรมชาติเป็นสีโทนเย็น, สีโทนแดงสีน้ำเงิน, คุณอาจจะเลือกคอนแทคเลนส์สีโทนอุ่น เช่น สีน้ำตาลอ่อน
ถ้าคุณผิวดำ คุณอาจจะเลือกคอนแทคเลนส์ที่มีสีโทนสว่าง คุณใช้เครื่องสำอางกับดวงตาหรือไม่? เลือกคอนแทคเลนส์สีที่เด่นกว่าสีของ อายส์ชาโดว์ และ มาสคาร่า ที่คุณใส่
ถ้าคุณเป็นคนขี้อายหรือต้องให้ดูเป็นสีธรรมชาติถ้าสีตาโดยธรรมชาติของคุณคือสีดำหรือ น้ำตาล คุณอาจจะเลือกคอนแทคเลนส์ในสีเทา หรือสีน้ำตาลอ่อน ( Hazel ) ทางเลือกอื่นๆคือการเพิ่มความโดดเด่นสำหรับตาสีฟ้า ซึ่งทำโดยใช้คอนแทคเลนส์ที่มีสีเข้มมากเพื่อเน้นม่านตาของตาคุณ ถ้าผิว ผม การแต่งหน้าและสีตาโดยธรรมชาติเป็นสีโทนอุ่น, คุณอาจจะเลือกคอนแทคเลนส์โทนสีอุ่นอย่างเช่นสี Hazel เพื่อความเหมาะสมและกลมกลืนกับดวงตาของคุณ
เพิ่มเติมจ้า..
ผิวขาว คุณอาจจะเลือกคอนแทคเลนส์ที่มีสีโทนอุ่น เช่น น้ำตาลอ่อน สีฟ้า เขียว
ผิวสีแทน คุณอาจจะเลือกคอนแทคเลนส์ที่มีสีโทนสว่าง เช่น เทา เขียว น้ำตาลอ่อน
การใส่คอนแทคเลนส์นั้น เราควรใส่ใจเรื่องความสะอาดเป็นอันดับที่ 1 ควรล้างมือถูสบู่ทุกครั้ง ทั้งก่อนสัมผัสกับคอนแทคเลนส์และก่อนใส่คอนแทคเลนส์
ส่วนการทำความสะอาดคอนแทคเลนส์นั้น เราควรล้างคอนแทคเลนส์เสียก่อน แล้วนำไปแช่ประมาณ 8 ชั่วโมง เมื่อต้องการจะใส่ก็ให้ทำความสะอาดควรล้างอีกสักครั้ง
สำหรับเพื่อนๆ ที่เป็นคนตาแห้งก็สามารถใช้น้ำตาเทียมหยอดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวง ตา แต่ถ้าตาแห้งมากก็ไม่ควรใส่เพราะคอนแทคเลนส์อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง ตา และในระยะยาวอาจส่งผลทำให้เนื้อเยื่อตาอักเสบได้ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่
- ควรลองใส่คอนแทคเลนส์ Big eye ชนิดนั้นๆ ดูก่อนว่ามีอาการระคายเคืองหรือเปล่า
- ควรถอดคอนแทคเลนส์ออกมาล้างทุกครั้ง- ห้ามใส่คอนแทคเลนส์เวลานอนเด็ดขาด (ขอเตือนว่าอันตรายมาก)
- ห้ามแช่คอนแทคเลนส์โดยไม่ได้ล้างก่อน
- ห้ามใส่คอนแทคเลนส์เกินอายุการใช้งานที่ระบุไว้
- เมื่อใส่คอนแทคเลนส์แล้วเกิดอาการระคายเคือง มีเส้นแดงๆ ปวดตา ฯลฯ ควรรีบพบแพทย์โดยทันทีดวงตาของเรานั้นมีเพียงคู่เดียว รักษาให้ดีในตอนนี้เพื่อจะได้มีดวงตาคู่สวยไปนานๆ จะว่าไปแล้วการใส่คอนแทคเลนส์ก็ไม่ได้น่ากลัวมากมายอย่างที่คิดใช้ไหมคะ เพียงแค่เราใช้อย่างถูกวิธี เลือกใส่ตามความเหมาะสม ให้เหมาะกับตัวเอง และที่สำคัญคือ พยายามรักษาความสะอาดให้ดี เพียงเท่านี้ เพื่อนๆ ก็สามารถมีดวงตากลมโตบ้องแบ๊วแบบปลอดภัยกันทุกคนค่ะ...
ที่มา : Favlens.com
โดย: whome    เวลา: 2009-6-18 00:13
สุดยอดดดดดดดดดด
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:17
เทคนิคการเลือกซื้อเสื้อผ้าให้คนใส่ดูดี๊..ดี

             ผู้คนทั้งหลายมักจะมีความชอบเสื้อผ้าที่แตกแต่ง กัน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะมีเทคนิคในการคัดเลือกการ แต่งกายอย่างไร เพื่อให้รูปแบบ สีของเสื้อผ้าเข้ากับอายุ
อาชีพ สีผิว รูปร่างของตนได้อย่างดีหรือไม่ เทคนิคและ ศิลปะในการเลือกซื้อเสื้อผ้าถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่จะ ชี้บ่งว่าเสื้อผ้าการแต่งกายของคนๆ   หนึ่งเหมาะสมกับ ตัวเองหรือไม่

การเลือกเสื้อผ้าตามสีผิว
   

          1. คนที่ใบหน้าแดงเปล่งปลั่ง : เหมาะที่จะสวมเสื้อผ้า สีเขียวชาหรือสีเขียวแก่ ไม่เหมาะที่จะสวมใส่เสื้อสีเขียว สด มิฉะนั้นจะดูไม่ทันสมัย
         

          2. คนที่ใบหน้าออกเหลือง : เหมาะที่จะสวมใส่เสื้อ สีน้ำเงินหรือสีฟ้า ไม่เหมาะที่จะสวมเสื้อสีน้ำเงินแก่ สีคราม สีกรมท่า มิฉะนั้นจะทำให้ใบหน้าดูเหลืองมากยิ่งขึ้น   

           3. คนที่มีสีหน้าอิดโรยผิดปกติ : เหมาะที่จะสวม เสื้อสีขาว เพื่อให้แลเสมือนสุขภาพดี ไม่เหมาะที่จะสวม เสื้อสีเทา สีม่วง จะทำให้ดูเหมือนอ่อนเพลียยิ่งขึ้น
         

          4. คนที่มีสีผิวขาวเหลือง : เหมาะที่จะสวมเสื้อผ้าโทน สีอบอุ่นแลดูอ่อนโยน เช่น สีชมพู สีส้ม ไม่เหมาะที่จะ สวมเสื้อผ้าสีเขียวและสีเทาอ่อน มิฉะนั้นจะดูเหมือนเป็น คน “ขี้โรค”
         

           5. คนที่มีสีผิวคล้ำ : เหมาะที่จะสวมเสื้อผ้าสีอ่อน สว่าง เช่น สีเหลืองอ่อน สีชมพูอ่อน สีขาว เป็นต้น ซึ่ง จะสะท้อนความสว่างของสีผิว
         

          6. คนที่มีผิวไม่ละเอียด : เหมาะที่จะสวมเสื้อที่ทำจาก สิ่งทอที่มีหลากสี มีลายนูนเว้าบ้าง (เช่น ผ้าสักหลาดหยาบ เป็นต้น) ไม่เหมาะที่จะสวมเสื้อทำจากสิ่งทอสีอ่อนที่มี ลวดลายประณีต
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:17
การเลือกเสื้อผ้าตามรูปร่าง


     1. พยายามหลีกเลี่ยงเสื้อที่มีคอเสื้อเหมือนรูปทรง ใบหน้าของคุณ

(1) คนหน้ากลม ต้องไม่เลือกเสื้อคอ กลม ควรเลือกใส่เสื้อคอ V คอแบะหรือคอเปิด

(2) หากเป็นคนหน้าเหลี่ยม ควรเลือกใส่เสื้อคอ V   คอเสื้อ รูปตัว U หรือคอแบะ คอเปิด

(3) หากเป็นคนหน้ายาว ควรเลือกเสื้อคอกลมหรือคอตั้ง
        

2. ควรเลือกเสื้อที่สามารถแก้จุดด้อยของคอ

(1) คนคอสั้นควรเลือกเสื้อคอเปิด คอแบะหรือเสื้อคอต่ำ

(2) คนคอใหญ่ควรเลือกเสื้อที่มีคอแบบจีนคอตั้งหรือคอเสื้อ ที่แคบแต่ลึก และผูกผ้าพันคอ

(3)คนคอยาวควรเลือก คอปกตั้งและผ้าพันคอที่พันชิดกับคอ
         

  3. การเลือกเสื้อผ้าที่ส่งเสริมจุดเด่นหลีกเลี่ยงจุด ด้อยตามสภาพรูปร่างของแต่ละคน

(1) คนหน้าอกใหญ่ ควรเลือกเสื้อคอเปิดหรือคอต่ำหรือเสื้อหลวมที่มีไหล่ กว้าง เพื่อให้เอวดูเล็กลง   

(2)   คนหน้าอกเล็ก ควรเลือก เสื้อที่มีคอเปิดเป็นแนวเล็กยาวและเสื้อลายขวาง

(3) คน เอวสั้น ควรเลือกเสื้อคลุมเอวสูงที่จับจีบ หรือกระโปรง อัดพีท

(4) คนสะโพกแคบ ควรเลือกกางเกงทรงหลวม หรือกางเกงที่จีบด้านบน   กระโปรงจีบแบบหลวม หรือเสื้อแจ๊คเก็ตตัวหลวม

(5) คนสะโพกใหญ่   ควรเลือก กระโปรงหรือกางเกงที่พอดีตัวและมีส่วนโค้งส่วนเว้า เสื้อ หรือเสื้อกล้ามต้องยาวคลุมสะโพก   ถ้าจะให้ดีกระโปรง   ควรมีกระดุมเล็กๆ   เป็นแถวยาวหรือรอยตะเข็บตรงกลาง

(6)   คนที่ขาใหญ่     ควรเลือกกระโปรงที่ขอบเอว กระชับแต่ด้านล่างหลวม กางเกงที่ด้านบนมีรอยจีบหรือ ขาตรงหรือจะเลือกกางเกงขาสั้นหรือกางเกงกระโปรงก็ได้ (7) คนขาสั้น ควรเลือกเสื้อที่เป็นสีเดียวกันหรือเสื้อ เอวลอย
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:20
trip of cloths
- เสื้อผ้าสีเข้ม จะทำให้ดูผอมเพรียวกว่าเดิม

- ผ้าเนื้อมันจะช่วยเน้นสัดส่วนที่ต้องการจะมิดเม้ม หากไม่อยากให้ไขมันส่วนเกินออกมาปรากฏโฉม ก็ให้หลืกเลี่ยวเสื้อผ้าแบบนี้

- กระโปรงแซคที่เหมาะสม ควรจะเป็นทรงเอ หรือเอไลน์ จะช่วยพรางสะโพกได้

- กระโปรงทรงเอยาวเหนือเข่า จะช่วยพรางความอวบของช่วงขา

- สวมใส่เสื้อผ้าสีเดียวกันทั้งชิ้น ดีหว่าหลากสี

- คาดเข็มขัดเส้นเล็กต่ำ ๆ ใต้สะโพกจะช่วยหลบพุง

- เสื้อสูพกับรองเท้าส้นสูงช่วยให้ดูเรียว

- ผ้าเนื้อหาบอกลาไปซะ กันมาหาผ้าเนื้อบางเบาและทิ้งตัว

- เสื้อผ้าระบายฟูฟ่อง หรือลูกไม้ย้อยระย้า ม้จะต้องตาแค่ไหน ก็อย่างไปซื้อมาใส่

- สีโทนพาสเทลหวาน ๆ ก็ไม่เหมาะกับสาวเจ้าเนื้อเหมือนกัน แต่หากอดใจไม่ไหว ให้เลือกใส่ส่วนใดส่วนหนึ่ง อย่างใส่ทั้งชุด

- กางเกงที่มีกระเป๋าเต็มไปหมด ก็ไม่ควรใส่ เพราะจะทำให้ดูตัวพองขึ้นมามากกว่าเดิม
โดย: pingpong1006    เวลา: 2009-6-18 00:21
เป็นประโยชน์มากเลย ขอบคุณมาก
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:26
การเลือกเสื้อผ้าตามรูปร่าง ตามลักษณะโครงสร้าง

หากเป็นคนผอมบาง       
        - ใส่สีอ่อนหรือสีสว่าง จะช่วยให้ดูเปล่งปลั่ง
        - สามารถใช้เนื้อผ้าที่มันวาวเพื่อเพิ่มขนาดร่างกาย
        - หลีกเลี่ยง ผ้าแข็ง ผ้าหนา แนบเนื้อ หรือรัดรูป

หากเป็นคนอ้วน
        - สวมเสื้อผ้าที่เสริมไหล่
        - ควรเป็นเสื้อผ้าเนื้อเรียบ เบาบาง
        - เสื้อควรเป็นคอวี  ลายคั้ง
        - ผ้าสีเข้ม ช่วยให้ดูผอม

เป็นคนสูงใหญ่
        - ควรสวมเสื้อผ้าที่หนา
        - เสื้อคอกว้างๆ แขนกว้างๆ
เป็นคนตัวเตี้ย
        - ควรเป็นผ้าสีเดียวกันทั้งชุด
        - เสื้อลายแนวตั้ง กระเป๋าด้านเดียว
        - เสื้อคอวี แขนยาว ไม่จีบพอง
        - กางเกงควรรีดเป็นจีบคม ขายาว
        - รองเท้าสีเดียวกับกางเกง
       
ผิวขาว
        - สีกรม ดำ ช่วยขับผิว ถ้าเป็นสีสดใช้สีอ่อน ..ใช้ได้เกือบทุกสี
ผิวคล้ำ
        - สีเหลืองเทาๆ ครีม สีเบจ น้ำตาลอ่อน ฟ้า เขียวอ่อน ไม่ควรเป็นสีน้ำตาลเข้ม หรือสีเข้มอื่นๆ
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:30
วิธีการเลือกรองเท้า


ปัญหาของสุขภาพเท้าในประเทศไทยยังไม่มีมากเหมือนในต่างประเทศ เช่นสหรัฐอเมริกา มีผู้รวบรวมสถิติไว้ว่า แต่ละปีค่าใช้จ่ายในการรักษาปัญหาของเท้า ที่เกี่ยวข้องกับการใส่รองเท้าไม่เหมาะสม มีถึง 2000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 50,000 ล้านบาท ไม่รวมถึงค่าสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการหยุดงาน จนถึงขนาดมีผู้เชี่ยวชาญในการดูแลรักษาเท้าโดยเฉพาะ

ดังนั้นเพื่อให้ท่านได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกรองเท้า เราขอเสนอคำแนะนำ 10 ประการดังนี้

ขนาดของรองเท้าแต่ละยี่ห้อที่ติดไว้บนรองเท้าจะไม่เท่ากันเสมอไป ท่านต้องทดลองใส่จริง อย่าซื้อรองเท้าโดยไม่ทดลองใส่ หรือเพียงแค่บอกเบอร์เท่านั้น
เลือกรองเท้าที่เหมาะกับรูปเท้าของท่าน เช่น ปลายเท้าท่านกว้างก็ไม่ควรใส่รองเท้าที่หัวเล็ก และแคบ
เท้าอาจเปลี่ยนแปลงขนาดได้เมื่อท่านอายุมากขึ้น
ทดลองใส่รองเท้าทั้ง 2 ข้าง เพราะเท้าคนเราจะไม่เท่ากันเสมอ ควรเลือกรองเท้าที่ใส่ได้พอดีกับเท้าที่ใหญ่กว่า
ควรไปซื้อรองเท้าในช่วงบ่ายหรือเย็น เพราะเท้าของท่านจะขยายใหญ่กว่าตอนเช้าๆ
ควรลุกขึ้นยืน และดูว่าหัวรองเท้า มีที่ว่างถัดจากปลายนิ้วที่ยาวที่สุดประมาณ ครึ่งนิ้ว
ควรให้ข้อต่อโคนนิ้วกระชับพอดีส่วนกว้างที่สุดของรองเท้า
อย่าเลือกซื้อรองเท้าที่คับเกินไป เพราะมั่นใจว่าใส่ๆ ไปแล้วรองเท้าจะยืด
ส้นเท้าของท่านควรจะกระชับพอดี กับด้านหลังรองเท้า ไม่ควรขยับขึ้นลงได้
เมื่อทดลองใส่รองเท้า ควรเดินไปมาเพื่อให้แน่ใจว่าใส่สบาย สำหรับในสุภาพสตรี ความสูงของส้นเท้าที่แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำคือไม่ควรสูงเกินสองเศษหนึ่งส่วนสี่นิ้ว

สมาคมโรคเท้าและข้อได้แนะนำเลือกรองเท้าที่พอดีกับเท้า

1.รองเท้าแต่ละบริษัทและแต่ละรุ่นแม้ว่าจะเบอร์เดียวกันแต่ขนาดไม่เท่ากัน เวลาเลือกต้องทดลองกับเท้าตัวเองทุกครั้ง
2.เลือกรองเท้าที่มีลักษณะเหมือนเท้าของตัวเองอย่าตามแฟชั่นมากเกินไปเพราะจะทำให้เท้าท่านมีปัญหา
3.ต้องวัดขนาดของเท้าเป็นประจำเนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้นเท้าจะมีขนาดใหญ่ขึ้น
4.ควรจะซื้อรองเท้าชนิดใช้เชือกผูกเพราะจะทำให้พอดีกับเท้า
5.เท้าสองข้างจะไม่เท้ากันต้องวัดทั้งสองเท้าและเลือกรองเท้าที่มีขนาดพอดีกับเท้าข้างใหญ่
6.เลือกซื้อรองเท้าตอนบ่ายๆหรือเย็นๆเนื่องจากช่วงนั้นเท้าจะมีขนาดใหญ่
7.เวลาทดลองใส่รองเท้าให้ยืนและให้ตรวจสอบว่าเมื่อใส่รองเท้านิ้วที่ยาวที่สุดจรดปลายข้างหนึ่ง ส่วนปลายอีกข้างหนึ่งมีพื้นที่เหลือประมาณครึ่งนิ้ว
8.ควรจะสวมถุงเท้าคู่ที่ใส่เป็นประจำไปลองรองเท้าคู่ใหม่
9.ให้แน่ใจว่าฝ่าเท้าของท่านพอดีกับส่วนกว้างที่สุดของรองเท้า
10.เมื่อใส่รองเท้าแล้วนิ้วเท้าของท่านสามารถขยับได้ทุกนิ้ว
11.อย่าซื้อรองเท้าที่แคบเกินไปโดยหวังว่ามันจะขยาย
12.ส้นเท้าของท่านควรจะพอดีส้นรองเท้าไม่หลวมเกินไป
13.เวลาทดลองใส่รองเท้าให้ใส่เดินเพื่อตรวจดูว่าพอดีกับเท้าหรือไม่ใส่แล้วสบายหรือไม่
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:32
การเลือกรองเท้ากีฬาให้เหมาะสม






ใครที่กำลังมองหารองเท้ากีฬามาใส่ออกกำลังกาย วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีการเลือกรองเท้ากีฬาให้เหมาะสมมาฝาก...

- รองเท้าวิ่ง
รองเท้าวิ่งจะต้องมีแผ่นรองเท้าที่กันกระแทกและจะต้องมีหุ้มส้นที่พอเหมาะ รองเท้าจะป้องกันเอ็นอักเสบ ปวดส้นเท้า และกระดูกหัก

- รองเท้าสำหรับเดิน
ควรเป็นรองเท้าที่มีน้ำหนักเบาและควรมีแผ่นกันกระแทกที่ส้นเท้าและกลางบริเวณฝ่าเท้า ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดบริเวณส้นเท้าและฝ่าเท้า พื้นรองเท้าจะออกป้านๆเพื่อให้การถ่ายน้ำหนักจากส้นเท้าไปยังนิ้วเท้าและลดแรงที่ฝ่าเท้า รองเท้าสำหรับเดินจะมีส่วนหน้าซึ่งค่อนข้างแข็งกว่ารองเท้าวิ่ง

- รองเท้าสำหรับเต้นแอโรบิค
รองเท้าต้องมีน้ำหนักเบาเพื่อมิให้เกิดอาการเมื่อยเวลาออกกำลังกาย ตรงฝ่าเท้าต้องมีแผ่นกันกระแทกที่นุ่มเพราะส่วนนี้เป็นส่วนที่มีการกระแทกมากที่สุด

- รองเท้าสำหรับการเล่นเทนนิส
ต้องเป็นรองเท้าที่ป้องกันข้อเท้าขณะที่มีการสไลต์ออกข้าง พื้นรองเท้าไม่จำเป็นต้องมีแผ่นกันกระแทกที่หนาเกินไป

- รองเท้าสำหรับการเล่นเบสบอล
พื้นรองเท้าต้องหนาและแข็งเพื่อการทรงตัวที่ดี และต้องเป็นรองเท้าหุ้มข้อเพื่อป้องกันข้อพลิก หากใส่รองเท้าแล้วมีปัญหาปวดที่ส้นเท้า ฝ่าเท้าอาจจะต้องหาอุปกรณ์เพิ่มเช่น แผ่นรองส้นเท้า แผ่นรองฝ่าเท้า

รู้อย่างนี้แล้ว ควรเลือกซื้อรองเท้ากีฬาให้เหมาะกับประเภทกีฬาดีกว่า เพื่อความปลอดภัย.
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:35
ข้อคิด 10 ข้อในการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทาง   



1. ล้อ
ส่วนนี้เป็นส่วนที่อ่อนแอที่สุดที่จะเสียหายในการขนส่ง สายการบินทั่วไปจะปฏิเสธความรับผิดชอบสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับล้อ และผู้ผลิตหลายรายมักยกเว้นล้อในข้อรับประกันของบริษัท ล้อที่ดีที่สุดควรเป็นล้อยางทั้งลูกชนิดที่เป็นล้อแบบหรือเป็นลูกกลม ที่มีตลับลูกปืน ล้อควรฝังอยู่ภายในกระเป๋า โดยเฉพาะกระเป๋าที่ไว้ใต้เครื่องบินเพราะจะป้องกันการเสียของล้อได้ สำหรับกระเป๋าที่นำติดตัวขึ้นเครื่องบิน ควรดูขนาดให้ถูกตามกฎเกณฑ์ของสายการบิน
2. หูหิ้ว
หูหิ้วแบบยืดหดควรติดตั้งภายในกระเป๋าได้เป็นดี หรือแบบพับแนบตัวกระเป๋าอัตโนมัติ เพื่อป้องกันความเสียหายของเสาคันชัก แม้ว่าคันชักที่ติดตั้งภายนอกจะทำให้มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านในมากขึ้นก็ตาม เพราะคันชักมักจะเสียหาย จากแรงกระแทกจนทำให้ยืดหดคันชักไม่ได้ แต่ในกรณีที่เป็นกระเป๋าหิ้วติดตัวก็ไม่จำเป็นต้องให้คันชักมีเสาอยู่ด้านในก็ได้เพราะความเสี่ยงจากการเสียหายมีน้อยกว่ามาก
3. Denier (หน่วยวัดความแข็งแรงของผ้า)
Denier เป็นหน่วยของการวัดขนาดเส้นใยที่ใช้ในการทอผ้า dinier ยิ่งมากจะทำให้ผ้าหนักขึ้น สำหรับวัสดุที่นำมาทอเป็นผ้าก็ให้ความแข็งแรงต่างกันด้วย เช่น polyester 1800 denier แข็งแรงกว่า Polyester 1200 denier แต่แข็งแรงน้อยกว่า ballistic nylon 1050 denier โดยทั่วไปตามสายการบินจะไม่ยอมรับความเสียหายกับกระเป๋าเดินทางที่ทำด้วยผ้า 600-700 denier
4. การรับประกัน
กระเป๋าทุกยี่ห้อจะรับประกันก็ต่อเมื่อมีความเสียหายที่เกิดจากการผลิตเท่านั้น เช่น ซิปผิดปกติ รอยเย็บเบี้ยว หูลากหลุดหรือน็อตหลุด การรับประกันส่วนใหญ่จะเป็นของผู้ผลิต ไม่ใช่เป็นของร้านที่ขายดังนั้นไม่ควรไปเชื่อกับการรับประกันของร้านมากนัก
5. การซื้อกระเป๋าเป็นการลงทุนไม่ใช่ความสิ้นเปลือง
การคุ้มทุนในการลงทุนซื้อกระเป๋าขึ้นอยู่กับอายุของการใช้งานกระเป๋า ถ้าคุณจ่ายเงินสองเท่าเพื่อซื้อกระเป๋าที่มีอายุใช้งานนานขึ้น 4 ปี อย่าลืม ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมด้วย
6. ไม่ต้องกังวลว่ากระเป๋าใบใหญ่กว่าจะหนักกว่า
สิ่งของที่คุณจะบรรจุลงในกระเป๋าอาจมีน้ำหนักประมาณ 20-30 กก. แต่น้ำหนักกระเป๋าที่ใหญ่เล็กต่างกัน 4-6 นิ้ว อาจมีน้ำหนักต่างกันเพียงครึ่งกิโลเท่านั้น และคุณจะรู้ว่าถ้ากระเป๋าไม่พอคุณต้องซื้อกระเป๋าอีกใบที่น้ำหนักอย่างต่ำก็ประมาณ 3-4 กก.
7. กระเป๋าใหญ่ก็ไม่ใช่ว่าดีเสมอไป
คนทั่วไปจะบรรจุสิ่งของลงในกระเป๋าขนาด 26 นิ้วได้พอดี ดังนั้นก็ไม่ควรใช้กระเป๋าขนาดใหญ่กว่านี้ โดยเฉพาะถ้าคุณมีปัญหาเรื่องการยกของหนัก เช่น ปวดหลัง หรือปวดแขน
8. อย่าไปยึดติดกับยี่ห้อ
คนทั่วไปจะคุ้นเคยกับชื่อ Samsonite และ american tourister เพราะเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ขายมานาน แต่ก็ยังมีหลายยี่ห้อที่คุณภาพก็ใช้ได้ เช่น travelpro eminent echolac delsey หรือแม้แต่ Blue light, Valentino, Miracle, Dandy ลองเลือกการใช้งานต่าง ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจควักกระเป๋าซื้อ
9. ซื้อกระเป๋ากับร้านที่มีความรู้ด้านกระเป๋า
เพราะกระเป๋าเดินทางเดี๋ยวนี้ไม่ใช่มีหน้าที่แค่บรรจุสัมภาระเท่านั้น อย่าไปกลัวที่จะถามคนขายเกี่ยวกับความทนทาน หน้าที่การทำงานต่าง ๆ การบริการหลังการขาย
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:37
เคล้ดลับการ เลือกกระเป๋า



ตัวสู๊ง.. สูง

ว่ากันว่า คนตัวสูงน่ะ ไม่ค่อยมี ปัญหา ในการแต่งตัว เพราะใส่อะไร ก็ดูสวย ดูสง่า แต่.. ถ้าเลือกกระเป๋าผิด ก็คิดจนตัวตาย ได้เหมือนกันนะ (เวอร์จริง) กระเป๋า สำหรับคนตัวสูง ควรจะเลือก ทรงที่ต้องสะพาย แนบลำตัว หรือหนีบไว้ที่รักแร้ เพราะจะ ทำให้รูปร่าง กระทัดรัดมากขึ้น ถ้า สะพายกระเป๋า ที่มีสายยาว ปล่อยให้ตัวกระเป๋า ตกลงมาอยู่ในช่วงเอว หรือสะโพก ก็จะยิ่งทำให้รูปร่าง ดูเกะกะ เทอะทะมากขึ้น ที่สำคัญ กระเป๋าทรงที่ควรหลีกเลี่ยง มากที่สุดคือ กระเป๋าถือ เพราะนั่น ยิ่งจะ ทำให้แขน และลำตัว ของเรา ดูยาวมากขึ้น หากจำเป็นต้องใช้จริง ๆ ควรเลือกกระเป๋าถือ ใบบาง ๆ แบบหนีบข้างลำตัวได ้จะดีกว่า





ตัวเตี้ย...

สำหรับสาว ที่มีรูปร่าง สุดแสนจะ กระทัดรัด ตรงตามมาตรฐาน หรือต่ำกว่ามาตรฐานสาวไทย ก็ต้องหากระเป๋าตรง แบบตรงข้าม กับสาวที่มีรูปร่าง สูง นั่นคือ ควรจะหากระเป๋า แบบที่มีสะพายยาว ๆ ให้ตัวกระเป๋า ตกลงมาอยู่ประมาณเอว หรือ สะโพกบน อย่าไปเผลอ ซื้อแบบสายสะพายสั้น หนีบติดจั๊กกะแร้มาใช้หล่ะ เพราะนั่น จะยิ่งทำให้ตัวดูสั้น เตี้ย เป็นมะขามข้อเดียว มากขึ้นไปอีก และถ้าใคร อยากเป็นผู้หญิง ที่มีมาดเท่ห์ ๆ หน่อยล่ะก้อ.. สบายมาก เพราะสาวหุ่นแบบนี้แหล่ะ เหมาะกับกระเป๋าเป้ แบบสะพายข้างมาก ๆ เลยรู้มั๊ย? เพราะด้วย สายที่ยาว และรูปทรงของกระเป๋า ที่ออกแบบ เพื่ออยู่ข้างลำตัว ประมาณ ช่วงสะโพก จะทำให้ ช่วงบนของเรา ดูยาวขึ้นไงหล่ะ... TRICKS พรางหุ่นด้วยกระเป๋า เจ๋งซะ!!!





ตัวหนา...

คนตัวหนา มีข้อห้ามอย่างนึง คือ ห้ามถือกระเป๋า หนา ๆ ไม่เชื่อลองสังเกตดูสิ เพื่อนเรา คนไหน ที่มีหุ่นอ้วน ๆ แถมยังชอบ ถือกระเป๋านักเรียน ใบโตๆ อ้วน ๆ หนา ๆ ไม่รู้ว่าวันนึง ๆ หอบอะไร มาเรียนกันนัก เห็นม๊ะว่าพอมองไป จะให้ความรู้สึก ว่า มีก้อนอะไรซักอย่าง เดินไปเดินมา แต่นั่น เป็นกระเป๋านักเรียน ก็พออนุโลม เพราะเรายังอยู่ ในวัยเรียนนี่ ฉะนั้น คนที่มีตัวหนา ๆ DRESS TRICKS ขอแนะนำ อย่างขวานผ่าซากว่า ควรเลือก สะพาย หิ้ว ถือกระเป๋าที่มีขนาดบาง ๆ โดยเฉพาะ พวกที่ชอบสะพายเป้ แบบ Back Pack หนา ๆ ยิ่งควรเปลี่ยน บุคลิกตัวเอง ซะใหม่ เพี่อ ความดูดี และเข้ากับรูปร่าง ของตัวเอง ไม่งั้น นอกจากจะเสี่ยง ต่อการ เป็นโรค ปวดหลังแล้ว อาจจะเสี่ยง ต่อการแข่งกันไล่เตะ จากพี่เบคแฮม เปอร์ตีต์ ซีดาน ฮ่า.. ฮ่า ขอเตือน ด้วยความหวังดี





ตัวบาง...

อ๊ะ ๆ มีหลายคน คิดหล่ะซิ ว่าเป็นคนตัวหนา ต้องสะพายกระเป๋า แบบบาง ๆ พอเป็น คนตัวบาง เลยต้องสะพายกระเป๋า แบบหนา ๆ ขอบอกว่า ผิดถนัด.. คิดดูซิ ตัวก็ออกจะ บางนิ้ด..เดียว แต่เล่น หอบกระเป๋าใบโต เป็นพวกบ้าหอบฟาง มันจะไปดูว่าสวย ตรงไหน ฮึ??? ถ้าจะให้สวยก็ต้องนี่ เล่นกันที่ขนาด ของตัวกระเป๋า การที่เรา ตัวเล็ก และไม่สามารถใช้เสื้อผ้า ช่วยอำพราง รูปร่างได้ ก็ต้องใช้ขนาด ของกระเป๋า มาทำให้รูปร่างเรา สมส่วน มากขึ้น นั่นคือ ควรเลือกกระเป๋า ที่มีขนาดใหญ่ ปานกลาง ไม่เล็ก แบน ฟีบ หรือไม่ใหญ่ เทอะทะ จนเหมือนสะพายหีบ ใส่ของ ให้มีขนาด พอเหมาะ แค่นี้ ก็จะ สามารถทำให้ รูปร่างของเรา ดูใหญ่ และสมส่วน มากขึ้น หลีกเลี่ยงใบบาง ๆ ติดจั๊กกะแร้ ถ้าเป็นคนสะอาด DRESS TRICKS ขอแนะนำ ให้เลือกกระเป๋า สีโทนสว่างจะดีกว่า

Tricks เล็กน้อย สำหรับการดูแลกระเป๋า คือ กระเป๋าหนัง จะดูแลง่ายที่สุด แต่ต้องระวัง อย่าให้โดนพวก แอลกอฮอลล์ อย่างทินเนอร์ หรือยาล้างเล็บ และในช่วงฤดูฝน แบบนี้ ควรเลี่ยง กระเป๋า พวกไมโครไฟเบอร์ เพราะแบบนี้ จะเสียง่าย เมื่อโดนน้ำบ่อย ควรเลือก เป็นผ้าร่ม จะดีกว่า
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:40
วิธีเลือกทรงแว่นให้เหมาะกับหนังหน้า



ถ้าคุณรักจะสวมแว่นหรือจำเป็นที่จะต้องสวมแว่นแล้ว ไม่ว่าแว่นสายตาหรือแว่นกันแดดก็ตาม นอกจากเพื่อประโยชน์ในการใช้งานแล้ว ก็ต้องคำนึงความสวยงาม เป็นเสมือนเครื่องประดับที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นด้วย


ไม่ใช่ว่าคนเกิดมาหน้ารูปไข่จะต้องได้เปรียบเสมอไป จนคนรูปหน้ากลมเป็นเลดี้มูน หน้าเหลี่ยมเป็นกล่อง จะคิดน้อยอกน้อยใจว่า ชาตินี้จะใส่แว่นแล้วดูดีไม่ได้เลย เพราะกรรมเก่า อะไรทำนองนั้น ของมันมีวิธีแก้อยู่ เริ่มจากตรวจดูให้แน่ชัดว่าใบหน้าของคุณนั้นมีรูปทรงอย่างไร หรือถ้าไม่แน่ใจ จะให้คนรอบตัวช่วยบอกก็ได้ รู้แล้วเราก็มาดูกันว่า แว่นแบบไหนจึงจะเหมาะ

รูปหน้ากลม
แม้ว่าเพลงยาวของหนุ่มไทยจะชมความงามของหญิงสาวว่างามราวดวงจันทร์ ก็ไม่ได้หมายถึง ความกลมสวยเหมือนพระจันทร์ แต่หมายถึงความงามที่ดูแล้วนุ่มนวลดั่งแสงจันทร์ดังนั้นเวลาที่คุณเลือกแว่นตา ควรจะเลือกทรงที่ช่วยทำให้รูปหน้าของคุณดูยาวขึ้นก็คือกรอบทรงเหลี่ยม ไม่ว่าจะเหลี่ยมไหนๆ หรือเป็นลักษณะเหลี่ยมๆ มุมๆ สักหน่อยก็ได้ กรอบแว่นก็ควรจะมีสีค่อนข้างเข้ม เช่น น้ำตาลเข้ม แดงเข้ม น้ำเงินเข้ม หรือลายกระก็ได้ เพราะสีเข้มของกรอบจะช่วยนำสายตาของคนอื่นให้ไปหยุดอยู่ที่กรอบแว่นเหลี่ยมแทนที่จะป็นหน้ากลมๆ ของคุณ

รูปหน้าหัวใจ หรือสาวรูปหน้าแบบสามเหลี่ยมหัวกลับ
ก็คือสาวหน้าผากกว้าง-คางแคบ ต้องพยายามหาแว่นที่ช่วยสร้างสมดุลระหว่างพื้นที่กว้างที่สุดและแคบที่สุดบนใบหน้าคุณ แว่นตาที่เหมาะกับใบหน้าคุณควรจะเป็นทรงกลมหรือวงรี ยาว มนและกรอบแว่นต้องบาง มีสีอ่อน ข้อสำคัญคือ อย่าเลือกกรอบขนาดใหญ่เกินไป เพราะจะไปเน้นหน้าผากกว้างๆ ของคุณให้ชัดขึ้น

รูปหน้าสี่เหลี่ยม
สาวประเภทนี้มักจะเป็นคนที่มีกรามใหญ่ มีโหนกแก้มนูนสูง ซึ่งนี่แหละที่เป็นปัญหา นอกจากจะต้องเลือกทรงของแว่นตาให้มีลักษณะกลม โค้งมน หรือรูปวงรีเพื่อช่วยให้หน้าของคุณเรียวยาวแล้ว คุณยังต้องเลือกกรอบแว่นที่เวลาสวมแล้วอยู่ในระดับเดียวกับโหนกแก้ม เพื่อปิดบังความนูนสูง ทำให้ไม่เห็นเหลี่ยมบนใบหน้าจนเด่นชัด เพราะช่วงความโค้งของกรอบแว่นจะเป็นเส้นนำสายตาให้ลืมความเหลี่ยมบนใบหน้าไปเลย

รูปหน้าสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง
จัดว่าเป็นคนรูปหน้ายาว แต่ก็ยาวแบบสี่เหลี่ยมหรือความกว้างของแก้มและคางแทบจะเท่ากัน เหมือนกรอบประตู-หน้าต่างแคบๆ ดังนั้น หน้าคุณแม้จะยาว แต่ก็แคบด้วย แก้ได้โดยเลือกหยิบเอาแว่นทรงเหลี่ยม เรขาคณิต ในทางขวางมาสวม จะข่วยทำให้ใบหน้าของคุณดูสั้นลง สมส่วนขึ้น

รูปหน้าทรงไข่
เอาล่ะ ถ้าคุณมีรูปหน้าเช่นนี้ ก็จงภูมิใจไว้เถอะว่า ทำบุญมาดี โชคดีอย่างสุดๆ เพราะรูปหน้าอย่างคุณ ไม่ว่าแว่นทรงไหนๆ ก็หยิบมาวางบนดั้งได้อย่างสบายๆ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดก็คือ กรอบทรงรี เพราะจะเน้นใบหน้ารูปไข่ของคุณให้สวมคมยิ่งขึ้น ข้อสำคัญคือขนาด ต้องให้รับกับใบหน้าของคุณ ง่ายๆ เท่านี้เอง
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:49
เลือกนาฬิกาตามสไตล์ของคุณหนุ่มๆ



เรียบง่ายแบบหนุ่มนักธุรกิจ

สำหรับหนุ่ม ๆ ในแวดวงธุรกิจ ภาพลักษณ์ที่ดูดีน่าเชื่อถือพร้อมกับบุคลิกที่มาดมั่น ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะพวกเขาต้องแบกรับเอาหน้าตาของบริษัทที่ทำ งานอยู่ไปพบพูดคุยเรื่องงานต่อรองธุรกิจพันแปดร้อยล้านกับบุคคลภายนอกมากมายทำให้การแต่งกายก็จะถูกจำกัดลงที่เสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็กส์ รองเท้าหนัง ทับตามด้วยสูท ไม่อำนวยให้ใส่เครื่องประดับอะไรมากนัก
นาฬิกาที่เหมาะกับกลุ่มคนเหล่านี้มากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นนาฬิกาที่มีตัวเรือนโลหะ เพราะนอกจากจะดูเรีบง่ายและเข้าได้ง่ายกับสีของเสื้อเชิ้ตทุก ๆ สีแล้ว นาฬิกาสาย โลหะเหล่านี้ยังบ่งบอกถึงบุคลิกของการเป็นผู้นำ นักบริหารหัวสมัยใหม่ ที่รักความก้าวหน้าอีกด้วย ส่วนตัวเรือนนั้นไม่ว่าจะเป็นกลมเหลี่ยม หรือถังเบียร์ก็เข้าท่าทั้งนั้น ขึ้นอยู่ กับลักษณะข้อมือของแต่ละคน ส่วนสีของหน้าปัดก็ควรจะเน้นสีโทนเข้ม ดำ หรือน้ำเงิน เพราะจะทำให้นาฬิกาที่เป็นเหมือนเครื่องประดับชิ้นเดียวของคุณดูโดดเด่นมากขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมนาฬิกาที่สามารถใช้ตั้งเตือนเวลาการประชุมของคุณด้วย





สดใสแบบหนุ่มนักกีฬา

สำหรับหนุ่มที่รักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจการแต่งกายของหนุ่ม ๆ กลุ่มนี้ก็จะเป็นเสื้อผ้าในแนวลำลองเสียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดคอกลมหรือคอโปโล ขนาดพอตัวที่เน้นการระบายความร้อนเป็นหลักก็คงเป็นเหมือนเครื่องแบบประจำของพวกเขา พร้อมกับกางเกงขาสั้นและรองเท้าผ้าใบหลากสไตล์
นาฬิกาสายยางหน้าปัดดิจิตอลสีสันสดใสดูเหมาะสมลงตัวกับหนุ่มสปอร็ตตี้มากที่สุด เพราะเหงื่อเค็มปี๋ของคุณไม่สามารถที่จะทำอันตรายสายยางได้ แถมที่ให้เลือกเป็น แบบดิจิตอลก็เพราะว่าสะดวกในเวลาที่คุณต้องการดูเวลาขณะออกกำลังกาย ถ้าเลือกรุ่นที่สามารถจับเวลาได้ก็ยิ่งดีเข้าไปอีก แต่อย่ากลัวที่จะถูกใครขบกัดถ้าหากคุณเลือกใส่ นาฬิกาสีสันสดใส ไม่ว่าจะเป็น แดง เขียว ฟ้า ขาว เพราะสีสันเหล่านี้มันทำให้คุณดูสดใสมากขึ้นแม้ว่าจะผ่านการออกกำลังกายที่หนักหน่วงมาแล้วก็ตาม



หรูหรามีสไตล์แบบหนุ่มสังคม

สำหรับหนุ่มหล่อที่นิยมออกงานสังคมยามดึกแล้วการแต่งกายที่ดูโก้หรูหรามีสไตล์เป็นของตัวเอง บวกเข้ากับไอเดียสร้างสรรค์ในการมิกซ์แอนด์แมตช์ด้วยแล้ว การที่คุณจะดูโดดเด่นในงานในค่ำคืนนั้นก็ไม่ยากอะไรเลย แถมยังเป็นหน้าต่างบานแรกที่ทำให้สาว ๆ ในงานเหลียวมองดูคุณแทบไม่ทันเลยทีเดียว
นาฬิกาที่สามารถตอบรับความหรูหรามีสไตล์ของหนุ่ม ๆ กลุ่มนี้ที่ต้องคอยถือแก้วแชมเปญ หรือไวน์ พร้อมกับควงโอบสาวสวยในงาน ก็น่าจะเป็นนาฬิกาสายหนังประเภท ต่าง ๆ ยิ่งถ้าเป็นสายหนังประเภทต่าง ๆ ยิ่งถ้าเป็นสายหนังสีดำกรอบสีทองตัวเรือนทรงถังเบียร์ด้วยแล้วละก็ จะทำให้คุณดูเป็นหนุ่มโก้มีสไตล์ที่น่าค้นหามากขึ้น แต่ถ้าหากคุณ เบื่อสายนาฬิกาสีดำ ลองเลือกสีน้ำเงิน หรือสีน้ำตาลเข้าก็ดูดีไปอีกแบบ หรือแบบที่มีลวดลายประมาณสายหนังจระเข้าที่กำลังฮิตติดลมบนอยู่ในตอนนี้







credit www.pop.co.th
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:49
เรโทรทางเลือกใหม่สำหรับหนุ่มอินเทรนด์

สำหรับหนุ่ม ๆ ที่ไม่นิยมความซ้ำซากจำเจ คอยแวะเวียนไปนั่งอยู่แถวหน้าตามขอบเวทีงานแสดงแฟชั่นโชว์ต่าง ๆ รักที่จะเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวไปเรื่อย ๆ ตาม สมัยนิยมนั้น เกลียดความเอาต์และเดินตามหลังผู้อื่นเป็นที่สุด
นาฬิกาที่เหมาะสมคงจะเป็นอะไรไปเสียไม่ได้นอกจากนาฬิกาสไตล์ย้อยยุคหรือเรโทร ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในวงการแฟชั่นปัจจุบันโดยคุณอาจจะเลือกนา ฬิกาที่มีดีไซน์ที่แปลกแตกต่างไปจากนาฬิกาทั่ว ๆ ไปที่มักจะมีตัวเรือนทรงกลมว่าจะเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส สี่เหลี่ยมผืนผ้า สายเหลี่ยม หรือวงรี ขึ้นอยู่กับข้อแขนของแต่ละคน ตลอดจนสีสันและลวดลายบนหน้าปัดที่มีความหลากหลายแต่จะให้ดีก็เลือกตัวเลขในแบบโรมันก็รับรองความอิน



เพื่อนร่วมทางของหนุ่มนักเดินทาง

สำหรับหนุ่มที่รักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจประมาณว่าชีพจรลงเท้า บินไปที่นู้นบินไปที่นั้นอยู่ตลอดเวลา การแต่งกายในแบบลำลองแต่ดูมีสไตล์พร้อมกับเป้ใบโปรด ที่เต็มไปด้วยสัมภาระมากมายคงเป็นภาพลักษณ์ที่ถูกพบเห็นบ่อยสุด
นาฬิกาที่เหมาะจะเป็นผู้ร่วมเดินทางของหนุ่มประเภทนี้ก็สมควรที่จะเป็นนาฬิกาสายหนังแบบเรียบ ๆ ในโทนสีเข้มอย่างสีน้ำตาลหรือน้ำตาลแดงเพราะสายหนังจะมี ความทนทานไม่ฉีกขาดง่ายเหมาะกับงานเดินทางที่ค่อนข้างสมบุกสมบัน ซึ่งการดูแลรักษาสายหนังก็ไม่ยุ่งยากมากนัก ควรเลือกตัวเรือนที่มีความเข็งแรงทนทานต่อการขีด ข่วนและเลือกนาฬิกาที่เป็นระบบออโต้เพื่อกันปัญหาแบตเตอรี่หมด สำคัญสุดนาฬิกาของหนุ่มขาจรต้องสามารถบอกเวลาได้หลายประเทศ


เคล็ดไม่ลับการซื้อนาฬิกาสำหรับหญิงสาวเพื่อแฟนหนุ่ม

1. อย่างแรกสุดคุณผู้หญิงควรพิจารณาพินิจพิเคราะห์ว่าแฟนหนุ่มของคุณเป็นคนที่มีบุคลิกอย่างไร เพราะนาฬิกาแต่ละทรงแต่ละแบบก็จะมีอารมณ์ที่ต่างกันออกไป ควรจะคิดให้รอบคอบก่อนจะซื้อ
2. ตั้งงบประมาณวงเงินในการลงทุนของคุณไว้ให้แน่นอน เพราะนาฬิกาสำหรับสุภาพบุรุษนั้นก็หลายตังค์อยู่ หากคุณมีงบค่อนข้างมากก็ตรงดิ่งเข้าร้านแบรนด์เนมหรู ๆ ได้เลย
3. บอกลานาฬิกาที่เป็นเพียงเครื่องมือบอกเวลาเพียงอย่างเดียวได้เลย เพราะหนุ่ม ๆ สมัยนี้ต้องการนาฬิกาที่มีลูกเล่นมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการจับเวลา การตั้งเวลาปลุก หรือมีปฏิทินบอกวันที่
4.หากคุณจนแต้ม ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อนาฬิกาแบบไหน ทางออกที่ดีที่สุดก็คือเลือกแบบที่เรียบ ๆ ไว้ก่อน เพราะอย่างน้อยแฟนของคุณจะได้เลือกแมตช์กับชุดต่าง ๆ ของเขาได้ง่าย
5. สุดท้ายหากรักที่จะซื้อนาฬิกาให้เป็นของขวัญผูกมัดแฟนหนุ่มแล้ว บอกลานาฬิกาที่วางขายตามท้องตลาดได้เลย เพราะคุณไม่มีวันแน่ใจได้เลยว่าคุณได้ของแท้หรือเปล่าแฟนคุณมีค่าเพียงไหนคุณก็รู้อยู่แก่ใจนะครับ
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:52
เลือกนาฬิกาอย่างไรให้เหมาะรับข้อมือสาวๆ





ผู้หญิงอย่างนอกจากจะสวยด้วยการแต่งหน้าและดูแลผิวพรรณแล้ว เครื่องแต่งกายและ
เครื่องประดับก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้คุณสาว ๆ ทั้งหลายเปล่งประกาย ความสวยได้
อย่างใจปรารถนา แต่ก็ต้องเลือกแต่งให้เหมาะเข้ากับบุคลิกและรูปร่างของเราด้วย
ฉะนั้นเมื่อพูดถึงเครื่องประดับ ผู้หญิงหลายคนชอบที่จะใส่ตุ้มหู สร้อยคอ แหวน ประดับบน
ร่างกายเพื่อเพิ่มสีสันให้กับเสื้อผ้าที่สวมใส่ รวมถึงเครื่องประดับอย่างหนึ่งที่มักจะขาดไม่ได้
นั่นคือ นาฬิกา ซึ่งนาฬิกาสมัยนี้ ไม่ว่าจะมีราคาถูกหรือแพงก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีดีไซน์เก๋ ๆ
ดูหรูและมีค่า การซื้อนาฬิกาข้อมือสักเรือนหนึ่ง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ
การเลือกซื้อ นาฬิกาข้อมืออย่างไรให้แลดูเหมาะและรับกับข้อมือของคุณมากที่สุด


ผู้หญิงข้อมือเล็ก
นาฬิกาที่ไม่เหมาะ และไม่ควรจะเลือก คือนาฬิกาที่เป็นสายเหล็กหรือสายหนัง เพราะทำให้คุณ
ต้องตัดสายนาฬิกาหลังจากซื้อแล้ว ถ้าลองใส่แล้วหลวมขนาดต้องตัดสายจนหมดระยะบังคับแล้ว
ก็ยังหลวมอยู่มาก ทำให้คุณต้องตัดสายเกินกว่าที่กำหนด สายจะบิดไปด้านใดด้านหนึ่งและไม่
อยู่กึ่งกลางของข้อมือ ดังนั้นเวลาใส่จะทำให้เคลื่อนไหวข้อมือไม่ถนัด และที่สำคัญคือทำให้
นาฬิกาแลดูไม่สวย ดังนั้นนาฬิกาที่เหมาะสมสำหรับคนข้อมือเล็กมากที่สุดก็คือ นาฬิกาแบบ
กำไล โดยปกติแล้วนาฬิกาแบบกำไล ที่ได้มาตรฐานจะมีแบบให้เลือก 3 ขนาดคือ เล็ก
กลาง ใหญ่ คุณควรเลือกแบบที่พอดี คือไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไป เมื่อใส่แล้วควรเลื่อนขึ้น
เลื่อนลงได้สะดวก สำหรับตัวเรือนนั้น สาว ๆ ที่มีข้อมือเล็กควรเลือกนาฬิกาที่มีหน้าปัดแบบ
สี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือแบบวงรีเล็ก เพราะเวลาใส่จะทำให้มีที่เหลือบนข้อมือ ทำให้ข้อมือไม่ดูเล็ก
เกินไป และที่สำคัญไม่ควรเลือกหน้าปัด แบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า เพราะขนาดตัวเรือนที่ทั้งยาวและ
ใหญ่จะบังพื้นที่บนข้อมือหมด และทำให้ข้อมือดูเล็กกว่าปกติ
ส่วนสีของหน้าปัดนั้นควรเลือกโทนสีขาวหรือสีครีม เพราะ จะช่วยให้ข้อมือดูสว่างขึ้น


ผู้หญิงข้อมือใหญ่
การเลือกนาฬิกาสามารถเลือกได้ทุกแบบ ถือเป็นข้อดีของสาวข้อมือใหญ่ทีเดียวค่ะ โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งหน้าปัดสี่เหลี่ยมผืนผ้า จะทำให้ข้อมือใหญ่ ๆ ของคุณดูสวยเรียวงามเป็นธรรมชาติ
แต่ถ้าสาวคนไหนเป็นสปอร์ตเกิร์ลละก็ ขอแนะนำให้เลือกใส่ขนาดเดียวกับของหนุ่ม ๆ
ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 40 มม.
เพียงแต่ต้องเลือกแบบให้เหมาะสมกับบุคลิกและการแต่งตัวด้วยเท่านั้น


เคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลรักษานาฬิกาของคุณ
หากคุณต้องการให้นาฬิกาเรือนโปรดของคุณ สามารถใส่ไปได้นานๆ โดยไม่ต้องซ่อมหรือ
ซื้อใหม่บ่อยๆ คุณควรหมั่นเช็คนาฬิกาเรือนโปรดว่าเข็มหรือตัวเลขบอกเวลายังเดินเป็นปกติ
หรือเปล่า ซึ่งถ้านาฬิกาหยุดเดินหรือเดินช้าไป อาจสันนิษฐานได้ว่าถ่านอาจจะหมด
ควรเปลี่ยนถ่านนาฬิกาล่วงหน้าก่อนที่มันจะหมดลานนะคะ เพราะการทิ้งถ่านเก่าไว้นาน ๆ
สารจากถ่านจะรั่วและกัดกร่อน ทำให้เฟืองนาฬิกาเสียได้

บางครั้งปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากสาเหตุอื่น เช่น ฝุ่นละอองและน้ำ โดยเฉพาะน้ำ
ถึงแม้ว่าจะเป็นนาฬิกากันน้ำก็เถอะ คุณไม่ควรใส่นาฬิกาเวลาอาบน้ำ ว่ายน้ำหรือดำน้ำ
เพราะการโดนน้ำบ่อยๆ ทำให้ความชื้นค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปเกาะอยู่ในตัวเรือนนาฬิกาได้
ทำให้เกิดคราบออกไซด์ เมื่อสะสมนาน ๆ อาจทำให้นาฬิกาคุณเสียไปเลยก็ได้

ขณะใส่นาฬิกาอยู่ ควรระมัดระวังเรื่องกระแทกหรือทำให้นาฬิกาเรือนโปรด เกิดรอยร้าวโดยที่
เราไม่รู้ตัว เพราะจะทำให้ฝุ่นหรือความชื้นเล็ดลอดเข้าไปตามรอยร้าวเล็ก ๆ พวกนั้นได้
และที่สำคัญไม่ว่านาฬิกาของคุณจะเสียด้วยเหตุอะไรก็ตาม อย่าซ่อมเองเด็ดขาด
ควรนำไปให้ช่างที่ชำนาญซ่อมดีกว่า

ที่มา ขวัญเรือน
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:56
ความรู้เกี่ยวกับการเลือกชุดชั้นในให้เหมาะกับสรีระและชุดที่สวมใส่ของสาวๆ



โดยผู้เชี่ยวชาญจากซาบีน่าได้ให้หลักในการเลือกชุดชั้นในว่า ต้องคำนึงถึง "ขนาด หรือ คัพ ไซซ์" ของตัวเองเป็นอย่างแรก รวมถึง "รูปทรงของทรวงอก" ก็สำคัญ ต้องพิจารณาว่าทรวงอกของเราเป็นแบบใด

เช่น รูปทรง ลูกเกด เชอรี่ เป็นรูปทรงของเด็กที่เริ่มมีทรงเป็นส่วนใหญ่ ต้องเลือกบราที่ช่วยประคองทรง เช่นเสื้อใน First bra

รูปทรงเลมอน ส่วนใหญ่เป็นรูปทรงของวัยรุ่น จะมีเนื้อเนินอกน้อย ฐานทรงไม่กว้าง ควรเลือกใส่บราที่ช่วยเสริมทรง เพื่อให้ทรงอกดูอวบอิ่ม

รูปทรงแอปเปิ้ล จะเป็นทรงที่สวยได้รูปอยู่แล้ว เพราะมีเนื้อเนินอก และเต้าทรงกลมได้รูป จะใส่เสื้อในใดๆ ก็ดูสวย เพียงแต่เลือกให้ตรงขนาด



รูปทรงสตรอเบอร์รี่ เต้าทรงเริ่มคล้อย ฐานทรงกว้างกว่าแบบเลมอน ส่วนใหญ่เป็นรูปทรงของวัยสาว ต้องเลือกบราแบบมีโครงช่วยประคองทรง และโครงต้องมีฐานทรงกว้างขึ้นเพื่อเก็บเนื้อเต้าทรงได้หมด รูปทรงลูกแพร์ เต้าทรงเริ่มคล้อยมาก ฐานทรงกว้าง ต้องเลือกบราแบบมีโครงช่วยประคองทรง และเลือกแบบที่มีองค์ประกอบช่วยเก็บเนื้อทรงด้านข้าง

รูปทรงสับปะรด เนื้อเต้าทรงมีมาก ทรงพุ่งชันมาก เลือกเสื้อในแบบ soft bra ไม่มีฟอง และมีโครงเพื่อช่วยประคองทรง

ผู้เชี่ยวชาญแนะว่า สาวอกไข่ดาว หรือ สาวที่มีเนื้อหน้าอกน้อย และไม่ค่อยมีความพุ่งชันของเนื้อหน้าอก ควรเลือกใส่เสื้อในที่เสริมทรง โดยเสริมทั้งโครง เพื่อดันเนื้อใต้อกขึ้น และเสริมทั้งฟองน้ำ เพื่อเพิ่มความพุ่งชันของทรวงอก ตรงข้ามกับสาวอกใหญ่ หรือ สาวที่มีเนื้อหน้าอกมาก และมีความพุ่งชันของหน้าอกมาก ซึ่งมักจะมีปัญหาตาม ก็คือความหย่อนคล้อยของหน้าอก เนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก ดังนั้นควรเลือกบราที่มีโครงช่วยประคองทรงไม่ให้หย่อนคล้อย โครงต้องกว้างเพื่อรับกับฐานทรง และเก็บเนื้อด้านข้างได้หมด และเลือกเสื้อในที่มีความลึกของทรงพอสมควรเพื่อให้เวลาใส่แล้วเสื้อในไม่กดทรง อาจทำให้ทรงเสียรูปได้ อีกหนึ่งรูปทรงที่คนมีหน้าอกนิยมใส่ คือ เสื้อในแบบ Soft Bra คือไม่เสริมฟอง หรือแบบซีทรู ทำให้ทรงดูไม่ใหญ่ขึ้นและไม่ดูเทอะทะและไม่อึดอัด



ส่วนเนื้อผ้าก็เป็นสิ่งสำคัญไม่น้อยเช่นกัน ปัจจุบันชุดชั้นในมีผลิตจากเนื้อผ้ามากมาย ทั้งแบบเนื้อผ้าจากธรรมชาติ เช่น ผ้าคอตตอนใส่สบาย และระบายเหงื่อได้ดี ผ้าไนลอน สแปนเด็กซ์ มีความยืดหยุ่นสูง และทำความสะอาดง่าย นอกจากนี้ ต้องพิจารณาส่วนประกอบอื่นๆ เช่นสายแขน คนที่มีไซซ์ใหญ่ควรเลือกสายแขนขนาดใหญ่ตามเพื่อช่วย รับน้ำหนัก และประคองทรง เป็นต้น

สำหรับการเลือกชุดชั้นในให้เข้ากับชุดชั้นนอกที่สวมใส่นั้น ถ้าใส่เสื้อผ้ารัดรูป ควรเลือกบราแบบ Seamless ไร้ตะเข็บที่เต้าทรง และเนื้อผ้าเนียนเรียบ ควรหลีกเลี่ยงลูกไม้ เพื่อที่เวลาใส่เสื้อผ้าภายนอกจะได้ดูเนียนเรียบ หรือ ถ้าใส่กางเกงหรือกระโปรงรัดรูป ควรเลือกกางเกงชั้นในแบบรูปทรง Boy leg หรือรูปทรงจีสตริง เพื่อหลีกเลี่ยงรอยตะเข็บของชั้นในโผล่ออกมาภายนอก

ส่วนกรณีที่วันนั้นต้องใส่เสื้อผ้าสีขาว หรือเสื้อผ้าเนื้อบาง ควรเลือกชั้นในโทนสีเนื้อ เพราะจะดูกลืนไปกับสีผิว และสีของชั้นในไม่ดูโดดออกมายังเสื้อตัวนอก ซึ่งอาจทำให้สีของเสื้อตัวนอกเพี้ยน และหมดความสวยได้ และถ้าต้องใส่ชุดราตรีเพื่อไปงานหรู ควรเลือกเสื้อในที่เป็นแบบตัวยาว หรือ All in one เลือกแบบเสริมทรงสำหรับคนอกเล็ก และแบบเก็บทรงสำหรับคนอกใหญ่, ถอดสายได้ เนื้อผ้าที่ลำตัวเสื้อต้องกระชับเป็นพิเศษเพื่อช่วยกระชับเนื้อส่วนเกิน และเน้นให้มีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจนขึ้น

ปิดท้ายด้วยเทรนด์ของชุดชั้นในช่วงท้ายปีนี้ ลายที่กำลังมาแรงได้แก่ลายประเภทรูปลายสัตว์ทั้งหลาย เช่น ลายเสือดาว เสือโคร่ง ม้าลาย รวมถึงลายดอกไม้เล็กๆ สีหวานๆ ในโทนชมพู ส้ม และม่วง

แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 00:58
เลือกกางเกงในอย่างไรให้เหมาะกับผู้ชาย





    แฟชั่นในตลาดชั้นในชายในประเทศไทย ไม่ค่อยคึกคักสักเท่าไหร่ เนื่องจากชายไทยส่วนใหญ่เป็นพวกขี้อาย ทำให้การเลือกกางเกงในสักตัวนั้น เป็นปัญหาใหญ่ สำหรับคุณสามี จึงต้องหันไปซื้อกางเกงในที่เป็นแพ็ค แต่หากคุณลองมองรอบตัวของคุณในแผนกชั้นในชายจะเห็นได้ว่า กางเกงในชายนั้น มีให้เลือกหลายรูปแบบ ดีไซน์มากมายหลายประเภท ทั้งนี้และทั้งนั้นผู้ชายแบบคุณสามีของคุณๆ แทบจะไม่รู้วิธีการเลือก ประเภทของกางเกงใน ครั้งนี้จะมาแนะนำกันว่ากางเกงในประเภทไหนเหมาะสำหรับการใส่แบบใดเอาล่ะ ไปดูกัน....

กางเกงในแบบขาสั้น หรือที่เราคุ้นกันว่า Boxer เป็นกางเกงในไม่กระชับ ใส่สบาย แต่ไม่สามารถใส่เคลื่อนไหวมากนัก เช่น การออกกำลังกาย เป็นต้น ที่เป็นที่นิยมคนไทยอย่างเราๆได้รับอิทธิพลมาจากชาวตะวันตก ส่วนมากจะมีความยาวครึ่งต้นขา





   กางเกงในขาสั้นรัดรูป ที่ต่างจากแบบแรกตรงที่ว่ากางเกงในแบบนี้เพิ่มความกระชับให้สะดวกต่อการเคลื่อนไหวมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้โอบอุ้มน้องชายของคุณผู้ชายมากนัก






   Pouch boxer คือกางเกงในขาสั้นแบบกระชับอีกชนิดหนึ่ง ที่โอบอุ้มน้องชายของคุณผู้ชายได้เป็นอย่างดี






   กางเกงในยอดฮิต (๑) กางเกงในแบบนี้เราคงเห็นมากันตั้งแต่จำความได้ เพราะกางเกงในประเภทนี้ในเมืองไทยมีหลายยี่ห้อหลายรูปแบบ แต่ปัจจัยที่จำเป็นต่อการเลือกนั้น คือ คุณภาพของเนื้อผ้า การระคายเคือง และที่สำคัญอย่าเลือกที่กระชับมากจนเกินไปนักเพราะอาจจะทำให้น้องชายของเจ้าของกางเกงเจ็บปวดได้ ทั้งนี้กางเกงในแบบนี้มีจุดเด่นอยู่ตรงที่ ความสบายตรงที่เปิดต้นขาสูง เอวต่ำ เพิ่มเสน่ห์ต่อสาวๆ ได้มากทีเดียว


   กางเกงในยอดฮิต (๒) รูปแบบนี้ อาจจะมีปัญหากับผู้สวมใส่บางท่าน เพราะขอบยางที่มีเฉพาะกางเกงในแบบนี้ทำให้ผู้สวมใส่บางท่าน เกิดการระคายเคืองเนื่องจากการเสียดสีระหว่างขอบกางเกงกับเนื้อของเราเมื่อเคลื่อนไหว ดังนั้นกางเกงในแบบนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยมั่นใจในรูปร่างของตัวเองเท่าใดนัก




    ลองเลือกดูว่าคุณผู้ชายที่บ้านคุณเป็นคนแบบไหน(ชอบแบบไหนและมีรูปร่างอย่างไร)ลองแนะนำกางเกงในที่เหมาะสมให้เขาใส่จะได้แฮปปี้กันทั้งเขาและคุณ
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 01:04
10 แหล่งช็อปปิ้ง กรุงเทพฯ




สถานที่ช็อปปิ้ง 10แห่ง ของเมืองกรุงเทพฯ โดยมีช่วงเวลาอันเหมาะสมของการช็อปได้ต่อเนื่องกันทั้งวัน



เริ่มจากที่แรกเลย ศูนย์การค้าตะวันนา

ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับบรรดานักช็อปตัวยง มีผู้มาจับจ่ายใช้สอยหนาแน่นมาก เปิดทุกวัน เริ่มเปิดทยอยตั้งแต่เวลา บ่าย 2 โมง จนถึงประมาณ 3 – 4 ทุ่ม ก็เริ่มทยอยเก็บ บางวันอาจเลยไปถึงเที่ยงคืน การตั้งแผงขายสินค้าต่างๆ อยู่ระหว่างห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์บางกะปิ และแม็คโคร สินค้าที่นี่จะหมุนเวียน ผลัดเปลี่ยนกันไป มีทั้งสินค้าใหม่ และ เก่ามาให้เลือกหา ทั้งเสื้อผ้าแฟชั่นสมัยนิยม , กระโปรง, กางเกงยีนส์ , รองเท้า , เครื่องประดับ , เครื่องแต่งกาย, น้ำหอม เครื่องใช้ไฟฟ้า, VDO VCD และ อื่นๆ อีกมากมาย จนกลายเป็นศูนย์รวมในการจับจ่ายใช้สอยขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังมีการให้บริการจากฝีมือเฉพาะตัว อย่างเช่น การตัดผม, การเพ้นท์ เฮนน่า หรือ ศิลปินข้างถนน โชว์ฝีมือกับการวาดรูปเหมือนในราคาย่อมเยาว์



ตลาดวังหลัง





ตั้งอยู่ที่ตรงข้ามโรงพยาบาลศิริราช ฝั่งท่าเรือท่าพระจันทร์
วังหลังเป็นแหล่งช็อปของมือสอง เหล่าบรรดาขาช็อปทั้งหลายคงจะรู้จักแหล่งช็อปแห่งนี้เป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือแม้แต่วันธรรมดา แหล่งช็อปแห่งนี้ก็ดูเหมือนจะคึกคักอยู่เสมอ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะของมือสองสภาพดีแบบสวยๆ ทั้งหลายจะทยอยเปลี่ยนแบบใหม่ๆ ทุกอาทิตย์ บางร้านลงของวันจันทร์บ้าง วันพุธบ้าง และวันที่ของมาลงใหม่ๆ แบบก็จะมีให้เลือกกันอย่างละลานตา มากมายที่คุณๆ ต้องการ กันอย่างจุใจ แถมมีแบบสวยๆ พร้อมราคาสมน้ำสมเนื้อไม่แพงจนกระเป๋าฉีก ใครชอบแบบไหนก็เลือกกันตามสะดวก มีหรือที่ขาช็อปทั้งหลายจะพลาด




ตลาดซอยละลายทรัพย์






ขึ้นชื่อมากในเรื่องแหล่งช็อปของสาวออฟฟิศ เรียกได้ว่าช็อปแต่ล่ะที ทรัพย์ละลายเลยทีเดียว ด้วยข้าวของที่มากมายหลากหลาย ล้วนดึงดูดให้ขาช็อปทั้งหลายมาที่นี่ จนทำให้ลูกค้าที่มาไม่ใช่มีแต่สาวออฟฟิศอย่างเดียว แม้แต่นักศึกษาหรือแม่บ้านก็เดินจับจ่ายซื้อของกันขวักไขว่ สินค้าที่นี่มีหลายระดับ ราคาก็มีตั้งแต่ถูกจนถึงราคาแพง ตั้งแต่ของธรรมดาจนถึงของแบรนด์เนมที่สั่งมาจากนอก จนบอกไม่ถูกว่าสินค้าไหนขึ้นชื่อมากกว่ากัน เอาเป็นว่าใครชอบแบบไหนก็เลือกซื้อกันได้ รับรองว่ามีสินค้ามากมายให้คุณเลือกอย่างจุใจเลยทีเดียว

ที่นี่จะเปิดทุกวันจันทร์-วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บนถนนสีลม หลังธนาคารกรุงเทพ





สยามสแควร์





เป็นแหล่งช็อปปิ้งทันสมัยที่รู้จักกันดีของบรรดาวัยรุ่นทั้งหลาย เมื่อคุณไปถึงจะพบว่า มีร้านค้าที่เรียงรายอยู่สองฟากฝั่ง มีร้านขายสินค้าเบรนด์เนม นานาชนิด กระเป๋า ของใช้กระจุกกระจิกของผู้หญิง ร้านหนังสือ ร้านวีดีโอ ร้านขายเทป ซีดี ดีวีดี และยังแถมต่อด้วย แผงลอยขาย เสื้อผ้า รองเท้า และของใช้จิปาถะไปตลอดทาง
ที่นี่ยังมีร้านอาหารหลากหลายสัญชาติ ให้คุณเลือกมากมายตั้งแต่ แผงลอยข้างทางหรือร้านฟาสฟูตส์ หลากหลายยี่ห้อหรือถ้าคุณ ขี้เกียจนั่งตามร้าน จะซื้อขนมนมเนยที่วางขายตาม ข้างทางแล้ว เดินไปกินไปด้วยก็ได้

บริเวณ Center Point จุดนี้มีร้านกาแฟ ร้านเบเกอรี่ให้บริการ อยู่หลายร้าน ลองไปนั่งเล่นกันดูรับรองว่าคุณเองต้องตื่นตะลึง กับแฟชั่น ของวัยรุ่นสมัยนี้จริง
และยังมี อินดี้อินทาวน์ พื้นที่นี้มีไว้ให้คนไอเดียบรรเจิด เก๋ๆ กู๊ดๆ ใช้ฝีมือวัดกัน ด้วยการให้นักเรียนนักศึกษาทำของมาขายกันทุกวันศุกร์ ที่ลานเซ็นเตอร์ สยามสแควร์ นอกจากนี้ยังมีวงดนตรี Indy มาเล่นเพลงเพราะๆให้ฟังกันระหว่างเดินช็อปกันอีกด้วย ใครที่มีไอเดียเก๋ๆ แล้วยังไม่มีที่โชว์ลองไปที่นี่ หรือใครอยากได้ของ handmadeไอเดียเดิ้นๆ ก็แวะเวียนไปซื้อหากันได้
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 01:06


ตลาดนัดสวนจตุจักร





"ตลาดนัดสวนจตุจักร" หรือจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ตลาดนัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งเมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นชาวไทย หรือ ชาวต่างชาติ มีน้อยคนนัก ที่จะไม่รู้จักตลาดนัดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุด อย่างสวนจตุจักร และจะเปิดเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น โดยจะเปิดตั้งแต่เวลา 10.00- 18.00 น.แต่ทว่าการเราจะเดินท่องเที่ยว ให้ทั่วตลาดนัดแห่งนี้ ภายในช่วง เวลาสั้นๆ นั้นกับไม่ใช่ของง่ายดายเลย เพราะตลาดนัดสวนจตุจักรแห่งนี้ มีแผงจำหน่ายสินค้าจำนวนมากกว่า 8000 แผง ที่เต็มไปด้วยสินค้าทั้งแปลก ทั้งน่าสนใจและยังมีสินค้าจากทั่วภูมิภาคมากมายหลากหลายประเภทจำหน่าย เช่น สินค้าพื้นเมือง เครื่องจักสาน เครื่องประดับ เสื้อผ้า ไปจนถึงสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ในวันพุธและศุกร์ของสัปดาห์จะมีการจัดบริเวณเฉพาะสำหรับร้านค้าพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง จังหวัดทั่วประเทศไทย เมื่อคุณหลงเข้าไปในตลาดนัดแห่งนี้ คุณจะพบกับผู้คนจำนวนมาก แผงสินค้ายาวสุดลูกหูลูกตา อากาศที่ร้อนอบอ้าว ซอกซอยจำนวนมากที่ชวนให้หลงทิศหลงทาง กันได้ง่าย
วันหยุดเสาร์อาทิตย์ของใครหลายคนอาจหมดไปกับกิจกรรมมากมายแตกต่างกัน บ้างก็ออกไปเที่ยวต่างจังหวัด บ้างก็นอนอยู่บ้าน ดูทีวี เล่นเกมส์ เล่นกับหมา แต่เราเชื่อว่าสาวๆ หลายคนเลือกที่จะไป “ช้อปปิ้ง” ที่ตลาดนัดสวนจตุจักร แม้ว่าจะร้อนแหลก เหงื่อแตกทะลักตามที่ทุกคนกล่าวขาน แต่สินค้ามากมายจากทั่วสารทิศก็เป็นตัวดึงดูดให้ทุกคนมาเดินที่นี่อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง



สวนลุมไนท์บาซาร์





ชีวิตคนทำงานในเมืองกรุง ช่วงกลางวันไม่มีเวลาว่างไปเที่ยวหรือชอปปิ้งมากนัก หรือถ้ามีเวลาแต่ไม่ชอบแดดร้อนๆ ตลาดนัดกลางคืนอย่าง “สวนลุมไนท์บาซาร์” เป็นอีกคำตอบให้ได้เดินเที่ยวและเลือกช็อปได้เหมือนกัน
มีพื้นที่ทั้งหมด 120 ไร่ มีศูนย์รวมร้านค้ากว่า 3,700 ร้าน ลานกิจกรรม ร้านอาหาร รวมถึงนาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก หรือโจหลุยส์ เธียเตอร์เดิม ที่เปิดการแสดงการเชิดหุ่นละครเล็ก ซึ่งเหลืออยู่เพียงคณะเดียวในประเทศไทย
นอกจากนี้ ก็ยังมี BEC Tero Hall เป็นสถานที่จัดการแสดง รองรับคอนเสิร์ตและการแสดงต่างๆ ทั้งจากต่างประเทศและไทย มาแล้วมากมาย นี่เองที่ดึงดูดเหล่าวัยรุ่นให้เข้ามาในโครงการมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนหรือหลังดูคอนเสิร์ตก็สามารถเดินเล่น ชอปปิ้ง หรือหาของกินได้ไม่ยาก

"สวนลุมไนท์บาซาร์" ตลาดนัดกลางคืนย่านพระราม 4 ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับสวนลุมพินี เปิดตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน แต่ร้านค้าส่วนมากจะเริ่มเปิดออกร้านประมาณบ่าย 3 โมงเป็นต้นไป และจะเปิดทุกร้านจริงๆ ประมาณ 6 โมงเย็นเป็นต้นไป เพราะนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและเทศ จะเริ่มเข้ามากันมาก สำหรับสินค้าในร้านต่างๆ มีหลากหลาย จะว่าไป คล้ายๆ สวนจตุจักรอยู่มาก หลายร้านเปิดทั้งที่สวนลุมไนท์ฯ และที่สวนจตุจักร แต่จำนวนร้านไม่น้อย เปิดที่นี่แห่งเดียว
จุดเด่นประการหนึ่ง ซึ่งเป็นเสน่ห์ของร้านค้าในสวนลุมไนท์ฯ คือ เป็นสินค้าที่มากด้วยไอเดีย จากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ พบเห็นหรือหาซื้อได้ยากตามท้องตลาดทั่วไป ให้เลือกกันทั้งคืน
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 01:08


ตลาดรัชดาไนท์






เชื่อว่าคุณคงเคยได้ยินถึงแหล่งหาซื้ออะไหล่เก่าของรถคลาสสิคอย่างเช่น โฟล์คเต่า ออสตินมินิ มอเตอร์ไซค์ เวสป้า ฯลฯ เป็นบริเวณพื้นที่ว่างแถวแยกรัชดา-ลาดพร้าว ช่วงตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินรัชดาภิเษก จนถึง สถานีลาดพร้าว ที่เมื่อก่อนเคยทำเป็นโครงการรัชดาไนท์บาซาร์ มีร้านขายของเป็นล็อคๆ มีลานเบียร์ มีเวทีเล่นดนตรีสด แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้รื้อถอนออกไปปล่อยเป็นพื้นที่ว่างเปล่าไว้ ซึ่งตอนกลางวันจะใช้เป็นสถานที่ของโรงเรียนสอนขับรถยนต์แห่งหนึ่ง
ทุกค่ำคืนของวันเสาร์ บริเวณพื้นที่ว่างตรงนี้ ปัจจุบันได้กลายมาเป็นแหล่งช้อปปิ้งอะไหล่รถเก่า มอเตอร์ไซค์เก่าคลาสสิค ที่ย้ายมารวมพลกันที่นี่ สีสันที่คุณจะได้พบของตลาดรัชดาไนท์ก็คือการมารวมตัวกันของเหล่าผู้ใช้ (หรือมีใจรัก) รถ / มอเตอร์ไซค์คลาสสิค ที่มาเดินดูของ พบปะพูดคุย หาซื้ออะไหล่ ซื้อของไปตกแต่งรถของตัวเอง บ้างก็เอารถมาจอดติดป้ายขาย สภาพเดิม ๆ ก็มี ตกแต่งแล้วสภาพสวยปิ๊งก็มี รถสวย ๆ ขับขึ้นมาจอดเท่ ๆ ก็ไม่มีใครว่า (คงเพราะเข้ากับบรรยากาศสถานที่)

จากร้านที่มาวางขายของกันไม่กี่ร้าน ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้น ผู้คนมาเดินกันคึกคักหนาตาขึ้น สินค้าก็เริ่มมีหลากหลายประเภทขึ้น ส่วนใหญ่จะเป็นของเก่าของมือสอง มีทั้งของเล่นเก่า ของเล่นสังกะสี ของสะสมโบราณ ขวดโหลหยอดเหรียญไขไข่ หนังสือเก่า เครื่องเล่นแผ่นเสียง แผ่นซีดี นาฬิกา เสื้อผ้า รองเท้ามือสอง เฟอร์นิเจอร์ ตู้โชว์ ป้ายไฟนีออนยี่ห้อเครื่องดื่มเหล้าเบียร์ของร้านที่เลิกกิจการแล้ว ฯลฯ และอีกส่วนก็เป็นของใหม่จำพวกสินค้ากิฟท์ช็อปแนวเอาใจสาว ๆ เช่น เครื่องประดับ ที่ห้อยโทรศัพท์มือถือ ของตกแต่งบ้าน จะว่าไปแล้วก็ดูคล้ายกับตลาดคลองถมที่ใครมีของเก่าของใช้แล้วอะไรก็เอามาวางขายได้หมด ต่างกันตรงที่ ที่นี่จะเน้นไปด้านอะไหล่รถเก่าเป็นหลัก และมีพวกรถมอเตอร์ไซค์แนวคลาสสิคที่เจ้าของเอามาจอดขาย เป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่อื่น


เวลาที่ขายจะเริ่มกันตั้งแต่ 18.30 น. ไปจนถึงราว ๆ 02.00 น. เฉพาะคืนวันเสาร์เท่านั้น เวลาที่เหมาะมาเดินดูของน่าจะเป็นช่วง 19.30 น. – 23.00 น. ทุก ๆ ร้านจะตั้งวางของกันครบ ๆ พร้อมขาย

หากค่ำคืนวันเสาร์ คุณยังไม่มีโปรแกรมไปไหน คงถูกใจนักช็อปไม่น้อยเลยเชียวล่ะ...



สะพานพุทธ






คุณอาจแปลกใจ หากในตอนกลางวัน สะพานพุทธ จะเป็นท่าเรือด่วนและเรือข้ามฟาก รับส่งผู้โดยสาร ไปตลาดพลู แต่เมื่อเวลา ย่างเข้า หกโมงเย็น สะพานพุทธ จะแปรสภาพ เป็นตลาดนัด ในทันที ตลาดนี้มีเวลาเปิดและปิด ตามสภาพ ลมฟ้าอากาศ หากวันไหน อากาศดี ตลาด จะเริ่มตั้งแต่ 17.30 เปิดเรื่อยไป จนเกือบเที่ยงคืน แต่หากวันไหนฟ้าฝนไม่เป็นใจ ตลาดอาจเปิดช้า กว่าเดิมเล็กน้อย แต่รับรองว่าเปิดแน่ ปิดแค่วันพุธ วันเดียว

ตลาดนัดสะพานพุทธ เป็นที่รู้กันดี ในหมู่นักช็อปของถูกว่า ที่นี้เปรียบเหมือน สยามน้อยๆ เพราะสินค้า โดยทั่วไปแล้ว จะเป็นเสื้อผ้า ซึ่งมีตั้งแต่ยี่ห้อดัง อย่าง โปโล, อามานี่ ฯลฯ ( แต่เป็นของก๊อปมานะ ) สนนราคา มาตรฐานตลาดนัด ทั่วไป แต่ยังสามารถต่อรอง นอกจากเสื้อผ้าปะยี่ห้อดังแล้ว กางเกงยีนส์ สะพานพุทธ ก็ขึ้นชื่อมากพอกับ จตุจักรเลยทีเดียว ผิดกันอย่างเดียวคือ เวลาที่คุณเลือก ต้องใช้สายตาดีๆ หน่อย เพราะแสงสว่างที่มีอยู่น้อยนิดอาจหลอกตา ทำไม่เห็นตำหนิของเสื้อผ้าได้



ถนนข้าวสาร






ตั้งแต่ปากถนน ที่ข้าวสารก็เหมือนกับย่านการค้าอื่นๆ

แผงลอยที่ตั้งให้เห็นเป็นระยะ เห็นจะไม่พ้นหัวหุ่นที่เขาตั้งเอาไว้เป็นแบบรับบริการถักผม ที่ข้าวสารนี่ อีกบริการที่แผงถักผมมักจะทำควบคู่กันไปก็คือ เฮนน่า ที่นักท่องเที่ยวนั่งรอคิวให้วาดเลยทีเดียว

หากลองแหงนหน้ามองสูงขึ้นไป ตาก็จะลายไปกับ ป้ายโรงแรม และ เกสต์เฮ้าส์ที่ตั้งเรียงรายอยู่ทั่วถนน ราคาก็มีหลายระดับตามสภาพและประเภทของห้อง และยังมีร้านอินเตอร์เนตราคาถูก 50 หรือแม้แต่บาร์เบียร์ โดยมีร้านเช่า-ขายหนังสือมือสอง ร้านเสื้อผ้า และร้านขายของพื้นเมือง ตั้งแซมไปเป็นระยะๆ
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 01:11
เบอร์โทรผับทั่วกรุงเทพ




เบอร์โทรผับทั่วกรุงเทพ (Pub Tel. No. In BKK)
Just for u !!! เบอร์ติดต่อผับ&ร้านเหล้าทั่วกทม. หามาให้แด่ทุกท่านที่ยังดื่มได้
*** คำเตือน *** : หามาให้เฉพาะเสือนักดื่มเท่านั้น
ควรดื่มไม่เกินวันละแก้วแต่เติมเหล้าโซดาได้เรื่อยๆ เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรสนใจ ^^"
ปล. เจ้าของกระทู้ไม่ได้เป็นขี้เมาผู้รวบรวมเบอร์มาแต่อย่างใด ไปเจอมาเลยเอามาฝากเท่านั้น

...ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน...
--------------------------

RCA
New route66 east & west ...(01) 440-9666......หรือที่เบอร์ 06-3000-817
Slim .... 02-203-0226-3............พี่ไวน์ 01-645-1177..
3 Some ...0-2203-1240-7
Club Astra .... 09-497-8422
Prop Bar ... 02-203-0669
REFEEL ...02-664-6459
ONE DOLLAR ...คุณโจ ผู้จัดการ... 09-767-3482
ทองหล่อสโมสร ...02-203-0516

ทองหล่อ/ เอกมัย
booze ... 02-715-0763
Room 25 - ทองหล่อ ซ.25 ....02-712-6448-9
Santika ...เบอร์ 02-711-5887 และ 02-711-5830 หรีอ 01-351-8683
barburee ..เอกมัย .. 02-392-4976-8
Z-mood..เอกมัย ซ.2 ..02-714-0493
นั่งเล่น - เอกมัย ....จองโต๊ะได้ที่.. คุณเอ้..0-1734-5102...เวลา 10.00 - 17.00 น. (ร้านปิดวันอาทิตย์)

ลิเบอตี้
Bombay bar ... 02-819-3768 หรือ 02-714-9459
ASHLEY'S RUMOUR ... 02-714-7861
แจ่มบาร์ .. 01-832-0675

สุขุมวิท
Bed supperclub ..สุขุมวิท 11.. 02-651-3537
Bar24 ..sukhumvit 24(soi emporiam) .. 02-6611062 , 09-000-2424
Narcissus ...สุขุมวิท 23 .... 02-258-4805
Zanzibar ...สุขุมวิท 11 ... 02-651-2700

รัชดา ซ.4
บางรัก .. 09-095-0990
Snop .. 02-819-3659
Gig club .. 01-834-5490
MonKey .. 01-828-9371
China bar .. 02-247-8823
Blue Bar .. 01-820-2000 , 06-389-0011

หลังสวน(ลุม)
70's Bar ... 02-253-4433

สีลม
Speed ...สีลม ซ. 4 ... 01-818-5064
Tapas ...สีลม ซ. 4 ... 02-632-7982

ข้าวสาร
Silk Bar ... 02-281-9981
The Club ..ข้าวสาร .. 02-629-1100
Cinnamon ...ซ.รามบุตรี .. 02-629-4075

เลียบทางด่วน.. รามอินทรา
Yes Indeed ... ถนน เกษตร- นวมินทร์ ..02-907-7844-7
The Immortal ..ถนน เกษตร- นวมินทร์ ..02-570-9999
The pool pub .. ถนน เกษตร- นวมินทร์ .. 02-578-3122-3
The Glasshome Bar ..เรียบด่วนรามอินทรา-เหม่งจ๋าย 02-934-7222-4
Camp of Havana ...ถนน เกษตร- นวมินทร์ ..02-905-1133
กระฉูดผับ ...02-943-9531-4

อื่นๆ
CAFE DE MOC ผับบนถนนราชดำเนิน.. หยุดทุกวันจันทร์ ... 02-662-2571
Pump up .. 02-642-2222
แซกโซโฟน - อนุสาวรีย์ .... 02-246-5472
Wild west ..ถ.ทาวน์ อิน ทาวน์ .. 02-394-5161
RETRO LIFE CAFE .. ศุนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ .. 02-229-3398-9
River Bar ..เชิงสะพานกรุงธน.. 02-879-1747-8
Bale bar .. ลาดพร้าว 35 .. 02-938-1518-9
HELO(sarapa)..โชคชัย4 ซ.82..02.942-0911

และที่ลืมไม่ได้คือ...
ทะเลบางกอก...พระรามเก้า-เยื้องRCA.....02-641-4818
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 01:20
‘น้ำหอม’ เพิ่มเสน่ห์ยวนใจ



ความหอมก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้หญิง ยิ่งเลือกกลิ่นหอมๆ ให้เหมาะกับตัวเอง ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์เย้ายวนใจมากขึ้น วันนี้ “ลังโคม” มีคำแนะนำน้ำหอมกลิ่นไหนเหมาะกับบุคลิกหญิงสาวมาฝาก



สาวเจ้าชู้แสนเสน่ห์


บุคลิกของสาวทรงเสน่ห์ คือมีความเป็นผู้หญิงเต็มตัว แถมชอบบริหารเสน่ห์ นิยมเครื่องแต่งกายที่ทำให้รูปร่างดูดีขึ้น ภายนอกแม้จะดูเป็นคนรักสนุก แต่ลึกๆ แล้วกลับเป็นคนช่างฝันหาชายหนุ่มมาคอยเปิดประตูให้ มีกุหลาบช่อโตมาฝาก และปฏิบัติกับคุณอย่างสุภาพ


สูตรน้ำหอมที่เหมาะกับสาวทรงเสน่ห์คือ น้ำหอมกลิ่นรัญจวนใจ เช่น กลิ่น “ดอกเสาวรส” เผยความเป็นผู้หญิงของคุณ ขณะที่กลิ่นหอมของวานิลลาและแฝก หอมชวนให้คุณอยู่ในอารมณ์อยากเริงระบำแบบข้ามคืน




สาวเจ็ตเซต


บุคลิกของสาวเจ็ตเซต เป็นหญิงสาวที่มีบุคลิกคล่องแคล่ว เพราะต้องพบปะพูดคุยกับคนมากมาย และมีหลายสิ่งที่อยากทำ เป็นคนที่รักการใช้อุปกรณ์ติดต่อสื่อสารไร้สายที่ครบเครื่องอย่างแบล็กเบอร์รี เพราะทำให้เธอสามารถติดต่อและทำธุรกิจไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก แถมเป็นสาวรักการเดินทางอีกด้วย


สูตรน้ำหอมที่เหมาะกับสาวเจ็ตเซตที่คุ้นเคยกับความหรูหราในชีวิต กลิ่นดอกหิมาลายันบลูป๊อป และกลิ่นหอมของดอกดาทูรา รวมทั้ง ดอกมิโมซา แดฟโฟดิลส์ ฟรีเซีย และกลิ่นกุหลาบชวนให้นึกถึงช่วงเวลาที่แสนสุขในเมืองตากอากาศสุดหรู




นางฟ้าใจดี


คุณคือราชินีแห่งความรื่นรมย์ รักการทำอาหารและการเข้าครัว จัดเป็นสาวแม่บ้านแม่เรือน แถมแต่งตัวเป็น เข้าตามสมัยนิยมและถูกกาลเทศะ


น้ำหอมที่เหมาะกับนางฟ้าใจดี คือ น้ำหอมกลิ่นแนว “สปาร์กลิง เฟรช ฟอลรัล” หอมเพลินใจ รวมทั้งกลิ่นของ “กุหลาบสีชมพู” และ “ดอกนาร์ซิสซัส” ผสมผสานความอ่อนหวานและเปรี้ยวเข็ดฟันไว้ด้วยกัน




สาวร่าเริง มองโลกแง่ดี


บุคลิกของสาวร่าเริง คือ ความซุกซนและรักชีวิตที่อยู่อย่างมีความสุข เปรียบดังแสงตะวันอันสดใส อยู่ที่ไหนก็ทำให้ที่นั่นมีชีวิตชีวา เพราะการมองโลกในแง่บวกของคุณนั่นเอง


น้ำหอมที่เหมาะกับสาวมีชีวิตชีวาเช่นคุณ คือ กลิ่นหอมของผลไม้ ส้มจีน แอปเปิล และลูกแพร์ ผสมกับกลิ่นหอมอ่อนหวานของลิลลีขาว




สาวช่างฝันและโรแมนติก


สาวช่างฝันและโรแมนติก มักเป็นสาวที่กระตือรือร้นกับการท่องไปในต่างแดน โดยเฉพาะสถานที่ที่ปราศจากนักท่องเที่ยว


น้ำหอมที่เหมาะคือ กลิ่นดอกไม้ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ในตัวยิ่งขึ้น เช่น กลิ่นกุหลาบ และดอกแอปริคอตที่หอมเข้ากันกับกลิ่นดอกลิลลีออฟเดอะวัลเลย์ ไอริสและไม้จันทน์ ยิ่งเพิ่มเสน่ห์เย้ายวนใจยิ่งขึ้น




สาวสวยคลาสสิก


ด้วยกริยาที่สง่างามและท่วงท่าที่สงบเยือกเย็นแบบออเดรย์ เฮปเบิร์น คือสาวที่มั่นใจ มีสไตล์และมีรสนิยมของตัวเองบ่งบอกสไตล์ของสาวคลาสสิกดี


สูตรน้ำหอมที่เหมาะกับคุณคือ ความหอมของฟลอเรียนทัลอันหอมหวานของโป๊ยกั๊ก แบล็กเคอร์แรนต์อ่อน และน้ำหวานดอกอัลมอนด์




เทพธิดาเดินดิน


แหม...ช่างเป็นสาวที่มีทั้งความอบอุ่น รักอิสระเสรี และรักธรรมชาติอะไรเช่นนี้ กิจกรรมโปรดของคุณคือความเรียบง่ายคือการเดินป่า หรือไม่ก็ปูเสื่อเพื่อเล่นโยคะ


น้ำหอมกลิ่นที่เหมาะกับเทพธิดาเดินดินคือ กลิ่นสไปซีฟลอรัล ผสมผสานกับกลิ่นหอมของลิ้นจี่ และดอกพรีเซีย ขณะที่กลิ่นหอมของดอกไม้และเครื่องเทศอย่างดอกแมกโนเลีย บูร์บองเป๊ปเปอร์ และจินเจอร์ก็เหมาะกับคุณด้วยเช่นกัน

ที่มา หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 01:22
น้ำหอมกลิ่นเดียวกันจะส่งกลิ่นแตกต่างกันไป เมื่อใช้กับแต่ละคน เวลาลองน้ำหอม ให้ฉีดน้ำหอมตัวอย่าง
แล้วเดินเล่นสัก 20 นาที เพื่อให้แน่ใจว่ามันเหมาะกับคุณจริงๆหรือไม่
         - หลังฉีดน้ำหอม ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 นาที กว่าแอลกอฮอล์จะระเหยหมด และรอให้กลิ่นของน้ำหอมทำปฏิกิริยา
เคมีกับกลิ่นกายของคุณ

         - หลังจากลองน้ำหอม 2-3 กลิ่น ประสาทสัมผัสคุณจะเริ่มล้า หากคุณต้องการลอง น้ำหอมหลายชนิดมากๆ ก้ให้พก
เมล็ดกาแฟติดตัวไปด้วยและดมมันเพื่อป้องกันไม่ให้จมูก ของคุณสับสนกับกลิ่นหอม ทำเช่นนี้ทุกครั้งหลังจากดมน้ำหอมไปได้
2-3 กลิ่น

         - ลองขอตัวอย่างกลับมาใช้ที่บ้าน เพื่อคุณจะได้พักจมูกระหว่างการลองน้ำหอมแต่ละครั้ง

         - หากจมูกของคุณได้กลิ่นน้ำหอมของตัวเอง ก็อาจเป็นไปได้ว่าคุณใส่น้ำหอมนั่นมากเกินไปแล้ว
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 01:24
หนุ่มเนื้อหอม เลือกน้ำหอม เสริมเสน่ห์ เพิ่มความมั่นใจ





เมื่อ พูดถึงผู้ชายใช้น้ำหอม...นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด  แต่มาสมัยนี้ผู้ชายใช้น้ำหอมเป็นเรื่องธรรมดามาก หนุ่มๆทุกคนก็สามารถเติมกลิ่นหอมให้กับตนเองได้โดยไม่มีใครเห็นว่าเป็น เรื่องแปลก และน้ำหอมชนิดที่ผลิตขึ้นมาเพื่อผู้ชายโดยเฉพาะก็มีให้เลือกใช้มากมายไม่แพ้ น้ำหอมของผู้หญิงเลย

น้ำหอมนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายประเภท อย่างที่มีความเข้มข้นมากที่สุดมีกลิ่นแรงมากที่สุด และสามารถติดทนนานบนผิวกายได้มากที่สุดก็คือเพอร์ฟูม ( Perfume ) ซึ่งไม่ค่อยมีที่ผลิตมาเป็นกลิ่นสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะเท่าใดนัก ส่วนใหญ่มักจะผลิตเป็นกลิ่นสำหรับผู้หญิงมากกว่า ถัดมาคือ โคโลญ ( Cologne ) ซึ่งมีความเข้มข้น ความแรงของกลิ่น และความติดทนนานรองลงมาจากเพอร์ฟูม และที่อ่อนลงไปกว่าอีกหน่อยก็คือ โอเดอโคโลญ ( Eau de Cologne ) หรือโอเดอตัวแลต ( Eau de Toiltte ) ส่วนอาฟเตอร์เชฟ (Aftershave ) ที่หลายคนใช้กันหลังโกนหนวดนั้นก็เป็นอีกประเภทหนึ่งของน้ำหอมผู้ชายซึ่งมี ความอ่อนเบาที่สุดและมีความติดทนนานน้อยที่สุด

แล้วคุณหนุ่มเนื้อหอม...ของเราจะเลือกน้ำหอมอย่างไรถึงจะเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด

1.เลือกน้ำหอมที่เหมาะกับคาแรกเตอร์ของตัวเอง

ชายหนุ่มทุกคนมีความแตกต่างทั้งบุคลิก หน้าที่การงาน และการใช้ชีวิต ก่อนเลือกซื้อน้ำหอมต้องทำความเข้าใจในส่วนผสมที่หลากหลาย จึงต้องมีการทดสอบกลิ่นเสียก่อน ด้วยการทดลองเทสต์ลงบนผิวหนัง แล้วสังเกตว่ามีปฏิกิริยาเกิดขึ้นกับตัวเราไหม ถ้ามีแสดงว่าน้ำหอมขวดนั้นน่าจะเหมาะสมกับตัวเรา อีกอย่างหนึ่งต้องสังเกตปฏิกิริยาของผิวหนังด้วยว่าก่อนฉีดกับหลังฉีดมีความ แตกต่างกันอย่างไร ทดสอบไปเรื่อยๆแล้วในที่สุดเราจะรู้ว่าน้ำหอมขวดไหนที่บ่งบอกความเป็นตัวเรา อย่างแท้จริง

2.ถามใจตัวเองว่าชอบไหม

ใช้ วิธีสังเกตจากกลิ่นท็อปโน้ตหรือกลิ่นแรกที่เราสัมผัสจากน้ำหอมเป็นหลัก ดูว่าเราชอบไหม อย่างน้ำหอม Light Blue Pour Homme ของ Dolce & Gabbana ที่มีกลิ่นโดดเด่นเหมาะกับหนุ่มรักอิสระ มอบความรู้สึกสะอาดและสดชื่นเหมาะกับอากาศบ้านเรา เวลาไปร้านน้ำหอม อาจให้พนักงานช่วยแนะนำแนวกลิ่นให้ตามความชอบและสเปรย์น้ำหอมไว้ที่ข้อมือ ด้านในสักประมาณ 15 นาทีแล้วตัดสินใจ

3.ฉีดน้ำหอมให้เหมาะสมกับโอกาส

บาง ครั้งเวลาจะฉีดน้ำหอม เราต้องสังเกตด้วยว่ากลิ่นอยู่ติดตัวเราทั้งวันหรือไม่ และควรจะเลือกกลิ่นที่จะฉีดให้เหมาะกับโอกาสที่แตกต่างกันไป เช่น เล่นกีฬา ทำงาน ประชุมนอกสถานที่ ซึ่งที่จริงแล้วเราอาจฉีดน้ำหอม 1-2 ครั้งต่อวันก็ได้ หรืออาจจะเลือกกลิ่นที่พิเศษที่เราชอบไว้สำหรับฉีดไปงานเลี้ยงช่วงหัวค่ำ ไม่ควรใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกันทุกวัน แต่ควรมีกลิ่นอื่นเผื่อไว้ด้วยเพื่อใช้ในโอกาสต่างๆกัน อีกอย่างต้องคิดด้วยว่า อากาศข้างนอกเป็นอย่างไร และจะใช้น้ำหอมกลิ่นไหนดี ที่สำคัญคือฉีดแล้วเราชอบไหม รู้สึกดี มีความมั่นใจหรือไม่ การฉีดน้ำหอมทำให้เราเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเอง ส่งผลให้เรามีพลังงานในการทำงานมากขึ้น

4.สภาพอากาศและอุณหภูมิก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อน้ำหอม

สภาพ อากาศในหน้าหนาวยามนี้ยิ่งหนาวเท่าไหร่ยิ่งทำให้กลิ่นน้ำหอมอ่อนลง แต่ตรงกันข้ามหากเป็นหน้าร้อน อากาศร้อนชื้นในเมืองไทยก็จะทำให้น้ำหอมมีกลิ่นฉุนกว่าปกติ คุณจึงควรมีน้ำหอมที่เหมาะสมกับฤดูกาลต่างๆโดยทดสอบว่ากลิ่นใดเข้ากับฤดุ หนาวกลิ่นใดเหมาะกับฤดูร้อน

5.จุดที่เหมาะสมในการพรมน้ำหอม

จุด ที่เหมาะสมในการพรมน้ำหอมประกอบด้วย 5 จุด คือ ข้อมือ ข้อศอกด้านใน ซอกคอ ร่องอกและหลังหัวเข่า จุดเหล่านี้ล้วนเป็นจุดที่เก็บกลิ่นได้ดี จุดที่หนุ่มๆควรหลีกเลี่ยงในการพรมน้ำหอมคือจุดหลังใบหู เพราะน้ำหอมอาจทำปฏิกิริยากับต่อมน้ำเหลืองโอกาสที่จะเกิดกลิ่นไม่พึง ประสงค์จึงมีสูงมาก

Credit : maxworth
โดย: pingpong1006    เวลา: 2009-6-18 11:23
ได้สาระประโยชน์เพิ่มเติม อีกแล้วครับท่าน
โดย: Arty    เวลา: 2009-6-18 11:43
โอ้ว ข้อมูลมหาศาลเลยอะ


โดย: idol-hall    เวลา: 2009-6-18 12:02
ว้าวอาเฮียก้อง   แน่นปึ๊กเรยน้า
โดย: BIGBANG    เวลา: 2009-6-18 16:42
ออกพ๊อคเก็ตบุ๊คเลยดีไหมน้องก้อง ขั้นเทพๆ ขอบคุณสำหรับ ข้อมูลเทพๆ ด้วยนะคับ จะได้อัพเดทตามเทรนได้เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ผ๊มจะได้อยู่ในรถไฟ(อินเทรน์)กับเค้าบ้าง อิอิ
โดย: BOBBY    เวลา: 2009-6-18 16:50
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆคัฟ ก้อง
โดย: nuulexx    เวลา: 2009-6-18 21:27
โอ๊ววววววววว!!!!!!!!

แม่เจ้า!!!!!!!

อาเฮีย คร๊ะ ถูกใจนู๋มากเลย

ขอบคุณคะ
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-18 22:43


เลือกสีกระเป๋าสตางค์ตามวันเกิด

  
รู้หรือเปล่า? แค่เลือกสีกระเป๋าสตางค์ให้ถูกกับวันเกิด ก็สามารถทำให้คุณรวยได้นะ

คนเกิดวันอาทิตย์
คุณไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์สีฟ้า สีดำ หรือกระเป๋าที่ทำมาจากหนังของสัตว์ทะเล ส่วนสีที่คุณควรใช้คือ สีในโทนส่วาง หรือจะเป็นสีน้ำตาลหรือสีเขียว อันนี้ก็โอเค

คนเกิดวันจันทร์
กระเป๋าสตางค์สีแดงหรือกระเป๋าสตางค์ที่ทำมาหนังสัตว์ 2 แบบนี้คุณควรหลีกเลี่ยงไปเลย ส่วนสีที่เหมาะกับคุณมากที่สุดก็คือ สีน้ำตาลหรือสีม่วง

คนเกิดวันอังคาร
สีน้ำตาลและสีครีม 2 สีนี้เป็นสีที่ไม่เหมาะกับคนเกิดวันอังคารเลยค่ะ และอีกอย่างที่ต้องห้ามก็คือ กระเป๋าที่ทำมาจากหนังสัตว์ ส่วนสีที่ถูกโฉลกกับคุณก็คือ สีชมพู สีแสด และสีส้ม 3 สีนี้ก็คงจะถูกใจสาวๆ นะ

คนเกิดวันพุธ
สำหรับคนเกิดวันพุธก็มีสีต้องห้ามอยู่ 2 สีคือ ดำและชมพู และไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์ที่ทำมาจากหนัง โดยเฉพาะสัตว์ปีก ส่วนสีของกระเป๋าสตางค์ที่เหมาะกับคุณก็คือ สีเขียวครีมและน้ำตาล

คนเกิดวันพฤหัสบดี
สำหรับคนเกิดวันพฤหัสบดีมีสีต้องห้ามอยู่สีเดียวคือ สีดำ และขนาดของกระเป๋าจะต้องไม่ใหญ่เกินไป เลือกชนิดมีช่องใส่พอประมาณ ส่วนสีที่เหมาะก็คือสีแดงหรือส้ม

คนเกิดวันศุกร์
สีของกระเป๋าสตางค์ที่ต้องห้ามสำหรับคนเกิดวันศุกร์ก็คือ สีดำ หรือสีทึมไม่สดใส แล้วก็ไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์ที่ดูแปลกจนเกินไป เพราะจะทำให้คุณเก็บเงินไม่อยู่นะ ส่วนสีที่ควรใช้ก็คือ สีฟ้าและสีชมพู

คนเกิดวันเสาร์
คุณไม่ควรใช้กระเป๋าสตางค์สีเขียวหรือน้ำตาล และต้องพยามยามเลือกแบบที่ไม่เก่าเร็ว ต้องแลดูใหม่อยู่เสมอ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ คนเกิดวันเสาร์ต้องซื้อกระเป๋าสตางค์บ่อยกว่าคนกิดวันอื่น เราะถ้าคุณปล่อยกระเป๋าสตางค์ของคุณเก่าขึ้นมาเมื่อไหร่ล่ะก็ เมื่อนั้นจะทำให้ไม่มีโชคลาภ ส่วนสีที่เหมาะกับคุณก็คือสีฟ้าหรือสีม่วง


ขอขอบคุณ คุณนันทพงศ์ เลิศมณีทวีทรัพย์
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-24 14:06
เกร็ดความรู้เรื่องการสวมใส่อัญมณี เพื่อความเป็นสิริมงคลและส่งเสริมดวงของผู้ใส่ ตามหลักความเชื่อโหราศาสตร์

สำหรับใครที่เกิดวันจันทร์ ควรใช้เครื่องประดับ อัญมณีที่เป็นสีเหลือง เรียกว่า “เศตาภรณ์” ได้แก่ บุษราคัม  โทแพซสีเหลือง ซิทริน เพทายสีเหลือง อำพัน หยกสีเหลือง  เพชรสีเหลือง ไข่มุกสีทอง เป็นต้น

   >> อัญมณีที่ใช้แต่งกายวันจันทร์ คือ “มุกดา” (มุกดาหาร หรือ Moonstone) และ “โอปอล” (โอปอล หรือ Opal)

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงิน คือ สีแสด

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน(จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีดำ

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีอำนาจ (มีเดช มีอำนาจ) คือ สีเขียว

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี (เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีดำ

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีฟ้า

           คนที่เกิดในวันอังคาร ควรใช้เครื่องประดับอัญมณีที่เป็นสีชมพู เรียกว่า “ตามภาภรณ์” ได้แก่ ปะการัง แซปไฟร์สีชมพู เบริลสีกุหลาบ สปิเนลสีชมพู โทแพซสีชมพู เพชรสีชมพู ไข่มุกสีชมพู เป็นต้น

   >> อัญมณีที่ใช้แต่งกายวันอังคารคือ “ประพาฬ” (ปะการัง หรือ Coral)

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงินคือ สีเทา

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี(เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีแสด

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีแดง

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีอำนาจ (มีเดช มีอำนาจ) คือ สีดำ

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน(จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีฟ้า

           คนที่เกิดในวันพุธ สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีขาว ถ้าเป็นพุธกลางคืน สีดำ สีเทา

   >> อัญมณีที่ใช้แต่งกายวันพุธคือ “มรกต” (มรกต หรือ Emerald)

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงินคือ สีฟ้า ถ้าเป็นพุธกลางคืน สีชมพู

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน(จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีแดง ถ้าเป็นพุธกลางคืน สีเขียว

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี (เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีดำ สีเทา และถ้าเป็นพุธกลางคืน สีขาว สีเงิน ควรใช้เครื่องประดับอัญมณีที่เป็นสีเขียว เรียกว่า “อินทนิล” ได้แก่ มรกต หยก หยกออสเตรเลีย หยกเม็กซิกัน ทัวร์มาลีนสีเขียว เพริโดต์ โกเมนสีเขียว เขียวส่อง เป็นต้น
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-6-24 14:06
คนที่เกิดวันพฤหัสบดี สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีเขียว

   >> อัญมณีที่ใช้แต่งกายวันพฤหัสบดี คือ “ไพฑูรย์” (ตาแมว หรือ Chrysoberyl Cat’s Eye)

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงิน คือ สีขาว

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน (จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีชมพู

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีอำนาจ (มีเดช มีอำนาจ) คือ สีฟ้า

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี (เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีแดง

   >> ควรใช้เครื่องประดับอัญมณีที่เป็นสีส้ม หรือสีแสด เรียกว่า “ปิตาภรณ์” ได้แก่ โอปอลไฟ หยกแดง หยกแดงไต้หวัน สปิเนลสีส้ม แซปไฟร์สีส้ม ปะการัง เป็นต้น

           คนที่เกิดในวันศุกร์ สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีแสด

   >> อัญมณีที่ใช้แต่งกายวันศุกร์ คือ “เพชรรัตน์” (เพชร หรือ Diamond)

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงิน คือ สีเขียว

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน (จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีดำ

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีอำนาจ (มีเดช มีอำนาจ) คือ สีขาว

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี (เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีชมพู

   >> ควรใช้เครื่องประดับอัญมณีที่เป็นสีฟ้า หรือสีน้ำเงิน เรียกว่า “ปภัสราภรณ์” ได้แก่ ไพลิน โทแพซสีฟ้า เพทายสีฟ้า อะความารีน ลาพิส ลาซูลี เทอร์คอยส์ เพชรสีฟ้า หรือน้ำเงิน เป็นต้น

           คนที่เกิดในวันเสาร์ สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี (เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีฟ้า

   >> อัญมณีที่ใช้แต่งกายวันเสาร์ คือ “นิลมณีรัตน์” (นิลกาฬ หรือ Blue Sapphire)

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน(จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีขาว สีเหลืองอ่อน ๆ

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงิน คือ สีแดง

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีชมพู

   >> ควรใช้เครื่องประดับอัญมณีที่เป็นสีม่วง หรือสีดำ เรียกว่า “กัณหาภรณ์” ได้แก่ แอเมทีสต์ แซปไฟร์สีม่วง นิลตะโก โอนิกซ์ หยกดำ สตาร์ดำ ไข่มุกสีดำ ปะการังสีดำ เป็น

ต้น

           และท้ายที่สุดคนที่เกิดวันอาทิตย์  สีของอัญมณีที่เสริมความเมตตา (ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา กรุณา) คือ สีดำ

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการเงิน คือ สีดำ สีเทา

   >> สีของอัญมณีที่เสริมการงาน(จะก้าวหน้า รุ่งเรือง ประสบความสำเร็จ) คือ สีแสด หรือสีส้ม

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีอำนาจ คือ สีชมพู และสีแดง

   >> สีของอัญมณีที่เสริมความมีสง่าราศี (เป็นที่ยกย่องเลื่อมใส เป็นที่รักใคร่ของคน) คือ สีเขียว

   >> ควรใช้เครื่องประดับอัญมณีที่เป็นสีแดง เรียกว่า “รัตนาภารณ์” ได้แก่ ทับทิม สปิเนลสีแดง โกเมนสีแดง ทัวร์มาลีนสีแดง เพทายสีแดง เพชรสีแดง เป็นต้น
โดย: BOBBY    เวลา: 2009-7-6 23:09
ดัน กระทู้ดีๆ มาให้เพื่อนๆ อ่านกันคัฟ

อิ อิ
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-7-7 00:10
ดับบ๊อบบี้อีกแรงครับ
โดย: bluezone    เวลา: 2009-7-7 00:27
อ่านแล้ว

ก็ช่วยดันอีกที
โดย: ก้องตะวัน    เวลา: 2009-7-7 00:30
หมายเหตุ: ผู้โพสต์ถูกแบนหรือถูกลบ โพสต์นี้ถูกปิดโดยอัตโนมัติ
โดย: plaa    เวลา: 2009-7-7 00:38
อ่านแล้วก้อช่วยดัน

แต่เบอร์ผับนี่ เก่าไปนิสนุงน้า ยังมี ซานติก้าอยู่เรยอ่ะ
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2009-7-8 15:13
ก็ก้องไม่ใช่เด็กเที่ยวนิ

แต่เป็นเด็กขายไง
อิๆๆ

คลองหลอดบ้าง สนามหลวงบ้าง สวนลุมบ้างอะไรบ้าง

ขายเรียงเบอร์




ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com/) Powered by Discuz! X3.2