ดั้งโด่งดอทคอม

ชื่อกระทู้: แชร์ประสบการณ์เสริมจมูกกับคุณหมออภิรักษ์ ช่วงสุวานิชคะ^^ [สั่งพิมพ์]

โดย: khunpailyn เวลา: 2013-6-25 07:19
ชื่อกระทู้: แชร์ประสบการณ์เสริมจมูกกับคุณหมออภิรักษ์ ช่วงสุวานิชคะ^^
สวัสดีคะเพื่อนๆชาวดั้งโด่ง นี้เป็นรีวิวแรกผิดพลาดอะไรขออภัยนะคะ
เราเป็นผญคนนึงที่ไม่พอใจกับจมูกตัวเองมานานแล้วคะ แต่ติดอยู่ที่ว่าที่บ้านเราเขาไม่ชอบการหาอะไรแปลกปลอมเข้าไปในร่างกาย
พูดง่ายๆคือแอนตี้การศัลยกรรมนั้นละคะ (ลืมบอกตอนนี้เรากำลังจะจบปี3) แต่มันมีเหตุบังเอิญอย่างนึงคือประมาณปีกว่าๆที่ผ่านมาน้าเราเขาเสริมจมูกเสริมโหงวเฮ้งกับคุณหมอสมศักดิ์ (ไม่แน่ใจว่าแถวรัชดารึป่าว) ราคาก็อยู่ที่แสนกว่าๆ เขาทำก็สวยธรรมชาติดี แม่เราก็ชอบคะ แต่แหม..ราคาเป็นแสนไม่ผ่านคะ

พอมาต้นเดือนที่แล้วเราเก็บเงินเป็นของตัวเองได้ก้อนนึงหานู้นนี้นั้นทำไปเรื่อยคะ เราเลยลองคุยกับคุณแม่อีกครั้ง ปรากฏว่าผ่านคะ เรารีบโทรนัดหมอ จองตั๋วเครื่องบินกลับกทม.ล่วงหน้ากำหนดการกลับจริงๆ1อาทิตย์ อ่อ เรารู้จักคุณหมอเพราะเพื่อนสนิทเราทำคะ ถ้าเขาไม่บอกเราก็ไม่รู้ว่าเขาทำ555 อีกอย่างหมออภิรักษ์ ท่านมีประวัติและตำแหน่งการเป็นหมอที่ดีคะ
พอมาถึงวันจริงเราก็บินกลับมา ต่อแท๊กซี่มากระเป๋าก็แบกมาด้วยคะกลัวไม่ทัน มาถึงก่อนเวลานัด 1 ชม. ก็นั่งรอสักพัก พี่ที่หน้าเคาเตอร์ก็ให้กรอกประวัติ ถามเรื่องแพ้ยา เรามีแพ้ยา3ตัวคะ แล้วก็พบหมอเพื่อปรึกษา คุณหมอก็ถามว่าชอบแบบไหน อยากได้ยังไง เราบอกว่าไม่มีแบบ เราอยากให้มองหน้าตรงแล้วมีสันจมูก อยากให้ปิดรูจมูก หมอก็บอกว่าปิดหมดไม่ได้นะจมูกมันสั้น ทำได้ไม่เยอะ เดี๋ยวจะดูหลอก เราก็โอเคคะขอธรรมชาติ คุณหมอก็ถามว่าจะทำเลยรึป่าว ทำซิคะ เราตั้งใจมาทำอยู่แล้วนะ555
เราก็ออกมาทานยาคะ น่าจะเป็นยาแก้ปวด ลดบวม ประมาณ 4-5เม็ดคะ
สักพักก็ถูกเรียกให้ไปขึ้นเขียงคะ พี่พยาบาลให้คอตต้อนบรัชหัวใหญ่ๆก้านยาวๆมา4อัน 2อันแรกจุ่มน้ำยาแล้วคะ ให้ล้างจมูก2ข้าง เราเคยอ่านมาหลายคนเลยจะโดนผู้ช่วยเช็ดจมูกซ้ำและล้วงเข้าไปลึกจนเจ็บแสบ เราก็จัดเลยคะล้วงเองสบายใจกว่า ปั่นๆๆๆมันเข้าไปขี้มูกไม่เหลือสักอนูเลยคะ ปั่นไปปั่นมา หืมมแสบอยู่นะเนี้ย หลังจากนั้นก็เอาอีกคู่นึงจุ่มน้ำแล้วเช็ดต่อคะ(ยังแสบไม่เลิก)แล้วก็ล้างหน้าคะ ใส่หมวกขึ้นเขียง!!
ในห้องจะมีเตียงอยู่กลางห้องคะ เปิดเพลงไทยคลอเบาๆ เราก็ขึ้นไปหมอก็ม่ผู้ช่วยก็สวมชุดเตรียมเครื่องมือนู้นนี้นั้น สักพักหมอก็มานั่งข้างๆหัวเราดูดยาชาใส่หลอดฉีด ทุกคนที่เคยทำบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเจ็บที่สุดคือตอนฉีดยาชา!! ตอนนั้นเรากลัวมากกกก เกร็งไปหมดคะ ตั้งใจจะยกมือไหว้เจ้าที่เจ้าทางก่อนแต่ลืมเพิ่งนึกได้ก็จัดบนเตียงนั้นละขะภาวนาให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี คุณหมอหยิบแท่งขาวๆยาวๆออกมา ตอนแรกนึกว่ายางลบคะ แต่เป็นซิลิโคน คุณหมอบอกตอนนี้จะเหลาก่อนนะยังไม่ได้ทำอะไร คุณหมอก็เหลาไป ทาบกับจมูกของเราไป ประมาณ 70%ของเวลาการผ่าตัดอยู่ที่การเหลาซิลิโคนคะ แล้วเราก็บังเอิญเห็นว่าซิลิโคนเป็นทรงฐานกว้างหน่อย ไม่สูงมาก ออกแนวแบนๆด้วยซ้ำไป หรือเราคิดไปเองก็ไม่รู้555 ตอนรอหมอเหลาเราไม่ตื่นเต้นแล้วคะ ตอนนั้นง่วงด้วยไม่รู้เพราะฤทธิ์ยาหรือเพิ่งบินมาหยกๆ ระหว่างหมอเหลาเราชวนหมอคุยเป็นระยะๆคะ คิดได้ว่ากลัวหมอไม่มีสมาธิ เลยหันมาคุยกับผู้ช่วยคะ น่ารักคะเขาคงรู้ว่าเรากลัว555 คราวนี้ถึงตาของพระเอกยาชาคะ หมอบอกนิดนึงนะ เข็มแรกจิ้มข้างๆจมูกคะ เราโอ้ยเลยนะ เจ็บอะ น้ำตาไหล่ มีคนเอาสำลีมาซับน้ำตาให้ด้วย เข็ม2ข้างจมูกอีกข้างคะ เจ็บอยู่ เอาเล็บจิกมือตัวเองระบายความเจ็บแต่ไม่หายคะ เข็ม3น่าจะปีกหรือระหว่างคิ้วนี้ละคะ ยังเจ็บอยู่คะ ที่เหลือไม่รู้เรืองแล้วคะ ฉีดปุ๊ปชาปั๊ป แล้วหมอก็จัดเลยคะ ไม่รู้ว่าทำอะไรรู้แค่มีคนดันจมูก เสยมัน ขูดมันสักพักคะ แล้วก็รู้ว่าหมอเย็บแล้วเพราะด้ายโดนปากเรา เสร็จปั้บหมอบอก เสร็จแล้วครับ ผู้ช่วยก็พยุงเราเดินลงบันได้มาคะ เราขอเข้าห้องน้ำ ก็เห็นจมูกตัวเองแต่ก็มองไม่ออกคะ เพราะตอนนั้นใต้ตาบวมนิดนึง

โดย: khunpailyn เวลา: 2013-6-25 07:19
พอออกมาระหว่างที่จะเดินถึงโซพา เรารู้สึกหน้ามืด เราก็คิดว่าคงเป็นเพราะลุกแล้วเดินเลย ปกติเราก็หน้ามืดแบบนี้บ่อยๆคะไม่คิดอะไร พอนั่งสักพักรู้สึกท้องปั่นป่วน คลื่นไส้อะ หมอก็ถามว่าเป็นอะไรเราก็บอกไป พี่หน้าเคาเตอร์ก็บอกว่า น้องดูหน้าซีดๆ หมอก็มาจับชีพจรที่แขนเราก็บอกว่าไม่เป็นไรนิ นั่งสักพักนะ เขาก็ถามเราว่ากินข้าวมารึยัง คือวันนั้นเรารีบเรื่องเวลามากคะก็เลยกินได้แค่คุกกี้2ชิ้นบนเครื่อง(อีกชิ้นแย่งของเพื่อนกินคะ555) เราเลยขอหมอนอนราบกับโซฟาตอนนี้เรารู้สึกร้อนขึ้นมาทันทีคะ เหงื่อท่วมเลย หมอบอกไปนอนข้างในดีกว่านะแอร์เย็นกว่า พอดีตอนนั้นหมอต้องไปผ่าตัดต่อที่ศิริราชคะ แต่หมอบอกว่าไม่เป็นไรๆนั่งสักพัก พี่เขาก็มาช่วยพยุงเราคะ พอเดินจะถึงหน้าประตูละเรารู้สึกมืดมากกกพูดกับพี่เขาว่าพี่หนูมืดอะ แล้วเราได้ยินเสียงพี่ตะโกนเรียกน้องชายเราดังมากว่า"น้องมาช่วยหน่อยพี่ไม่ไหว" รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่บนเตียงแล้วคะ รู้เลยคะว่าเราวูบไปเลยตอนนั้นเราคิดเลยนะตายแน่ๆหาาเรื่องใส่ตัว อยู่ดีไม่ว่าดี บลาๆๆ พี่เขาก็เอายาดมมาให้ เราก็บอกให้น้องซื้อขนมปังมาเผื่อจะดีขึ้น พี่เขาก็มาคุยกับเราว่าสงสัยเพราะเพิ่งบินมา ข้าวก็กินน้อย ทำจมูกเนี้ยเสียเลือดเยอะสุดเลยนะ นอนสักพักค่อยกลับนะ แล้วเราก็กินแซนวิชไปชิ้นนึงคะ สักพักก็ดีขึ้น แล้วก็โทรให้ที่บ้านมารับ พอกลับมาถึงบ้านก็ไม่เป็นอะไรแล้วคะ ตื่นมาเช้าดีตาบวมคะ มีรอยช้ำระหว่างตานิดหน่อยไม่ค่อยปวดรู้สึกเสียวๆจมูกมากกว่า หมอไม่ได้ห้ามทานอะไรนะคะ เราถามไข่ละหมอก็บอกปกติคะ เราถามต้องนอนหัวสูงมั้ยคะ หมอบอกหมอนเดียวปกติ ตะแคงได้ (พี่ผู้ช่วยบอกว่าหมอเหลาฐานให้ยึดกับจมูกเราแน่นแล้วคะ) แต่เราก็กลัวจะเบี้ยวก็เลยนอนหงายเอาหมอนรองคอล๊อคไว้ทั้งคืนคะ นอนไม่หลับด้วย ปกติไม่ชอบนอนหงายก็ต้องนอนคะ หมอนใบเดียวแต่เลือกใบสูงๆไว้หน่อยคะป้องกัน ไม่ล้างหน้าใช้ทิชชู่เปียกเช็ดเอา ส่วนแผลคุณหมอบอกไม่ต้องยุ่งคะ ถ้ามีเลือดค่อยเช็ดเอา ห้ามโดนน้ำ3วัน ตอนนี้ผ่านมาคืนนึงคะ นอนไม่ค่อยหลับ ตื่นทั้งคืนเลย ฝันด้วยว่าวูบในห้องน้ำ555 รอดูต่อไปคะ เรามีเวลาพักฟื้น 1อาทิตย์คะ เดี๋ยวจะลงรูปให้ดูทีเดียวเลยนะคะ ตอนนี่เป็นอวตารอยู่คะ 555 ใครกำลังทำอยู่ก็ขอให้หายเร็วๆน้าาา

โดย: juneth28 เวลา: 2013-8-8 09:53
น้องมาย ทำแล้วสวยงามมาก ^^

ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com/)