ดั้งโด่งดอทคอม

ชื่อกระทู้: ผื่นผิวหนังอักเสบ บริเวณผิวมัน(SeborrheicDermatitis) [สั่งพิมพ์]

โดย: opal2530    เวลา: 2013-2-20 20:59
ชื่อกระทู้: ผื่นผิวหนังอักเสบ บริเวณผิวมัน(SeborrheicDermatitis)
ผื่นผิวหนังอักเสบ บริเวณผิวมัน(SeborrheicDermatitis)
ผื่นอักเสบบริเวณผิวมัน เป็น ปัญหาผิวพรรณ ที่ค่อนข้างเรื้อรัง แต่ถ้าได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง ระมัดระวังอย่าให้ผิวถูกรบกวน ก็สามารถควบคุม ให้ผิวกลับเป็นปกติได้

            ผิวหนังอักเสบ แบบนี้มักเกิดบริเวณกลางใบหน้า ซึ่งเป็นบริเวณที่มี ความมัน มาก อาการ อักเสบ ถ้าเป็นน้อยๆ หรือเพิ่งเริ่มเป็น จะมีลักษณะเป็น ขุย ลอกเป็นหย่อมๆ ถ้าเป็นมาก จะเป็น ผื่นแดง กว้างขึ้น มี ขุยหนา ลอกเป็นสะเก็ด อาจมีอาการ คัน ร่วมด้วย
            บริเวณที่เป็นบ่อยได้แก่ เหนือคิ้ว, หัวคิ้ว, ข้างจมูก, ซอกจมูก, ถ้าเป็นมาก อาจลามไปขึ้นตาม ไรผม, จอน, หลังหู, ต้นคอ และ ลงไปเกิดที่ หน้าอก และ หลังไ ด้ด้วย  บางคนเป็น ผื่น และ ขุย ที่ ศรีษะ เหมือน รังแค
โดย: opal2530    เวลา: 2013-2-20 20:59
ทำไมจึงมีอาการอักเสบบริเวณผิวมัน

            โดยปกติ ผิวที่อักเสบ ง่าย มักจะเป็นบริเวณผิวที่ แห้ง เช่น ผิวด้านข้างของใบหน้า ซึ่งมี ต่อมไขมัน ทำงานน้อยกว่าบริเวณอื่น แต่ในกรณี Seborrheic Dermatitis กลับตรงข้าม คือ เป็น ผื่นอักเสบ ตรงบริเวณที่เป็น ผิวมัน ซึ่งปกติแล้วไม่ควรจะอักเสบ

            จากการศึกษาพบว่า ผิวบริเวณดังกล่าวจะแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ ทำให้ เซลผิวหนัง ที่ยังไม่เจริญเต็มที่ เคลื่อนตัวขึ้นมาชั้นบนของ ผิวหนัง เร็วเกินไป เซลที่ยังไม่แข็งแรงเหล่านี้ จะไวต่อการรบกวนต่างๆ ทำให้เกิดการ บวมแดง เห่อ อักเสบ และหลุดลอก เป็นขุยได้ง่าย
โดย: opal2530    เวลา: 2013-2-20 20:59
ทำไมจึงมีอาการอักเสบบริเวณผิวมัน

            โดยปกติ ผิวที่อักเสบ ง่าย มักจะเป็นบริเวณผิวที่ แห้ง เช่น ผิวด้านข้างของใบหน้า ซึ่งมี ต่อมไขมัน ทำงานน้อยกว่าบริเวณอื่น แต่ในกรณี Seborrheic Dermatitis กลับตรงข้าม คือ เป็น ผื่นอักเสบ ตรงบริเวณที่เป็น ผิวมัน ซึ่งปกติแล้วไม่ควรจะอักเสบ

            จากการศึกษาพบว่า ผิวบริเวณดังกล่าวจะแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ ทำให้ เซลผิวหนัง ที่ยังไม่เจริญเต็มที่ เคลื่อนตัวขึ้นมาชั้นบนของ ผิวหนัง เร็วเกินไป เซลที่ยังไม่แข็งแรงเหล่านี้ จะไวต่อการรบกวนต่างๆ ทำให้เกิดการ บวมแดง เห่อ อักเสบ และหลุดลอก เป็นขุยได้ง่าย
โดย: opal2530    เวลา: 2013-2-20 20:59
สาเหตุของการเกิดโรค

            เป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน และยังไม่สามารถพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริงได้ แต่สันนิษฐานว่า เริ่มต้นจากการที่ผนัง รูขุมขน และ เซลผิวหนัง ไม่แข็งแรง จึงถูกรบกวนโดย เชื้อ P.Ovale และ กรดไขมัน ในรูขุมขนได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณ ผิวมัน ส่งผลให้ เซล แบ่งตัวเร็วขึ้น และเมื่อได้รับสิ่งรบกวนซ้ำเติมจากภายนอก อาทิ แสงแดด, รังสีความร้อน, ความแห้งจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศ, ความเป็นด่างของ สบู่ ฟอง ครีม หรือ โฟมล้างหน้า, เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ ฯลฯ จึงทำให้ ผิวหนังอักเสบ แดง เห่อ และ ลอกเป็นขุย ตรงบริเวณที่ถูกรบกวน
            นอกจากนี้เวลาที่สุขภาพร่างกายทรุดโทรม พักผ่อนน้อย เครียด วิตกกังวล ก็พบว่าโรคนี้มักจะกำเริบได้ง่าย
โดย: opal2530    เวลา: 2013-2-20 20:59
การรักษา
1.       รักษาการอักเสบ ในระยะที่มี ผื่นอักเสบ เห่อ และ แดง แพทย์จะให้ ยาทา ที่มีฤทธิ์ลด การอักเสบ ใช้ติดต่อกันประมาณ 3 – 4 วัน เพื่อให้อาการ อักเสบ ที่เป็น ผื่นแดง และ คัน ยุบลง
2.       ใช้ ยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกัน เชื้อโรค แทรกซ้อน และ ยาที่ช่วยลดและควบคุมเชื้อ ยีสต์ โดยใช้ภายใต้การพิจารณาของ แพทย์
3.       ใช้ ยา ช่วยลดการแบ่งตัวของเซล หลังจากที่ ลดยาระงับการอักเสบแล้ว เพื่อควบคุมไม่ให้เกิด ผื่นแดง และลอกเป็นขุย
4.       ยาลดอาการคัน เช่น ตัวยาในกลุ่ม Antihistamines
โดย: opal2530    เวลา: 2013-2-20 20:59
การป้องกัน
1.       หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนต่างๆ จากภายนอก เช่น สบู่ที่เป็นด่าง, ฟองจาก โฟม และ ครีมล้างหน้า, เครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์, แสงแดด, ความร้อน
2.       คนที่เป็น ผื่นอักเสบ บริเวณผิวมัน ควรใช้น้ำเปล่าหรือสบู่อ่อนเป็นพิเศษ และใช้ครีมกันแดดร่วมกับ Moisturizer เพื่อป้องกันการรบกวนจากรังสีในแสงแดด และช่วยให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน ลดการระคายเคือง
3.       ในบางรายอาจต้องใช้อาหารเสริมหรือวิตามินบางชนิด เช่น Gamma Linoleic Acid ซึ่งพบมากใน Evening Primrose Oil (EPO) เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวหนัง




ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com/) Powered by Discuz! X3.2