ดั้งโด่งดอทคอม
ชื่อกระทู้:
ผิวหน้า..แห้งมาก ทำไงดี? ลองๆทำตามดูนะคะ
[สั่งพิมพ์]
โดย:
opal2530
เวลา:
2013-2-18 21:27
ชื่อกระทู้:
ผิวหน้า..แห้งมาก ทำไงดี? ลองๆทำตามดูนะคะ
ผิวที่มีสุขภาพดีจะมีสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ (Natural Moisturizing Factor, NMF) เคลือบอยู่ เพื่อคงความชุ่มชื้นของผิวไว้ และจะเห็นได้ถึงความเรียบสดใส ดูเปล่งปลั่ง นวลเนียนสวยงาม เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเนียนนุ่ม ซึ่งแสดงว่าเซลล์ผิวในขณะนั้นอยู่ใน
ภาวะดุลยภาพ (Homeostasis) แต่หากดุลยภาพของเซลล์ผิวสูญเสียไปผิวจะแห้ง มีขุย ลอก และมีอาการคัน ผู้ที่มีผิวแห้งจึงต้องให้การดูแลเป็นพิเศษก่อนที่จะลุกลามเป็นปัญหาหรือเกิดโรคต่างๆ ตามมา ปัจจัยที่ทำให้ผิวแห้ง ได้แก่ กรรมพันธุ์ ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดการสร้างสารบางชนิดที่ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำที่ผิว โรคที่ทำให้ผิวหนังแห้งหรือมีขุย เช่น ภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) สะเก็ดเงิน (Psoriasis)
อายุที่เพิ่มขึ้น ต่อมไขมันจะสร้างไขมันน้อยลง ผิวจะบางและแห้งเซลล์ผิวกักเก็บน้ำได้น้อยลง
สภาพแวดล้อมต่างๆ จากอากาศหนาวเย็น ทำให้ความชื้นในอากาศลดลง หากอากาศมีความชื้นสัมพัทธ์ต่ำกว่า 60% น้ำจะระเหยออกจากผิวมากขึ้น ผิวจึงสูญเสียน้ำมากขึ้นเกิดการแห้งตึง ลอก
การรบกวนต่างๆ จากสารเคมี เช่น การขัด การถู ก็นับว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่รบกวนผิวได้เช่นเดียวกัน
การป้องกันและการดูแลดุลยภาพผิวไม่ให้เกิดผิวแห้งคัน
1. ไม่ควรล้างหน้าบ่อย เพราะจะเป็นการชะล้างไขมันที่ช่วยเคลือบผิว หากผิวแห้งมากควรหลีกเลี่ยงการใช้สบู่
2. ไม่ควรใช้น้ำอุ่นล้างหน้า เนื่องจากจะทำให้ไขมันซึ่งให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนังสูญเสียไป ผิวจึงแห้งมากขึ้น คันเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
3. ดื่มน้ำให้มากพอ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ร่างกายคนเรามีน้ำถึง 60-70% หากขาดน้ำความชุ่มชื้นของเซลล์ผิวจะเสียไป
4. อากาศที่ขาดความชุ่มชื้น จากการอยู่ในห้องแอร์เป็นประจำ
5. หลีกเลี่ยงการรบกวน เช่น การอบซาวน่า ไม่ถูไม่ขัดผิว ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวแห้งลง รวมไปถึงการตากแดดหรือทำงานกลางแจ้งและการสัมผัสสารเคมีบางอย่าง
6. เลือกใช้ครีมที่ให้ความชุ่มชื้นหรือมอยส์เจอไรเซอร์ เช่น
-มอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยเคลือบผิว ป้องกันการระเหยของน้ำ (occlusive) เมื่อทาลงบนผิวจะเคลือบผิวหนัง กั้นไม่ให้น้ำภายในผิวหนังออกสู่ภายนอก จะมีสารพวกปิโตรลาทัม ลาโนลิน อย่างเช่นในผลิตภัณฑ์ Nourishing Gel, Aloe SI
- มอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น โดยการดึงน้ำจากอากาศไว้ที่ผิวหนัง (Humectant) จะมีสารกลีเซอรีน ซอร์บิทอล เช่น ผลิตภัณฑ์ 95 % Fresh Aloe, Aloe SE
-มอยส์เจอไรเซอร์ที่ช่วยการลอกหลุดของเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวนุ่มเนียน (Emollient) มีส่วนผสมของมิเนอรัลออยล์ โจโจ้บาออยล์ เช่น ผลิตภัณฑ์ Aloe SI, Aloe Jo
7. ทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำ เพื่อช่วยให้เชลล์ผิวคงดุลภาพที่ดีอยู๋ได้อย่างยาวนาน ควรจะทาอย่างน้อยวันละสองครั้ง หากแห้งมากเป็นขุย ควรทาซ้ำบ่อยๆ ระหว่างวัน โดยไม่จำเป็นต้องล้างหน้า สามารถทาทับได้เลย
8. การรับประทานอาหารเสริมที่มีแกมม่า ไลโนเลนิค แอสิดหรืออีพีโอ (น้ำมันดอกอีฟนิ่งพริมโรส/ Evening Primrose Oil) อีพีโอ เป็นกรดไขมันที่จำเป็น ช่วยลดอาการผิวแห้งและผิวอักเสบ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น
ถ้ามีอาการคันไม่ควรเกา เพราะจะทำให้ผิวถลอกเกิดการอักเสบติดเชื้อได้
หากมีการดูแลและปฏิบัติตามที่กล่าวมาข้างต้น ผิวก็ยังแห้ง คัน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องและเหมาะสม
ปกป้อง ส่งเสริม ฟื้นฟู และแก้ไขให้ตรงจุด อย่าปล่อยให้ผิวสูญเสียดุลยภาพไปนานๆ เพราะนอกจากจะขาดความสวยงามแล้ว ยังทำให้ผิวไวต่อสิ่งกระตุ้นระคายเคืองได้ง่าย ทั้งยังทำให้ผิวแห้งกร้าน แก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอยเหี่ยวแห้ง หรือริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย เมื่อถึงจุดนั้นจะแก้ไขให้เซลล์ผิวกลับสู่ดุลยภาพ มีสุขภาพผิวที่ดีคงยากยิ่งกว่า
รู้แบบนี้แล้ว สาวๆอย่าลืมทำตามที่บอกนะค่ะ
โดย:
pupum
เวลา:
2013-2-20 01:01
ขอบคุณข้อมูลนะครับ หน้าหนาวผมเป็นประจำเลย อายๆ
โดย:
opal2530
เวลา:
2013-2-20 13:50
ต้นฉบับโพสต์โดย pupum เมื่อ 2013-2-20 01:01
ขอบคุณข้อมูลนะครับ หน้าหนาวผมเป็นประจำเลย อายๆ ...
เปนเหมือนกันแตาเดวนี้เอาอยุ่ค่ะ ^%
ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com/)
Powered by Discuz! X3.2