ดั้งโด่งดอทคอม

ชื่อกระทู้: ถามเรื่องยาแก้อักเสบ [สั่งพิมพ์]

โดย: piinggz    เวลา: 2010-1-16 16:55
ชื่อกระทู้: ถามเรื่องยาแก้อักเสบ
ตอนนี้ยาแก้อักเสบเราหมดแร้วงะ คืออยากจะซื้อยา แต่มันเป็นแคปซูน ที่มีหลายสีมากมาย

จะซื้อมีไหนดีคะ มีทั้ง แดงดำ / ฟ้าๆเขียวๆแก่ๆ

รบกวนทีนะคะ พอดี มันปวดๆ จมูก ระบมๆ เหมือนจะอักเสบ
โดย: nugnig    เวลา: 2010-1-16 17:38
ร้านขายยา บอกว่าซื้อ Amoxycillin 500 mg มีขายที่ร้านขายยาทั่วไปค่ะ
เป็นยาที่ใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียกลุ่มแกรม positive
แต่สีแคปซูลยาแต่ละบริษัทมันอาจไม่เหมือนกันก็ได้นะคะ อย่าจำสีเลยนะคะ ต่อไปจำชื่อยาดีกว่านะตัวเอง
dose ที่่รับประทานตัวเองจำได้อยู่เนอะ 1 เม็ด สามเวลา ก่อนอาหาร
เอ่อโทษนะคะ คือว่าเราคิดว่าถ้ามันอักเสบตัวเองน่าจะกลับไปหาหมอที่ทำให้ดีกว่านะคะ เผื่อมีหนองหรือมีอะไร หมอเค้าจะได้ช่วยดูให้ไงคะ
หายเร็วๆนะจ๊ะ
โดย: piinggz    เวลา: 2010-1-16 17:46
วัน จันทร์นี้กะจะไปหาหมอค่ะ

ถ้ามันมีหนอง หมอเค้าจะทำยังไงอะคะ ดูดหรอคะ

คือจมูกตอนนี้มันบวม เฉย ๆ ยังไม่มีหนองอะคะ แต่กัวมันจะแอบมีอยุ่ข้างในรึป่าว
โดย: Ali    เวลา: 2010-1-16 21:03
หากแอมมอกซิล ที่หมอให้มาหมดแล้ว แนะนำให้ซื้อ CLANOXY กินต่อดีกว่า แอมมอกซิลไม่ควรจะกินติดต่อกันนานเกินไป

แต่หากคิดว่า หมอให้ยาแก้อักเสบ แอมมอกซิลมาน้อยเกิน และต้องการซื้อกินเองต่อ แนะนำให้ซื้อของ Siam Phama  หรือขอ Glaxo ดีกว่าคับ ยาจะดีกว่าของจ้าวอื่น ๆ

ส่วนเรื่องปวด หากยาพาราเอาไม่ไหว หรือกินนานเกินไปแล้ว กินบูเฟน หรือไม่ก็ยาแก้ปวดประจำเดือนไปเลย หายปวดแน่นอน
โดย: nugnig    เวลา: 2010-1-16 22:06
ไม่แน่ใจเหมือนกัน่ะค่ะว่าหมอเค้าจะทำยังไงถ้ามีหนอง
ที่เคยเรียนมาก็ให้ยาแก้อักเสบไปก่อน แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นหรือว่ามันติดเชื้อก็คงได้เอาออกมั้งคะ
แต่ของตัวเองน่าจะไม่ติดเชื้ออะไรหรอก เพราะไม่มีอาการบวม แดง ร้อน หรือมีไข้อะไรใช่ปะ ช่วงนี้คงเป็นเพราะมันยังบวมๆอยู่หลังจากเพิ่งทำเสร็จ อืม ก็ลองสังเกตอาการตัวเองดูนะคะว่ามีความผิดปกติอะไรรึเปล่า ถ้ามีอย่างที่บอกไป(บวม แดง ร้อน มีไข้)ก็ไปหาหมอนะจ๊ะ อย่ารอเลย
โดย: BB.Kub    เวลา: 2010-1-17 11:04
อิอิ..............

ได้ความรู้เยอะเลย..........
โดย: NoToriouz    เวลา: 2010-1-17 15:08
แก้ไขล่าสุด NoToriouz เมื่อ 2010-1-17 15:17

เดี๋ยวๆๆๆ...
ใจเย็นๆกันนะครับ.....


รบกวนอ่านตรงนี้ก่อนนะ...เห็นหลายท่านถามเรื่องยาแก้อักเสบ

อ่านดีๆนะครับ ห้ามสับสน หรือ พยายามไม่ทำความเข้าใจระหว่าง "ยาแก้อักเสบ" "ยาลดอาการอักเสบ" และ "ยาปฏิชีวนะ" นะครับ...
ก่อนอื่น ผมต้องแนะนำคุณ จขกท. ก่อนว่าไม่ควรไปซื้อยากลุ่มพวกนี้ทานเองนะครับ โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ เช่นพวกกลุ่ม -Cilin ต่างๆ ไม่ต้องงนะครับเดี๋ยวผมจะค่อยๆอธิบายนะ

ยาแก้อักเสบ ยาลดอาการอักเสบ และ ยาปฏิชีวนะ บางครั้งมันคือตัวเดียวกันนะแหละครับ แล้วแต่จุดประสงค์ สาเหตุของอาการคนไข้ และความถนัดของแพทย์ผู้สั่งยาให้ ยาพวกนี้ทำหน้าที่ลดการอักเสบของร่างกายเรา ทีนี้ผมจะพยายามอธิบายถึงความแตกต่างของแต่ละกลุ่มรวมถึงความน่าสะพรึงกลัว(เว่อร์ ดีมะ...) ในกรณีที่เราไม่รู้ข้อมูลมากพอและไปซื้อทานเองนะครับ

1.ยาแก้อักเสบ และ ยาลดอาการอักเสบ (nonsteroidal anti-inflamatory drugs) สองคำนี้ หมอมักใช้ในกรณีที่สั่งจ่ายยาในกลุ่มที่ออกฤทธิ์โดยตรงกับ Target และเป็นสารประกอบ Chemical ล้วนๆ บางตัวอาจจะเป็น Natural extract พวกนี้มักมีฤทธิ์เป็นกรดนะครับ สังเกตุได้ง่ายๆว่า จะทานพร้อมมื้ออาหาร ทานหลังอาหารทันที หรือ 10 นาที 30 นาที แล้วแต่ชนิด เพราะว่าถ้าทานก่อนอาหารจะทำให้กระเพาะอาหารอักเสบได้ จุดสังเกตุต่อมาคือ ยาชุดนี้หมอมักจะจ่ายให้ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะทรงไข้หรือไม่ใช่อาการช่วงเริ่มต้น หรือง่ายๆคือ เป็นยาชุดที่ 2 หรือ 3 หลังจากที่มีการได้รับยาลดอาการอักเสบไปแล้วครั้งหนึ่ง (เดี๋ยวผมจะอธิบายต่อให้ครับว่า แล้วไอ้ยาครั้งแรกเป็นพวกไหนนะ...)

2. ยาปฏิชีวนะ (Anti-Bactirial drugs) หรือสังเกตุได้ว่ามักชื่อ Cillin ต่อท้าย แต่เว้นบ้างตัวนะครับ อันนั้นละเอียดไปเน๊อะ... พวกนี้จะเป็นยาที่สกัดจากสารเคมีที่จุลินทรีย์สร้างขึ้นมาเพื่อสู้กับสารพิษที่มาทำลายเซลล์พวกมัน มนุษย์เราเก่งกว่า ครับเอาสารนี้มา covert ได้ยาตัวใหม่ที่จะใช้ทำลาย DNA ของพวกจุลินทรีย์ในร่างกายเราจนมันตายได้ ทีนี้ถ้าเราทานยากลุ่มนี้ไม่ครบที่แพทย์สั่ง หรือ ขาดตอน ทำให้เชื้อมันสามารถสร้างสารเคมีหรือปรับเปลี่ยน DNA(s) ในตัวมันเองจนสามารถต่อต้านยาเราได้ มันก็ไม่ตายแถมยังสามารถสร้างสารมาสู้ยาตัวนั้นได้อีก มันไม่ตาย เราจะตายแทนครับ... หรือที่เรียกกันว่า "เชื้อโรคดื้อยา" ทีนี้ทำไงดี...หมอจะเพิ่มความแรงยาหรือ Dose หรืออาจจะเปลี่ยนเป็นการฉีดยาจนกว่าจะทำลายได้ แต่ถ้าอาการหนักหมอจะเปลี่ยนตัวยาไปเลย แต่กว่าจะหายเราคงโทรมไปล่ะครับ... ยากลุ่มนี้สังเกตุได้ว่า หมอมักจะสั่งให้เป็นยาชุดแรกเมื่อเราเกิดอาการหรือหลังจากที่พบแพทย์เมื่อเจ็บป่วย และมักจะเป็นยาที่ทานก่อนอาหารครับ เพราะว่าไม่มีส่วนประกอบที่เป็นกรดใดๆ ที่ทำลายกระเพาะอาหารได้ แต่บางตัวก็ทานหลังอาหารได้เหมือนกัน ยกตัวอย่างให้นะครับ เช่นพวก ampicillin, penicillin จะทานก่อนอาหาร ส่วน Erythocin ทานก่อนอาหารได้แต่ว่าจะไม่เหมาะกับผู้ที่กระเพาะอาหารอ่อนแอ ดังนั้นทานหลังอาหารดีกว่า อีกกลุ่มที่เราคุ้นเคยมันมากส์นะครับ ก็ amoxycillin ทานได้ทั้งก่อนและหลังอาหารครับ ถามว่าแล้วจะทานตอนไหนดี...ก็บอกว่าได้ทั้งก่อนและหลังไงล่ะครับ ไม่ต้องสนใจว่าคนที่จ่ายยา amoxy ให้เรานั้นจะเขียนให้ทานตอนไหน แต่ผมขอแนะนำว่าทานก่อนดีกว่าครับ ร่างกายเราจะสามารถดูดซึมสารต่างๆได้ดีที่สภาวะกระเพาะอาหารว่างครับ...

ทีนี้ ...อย่างที่บอกนะครับ ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนตัดสินใจเอ่ยชื่อยาสั่งซื้อเองดีกว่านะครับผม ถ้าเกิดไรขึ้นไม่คุ้มกันเลยนะครับ...

Ps. ส่วนชนิดของแคปซูล รูปแบบ สีสรร หรือ บริษัทผู้ผลิต เลือกเอาตามกำลังทรัพย์เลยครับเพราะพวกนี้(น่าจะ)ผ่าน อย. มาหมดและครับ ขอเพียงแต่ว่า เราเลือกชนิดหรือประเภทของตัวยาถูกกับอาการเราเท่านั้นครับที่เป็นหลักสำคัญสุด
โดย: piinggz    เวลา: 2010-1-17 20:18
Ali


ขอบคุนน๊าคะ

เดวจาลอง ซื้อมาทาน เริ่ดๆๆ
โดย: piinggz    เวลา: 2010-1-17 20:20
nugnig


ของนู๋มันแค่บวมเฉยๆ คะ ไม่ได้เปนไข้อารายเรย

สู้ๆๆๆ แต่แบบว่าตอนแรกมันหายบวมละ  แต่มือไปโดนแรง อยู่อะคะ มันเรยบวมมาอีกกก กัวมากกก
โดย: piinggz    เวลา: 2010-1-17 20:30
NoToriouz

ได้ความรู้เยอะ เว้อ
โดย: Mixologist    เวลา: 2010-1-18 08:52
NoToriouz

ได้ความรู้เยอะ เว้อ
ต้นฉบับโพสโดย piinggz เมื่อ 2010-1-17 20:30


ชมหรือต่อว่าคะ แปลกๆ เห็นบ่นๆว่าดื้อยาแล้วนี่คะ ก็ไม่ปฏิบัติตัวตามข้อเท็จจริง ทีนี้ลำบากหน่อยนะคะ
^^
โดย: tsuke    เวลา: 2010-1-18 11:33
เข้ามาอ่านหระดับความรู้ คริคริ
โดย: BB.Kub    เวลา: 2010-1-18 12:50
เดี๋ยวๆๆๆ...
ใจเย็นๆกันนะครับ.....

รบกวนอ่านตรงนี้ก่อนนะ...เห็นหลายท่านถามเรื่องยาแก้อักเสบ

อ่านดีๆนะครับ  ...
ต้นฉบับโพสโดย NoToriouz เมื่อ 2010-1-17 15:08

เภสัชกรประจำเวปคับ..............

อิอิ..............
โดย: piinggz    เวลา: 2010-1-18 15:47
Mixologist

ชมหรือต่อว่าคะ แปลกๆ เห็นบ่นๆว่าดื้อยาแล้วนี่คะ ก็ไม่ปฏิบัติตัวตามข้อเท็จจริง ทีนี้ลำบากหน่อยนะคะ
^^



- ดูยังไงหรอ ถึงคิดว่าเราต่อว่า อ่านยังไงอะ เพี๊ยนละ
โดย: NoToriouz    เวลา: 2010-1-19 19:43
เภสัชกรประจำเวปคับ..............

อิอิ..............
ต้นฉบับโพสโดย BB.Kub เมื่อ 2010-1-18 12:50



เหอะๆ...ขนาดนั้นเลยหรา...
โดย: NoToriouz    เวลา: 2010-1-19 19:50
แก้ไขล่าสุด NoToriouz เมื่อ 2010-1-19 19:53
- ดูยังไงหรอ ถึงคิดว่าเราต่อว่า อ่านยังไงอะ เพี๊ยนละ
ต้นฉบับโพสโดย piinggz เมื่อ 2010-1-18 15:47


เวลาใครเค้ามาคอมเม้นต์ก็...ใช้คำที่อ่านง่ายๆ จะได้สื่อสารกันไม่ผิดนะครับ จขกท.
ผมก็ว่าแปลกๆ แต่ไม่เป็นไรครับ ทุกอย่างเป็นวิทยาทานครับ เห็นว่าตั้งกระทู้ขึ้นมาใหม่อีกอันว่าดื้อยาแล้วนี่ครับ...

สู้ๆล่ะ ครับ ก้แค่เชื้อโรคมี Sub species อีกเยอะ...แต่ตัวยาต้านอ่ะ มีน้อยน่ะครับ ^^

โดย: phurada    เวลา: 2010-1-19 20:30
ต้องขอบคุณ คุณNoToriouz  มากเลย
เพราะอ่านเจอในหลายกระทู้ มีข้อมูลดีๆ
มาให้อ่านตลอด :)
โดย: piinggz    เวลา: 2010-1-19 22:34
NoToriouz


ขอบคุนอีกคนคะ

คอนนี้หายดีแว้ว คะพี่ เพราะพี่นู๋ถึงหาย
โดย: piinggz    เวลา: 2010-1-19 22:36
Mixologist

ชมหรือต่อว่าคะ แปลกๆ เห็นบ่นๆว่าดื้อยาแล้วนี่คะ ก็ไม่ปฏิบัติตัวตามข้อเท็จจริง ทีนี้ลำบากหน่อยนะคะ
^^




** ที่นู๋พิมว่า ได้ความรู้เยอะ เว้อ   คือ ได้ความรู้มาก อะ คะ  เว้อ แบบ โอเว้อ อะ คะ

คิดอะไร มากมายหรอคะ
โดย: piinggz    เวลา: 2010-1-19 22:39
คือแบบ ได้วามรู้เยอะ อ่ะคะ

ทำไมถึงคิดว่านู๋ ต่อ ว่า งะ งง พี่คนบนนู้นนนน

ได้ความรู้เยอะ เว้อ  ไม่ใช่เว้อแบบว่า.. เว้อไปมั้ย ไรงี้นะ  พี่คิดว่านู๋หมายถึง เว้อไปมั้ย อะไรแบบนี้ แน่เรยใช่มั้ยคะ

ความหมายนู่คือ เว้อ แบบ เยอะ มากก ได้ความรู้ อะไรแบบนี้อะคะ

ถ้านู๋ทามให้พี่เข้าใจผิดขอโทดด้วยนะคะ

^^
โดย: NoToriouz    เวลา: 2010-1-20 00:14
จ้า... ดีแล้วที่อาการโอเคนะครับ ไงก็ดูแลตัวเองนะครับ มีอะไร สงสัยหรือไม่เข้าใจ PM ได้ตลอดครับ

cheer!
โดย: konsurin    เวลา: 2010-1-20 02:25
ได้ความรู้อีก1ข้อ อ้าววเก็บไว้อิอิ
โดย: BB.Kub    เวลา: 2010-1-20 10:25
เหอะๆ...ขนาดนั้นเลยหรา...
ต้นฉบับโพสโดย NoToriouz เมื่อ 2010-1-19 19:43

บีก็ได้ความรู้จากคุณNoToriouz...........

ในหลายๆกระทู้ไปเยอะอะคับ^^.............




ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com/) Powered by Discuz! X3.2