ดั้งโด่งดอทคอม

ชื่อกระทู้: ทำไงดี เมื่อตรงนั้นของแฟนเหม็น [สั่งพิมพ์]

โดย: fanta    เวลา: 2009-12-4 21:47
ชื่อกระทู้: ทำไงดี เมื่อตรงนั้นของแฟนเหม็น
คือ เรื่องของเรื่อง มีแฟน แต่ทำไมตรงนั้นเหม็นจังเลย
เคยอ่านมาบ้างว่าให้ใช้น้ำส้มสายชูละลายน้ำอ่อน
แล้วให้ขมิบ แล้วปล่อย ทำประมาณ 1 อาทิตย์ แล้ว
จะหายไป จริงป่าวอ่ะ

อีกอย่างถ้าเป็นเรื่องจริง แล้วจะบอกแฟนยังไงดี

ชาวดั้งโด่งช่วยด้วย!!!!!!!!!!!
โดย: golfzabb    เวลา: 2009-12-4 22:01
รอลุงมาตอบคราฟฟ อิอิ
โดย: fanta    เวลา: 2009-12-4 22:05
แฟนเปน หญิง คับ
โดย: king_sun    เวลา: 2009-12-4 22:08
เอ่อ..ซื้อแลกตาซิทให้เป็นของขวัญครับ ไม่ต้องบอกทำขนาดนั้นหรอก
ลุงว่าเตือนเบาๆ ด้วยการซื้อของพวกนี้ให้ ไม่ก็แบบไปช๊อปปิ้งด้วยกัน
แล้วหยิบเฉยๆ เนียนๆ ไปเขาก็ฉุกคิดได้ล่ะ ผู้หญิงคิดมากจะตาย...
โดย: fanta    เวลา: 2009-12-4 22:26
มีคับ ใช้หลายยี่ห้อด้วย คัฟ
มันก็ยังไม่หายเหม็นอีก
ตอนแรกอยากจะเลิกทำเหมือนกันคับ
เพราะพอไล่ลงต่ำแล้ว ไม่ทำกลัวเสียฟอร์ม
เลยกลั้นใจทำ  เหมือนจะอ๊วก
แต่ รักคับ  สวยอีกต่างหาก  ยิ่งกว่านั้น  เขาทำให้ผม เด็ดสุดยอด เลยคับ

แต่ ของเธอนั้นเหม็น  เหลือจะสุดทน หรือว่า เอาวิคซอลพิ้งดี (ล้อเล่นคับ)
ขอบคุณพี่ตั้มมากนะคับ
โดย: HongRim    เวลา: 2009-12-4 22:32
แร็ง......
โดย: M...    เวลา: 2009-12-4 22:35
แต่ ของเธอนั้นเหม็น  เหลือจะสุดทน หรือว่า เอาวิคซอลพิ้งดี (ล้อเล่นคับ)
ต้นฉบับโพสโดย fanta เมื่อ 2009-12-4 22:26



แรงมากขนาดถึงขั้นนี้
โดย: POST-IT    เวลา: 2009-12-4 22:38
ลุง รู้เรื่องข้างหน้าด้วยเหยอ  นึกว่าชอบแต่แทงข้างหลังทะลุถึงหัวจาย คริคริ แล้วถ้าปิกาจู้เหม็นละทงัยค้าพลุง
โดย: ton404    เวลา: 2009-12-4 22:47
55555+


....................
โดย: BOBBY    เวลา: 2009-12-4 23:18
ฮ่าๆๆ ม่ายไหวจะเคลียร์

อารมณ์สะดุดเลย
อิ อิ
โดย: BOBBY    เวลา: 2009-12-4 23:19
ถามนิดนึงครับ กลิ่นเป็นแบบไหนเหรอครับ
อยากรู้อ่าครับ
ฮ่าๆๆๆ
โดย: nanvaris    เวลา: 2009-12-4 23:26
อิอิ เข้ามาอ่าน

สงสัยต้องตั้งห้องพิเศษ

เพศศึกษาน่ารู้
โดย: รัชนก    เวลา: 2009-12-5 00:29
เข้ามาดูว่าผู้ชายคุยอะไรกัน ... อืม อึดอัดใจแทนเลยนะเนี่ย ที่ไม่กล้าบอกแฟนตรงๆ...จิงๆถ้าเหม็นขนาดนั้นเจ้าตัวเค้าไม่รู้ตัวเลยเหรอ   ....ยิ่งเรื่องสุขอนามัยส่วนตัว ยิ่งละเลยไม่ได้ใหญ่เลย อาจเกิดเชื้อราหรือการอักเสบติดเชื้อภายใน ต่อให้ล้างๆๆยังไงก้อเอาไม่อยู่ อิอิ จริงๆ ถ้าบอกเค้าตรงๆเค้าคงไม่ต่อยหน้าแหกหรอกม้างงง ก้อแฟนกันง่ะ  ถ้าไม่กล้าบอก สงสัยต้องทนกันไปอีกนานนน   ....
โดย: rpcederic    เวลา: 2009-12-5 00:37
บอกตรงๆคับ แฟนกัน แชร์กันทุกเรื่่อง แต่ให้บอกแบบซอฟๆแล้วกัน
โดย: Ubi    เวลา: 2009-12-5 01:15
เราว่าน่าจะหาเทคนิกการบอกให้ดี
ให้เหมาะสมกับโอกาส เวลา และคำพูดที่ต้องคิดให้เค้าเชื่อว่าเราแคร์ เราหวังดี
ผู้หญิงน่าจะเข้าใจนะคะเราว่า หากพูดอย่างจริงจัง จริงใจ และแสดงออกว่ารัก
โดย: MAAN    เวลา: 2009-12-5 02:18
เราว่านะยิ่งหยิบแลคตาสิคเนียนๆเนี้ยเค้ายิ่งคิดเลยอ่ะนะแต่เราว่านะถ้าเหม็นขนาดนั้นเค้าน่าจะรู้ตัวนะคะแล้วตงนั้นมันสำคัญสำหรับผุหญิงด้วยอ่ะค่ะแต่เราว่าน้ำส้มสายชูมันจะโหดร้ายต่อน้องสาวไปรึเปล่าอืมขอถามอีกนิสนะค่ะแฟนใช่แผ่นอนามัยรึเปล่าถ้าใช้สาเหตุการทำให้เหม็นน่าจะมาจากไอ้นี่เพราะมันทำให้อับค่ะแต่ถ้าไม่ใช่อาจจะมาจากยาคุมที่ให้ฮอร์โมนสูงเกินไปเลยทำให้มีตกขาวค่ะมันจะทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ค่า
โดย: srantorn    เวลา: 2009-12-5 02:46
พี่ว่า ควรจะหาโอกาสบอกแฟน  แล้วให้แฟนไปหาหมอนะ  (ไปหาหมอที่เป็น ผู้ ญ จะได้ไม่อายมาก)
อาจจะเป็นพวกเชื้อราที่เรามองไม่เห็น   บอกแฟนไม่ต้องอายหมอ เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี  
แต่น้องอย่าไปบอกแฟนนะว่า เทอๆ ของเทอตรงนั้นมันเหม็ํนอะ  (อันนี้แรงมากๆ)
เดี๋ยวแฟนน้องจะคิดมาก   เลี่ยงใช้คำว่าเหม็น  เป็น มีกลิ่นจะดูโอเคกว่านะ

เอาใจช่วยนะจ้ะ
โดย: YoungKorn    เวลา: 2009-12-5 02:59
เอ...เหมือนจะเคยอ่านเจอว่าปกติแต่ละคนก็จะมีกลิ่นเฉพาะ ที่แตกต่างกันออกไป คล้ายๆ กับกลิ่นตัวรักแร้อ่ะเนาะ บางคนก็อาจมีกลิ่นมากไปนิดส์นึง บางคนก็มีกลิ่นอ่อนๆ พอกระตุ้นอารมณ์ เราจะไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งหมดทีเดียว คือไม่ให้มีกลิ่นเลยคงยากอะไรทำนองนั้นอ่ะครับ แต่ว่าหาอะไรมาช่วยบรรเทาน่าจะดีกว่า ตัวอย่างเช่น ใช้มือแทนหน้าตัวเอง เป็นต้น ส่วนหน้าก็ขลุกอยู่กับช่วงบนในขณะที่มือก็ทำงานไป ดีกว่าไหมครับ แฟนคงไม่ลุกขึ้นมาถามหรอก ว่าเมื่อใหร่จะเอาหน้าลงไปซักทีอ่ะ 555 พอได้จังหวะทีนี้ก็ของจริงเลย {:13_945:}

เอ๊ะ! แต่จะว่าไป หรือว่าสาเหตุที่เอาเชื้อราไปติดเค้า เพราะตัว จขกท เองไม่รักษาความสะอาดของตัวเองกันแน่อ่ะ อันนี้อาจะเป็นสาเหตุได้นะครับ {:13_924:}
โดย: king_sun    เวลา: 2009-12-5 09:48
เออ ว่าไปให้ผู้หญิงตอบก้คงจะดี และเข้าใจความรู้สึกกันมากกว่านะ ..
ลุงยอมพ้ เพราะไม่เคยเจอ อิอิ
โดย: fanta    เวลา: 2009-12-5 20:18
เหมือนเดิมคับ
หลังจากเมื่อคืน
ผมกับแฟนก็มีไรกัน
ผมก็ทำเหมือนเดิม
กลิ่นเดิม
ตอนแรกกะว่าจะไม่ทำแล้ว
แต่แฟนบอกว่า ถ้าผมไม่ทำให้
เธอก็จะไม่ทำให้ผมเช่นกัน
ผมเลยต้องยอม
ปล.ผมผ่านผู้หญิงมาเยอะ แต่เธอทำออรัลให้ผม สุดยอดที่สุด ผมเลยต้องยอม
ผมผิดป่าวคับ
โดย: khaoplao    เวลา: 2009-12-5 22:54
ลองวิธีนี้ดีมั้ยอ่า คือเรามีเพื่อนผู้ชายคนนึงเจอปัญหาแบบนี้แหละ
แล้วมาปึกษาเราเพราะเป็นเพื่อนสนิทกัน เราบอกเพื่อนว่าหลังจาก
ที่มีไรกันเรียบร้อยแล้วให้พูดกับเธอทันทีเลย แต่ต้องใช้น้ำเสียงนิ่ม
นวลออกไปทางเป็นห่วงอ่ะว่า "ตะเองวันนี้ทำไมมีกลิ่นอ่ะประจำเดือน
จะมาหรือเปล่า"  คือพยายามพูดให้ฟังดูเป็นเรื่องธรรมดาอ่ะ หลังจาก
วันนั้นถ้ามีไรกันอีกก็แกล้งพูดไปอีกว่าเธอต้องผิดปกติแน่ๆเลย พูดย้ำ
แบบนี้2-3ครั้งรับรองว่าเธอต้องรีบไปหาหมอแน่ๆ
โดย: รัชนก    เวลา: 2009-12-6 10:25
ชวนกันไปหาหมอทั้ง 2 คนจะดีที่สุด ถ้าเกิดมีอะไรผิดปกติ รักษาอยู่ฝ่ายเดียวมันก้อไม่หายขาดซะทีเน้อ เพราะว่ายัง xxx กันอยู่ .... จะตกลง จะคุยกันแบบไหน ก้อแล้วแต่ท่านแล้วล่ะก๊าบบบ take good care of yourself na kha ..
โดย: Ferocious_Angel    เวลา: 2009-12-6 10:46
กึ๊ยๆๆๆเข้ามาแอบอ่าน 555+
โดย: golfzabbb    เวลา: 2009-12-6 10:52
ไม่รู้อ่า ตอนนี้ยังไม่มี แต่นัดหมอละ ถ้าแปลงแล้วมีกลิ่นจะกลับมาตอบนะ O_o
โดย: M...    เวลา: 2009-12-6 10:56
แก้ไขล่าสุด M... เมื่อ 2009-12-6 10:58

งั้นลองใช้แ่ผ่นรองออรัลเซ็กดูรู้สึกจะมีหลายกลิ่นนะ เป็นแผ่นรองออรัลจะมีลักษณะเป็นแผ่นบางๆ เหมือนกับถุงยางอนามัยแต่จะมีลักษณะเป็นแผ่นเพื่อใช้วางที่อวัยวะเพศหญิง เท่านี้คุณก็สามารถใช้ปากและลิ้นกับฝ่ายหญิงได้ด้วยความปลอดภัยแล้วครับ  ความรู้สึกมันก็ไกล้เคียงกันนะ  ยิ่งกลิ่นขนาดนี้แล้วเค้าอาจจะมีเชื้อราหรืออะไรสักอย่าง ถ้าเราไปสัมผัสโดยตรงเราอาจจะได้รับเชื้อได้ หลังจากทำออรัลเซ็กซ์ ก็ควรทำความสะอาดช่องปากให้สะอาด

ทางที่ดีแล้วควรใครแฟนไปตรวจช่องครอดกับหมอจะดีกว่าว่าเป็นอะไรนะคับ
โดย: NoToriouz    เวลา: 2009-12-6 12:02
แก้ไขล่าสุด NoToriouz เมื่อ 2009-12-6 12:40

แนะนำนะครับ...กลิ่นพวกนี้มาจากเชื้อราที่ทุกๆท่านทราบแหละครับ

เป็นพวก Candida อ่ะครับ ถ้ามีมากหรือสะสม จนกรดในช่องคลอดไม่สามารถฆ่าหรือทำลายโดยสภาวะปกติได้หมด ก็จะผลิตของเสียออกมาเหมือนสิ่งมีชีวิตอื่นนี่แหละครับ ไอ้ของเสียนี่แหละมันเกิดการ Ferment หรือหมัก(หมม)จนเกิดกลิ่นไม่ดีออกมา ทางแก้ ถ้าใช้ Lactacid หรือผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้ทำความสะอาดก็เอาไม่อยู่ครับ ดีไม่ดี ยิ่งทำให้สภาพความสมดุลหรือ Balance ในช่องคลอดเสียไป เชื้อโรคอื่นๆ เข้าไปแล้จะติดเชื้อได้ง่ายขึ้นอีกด้วยรวมทั้ง Sperm ของฝ่ายชายถ้าไม่มีการใช้ถุงและคิดว่าจะหลั่งภายนอกได้ทัน ท่านคิดผิดเลยเพราะโดยปกติร่างกายพอใกล้ถึงฝั่งจะมีระบบ Auto Discharge แรกออกมาทำให้ลูกน้อยๆของคุณหลุดออกมาแต่ไม่มากพอที่จะเข้าสู่ไข่ของฝ่ายหญิงได้เพราะอะไร?...เพราะว่าช่องคลอดฝ่ายหญิงมีค่าความเป็นกรดภายในและสามารถฆ่า Sperm ได้หมด 99% แต่ถ้าไม่มีกรดเหลือพอ ท้องแน่ๆครับถ้าบังเอิญไข่สุกและไม่มีการทานยาคุมพอดี ถึงไม่แนะนำให้แค่ล้าง ล้าง ล้าง ด้วยสารชะล้างเท่านั้น ไม่ใช่การแก้ปัญหาครับพี่น้อง อีกอย่างเรื่องการติดเชื้ออื่นๆจากภายนอกโดยเฉพาะเชื้อแบคทีเรียอ่อนๆที่มากับอาวุธของฝ่ายชาย พวกStaphylococcus ที่ก่อให้เกิดอาการท้องเสียรุนแรงได้ (เอ๊ะ แล้วเราไม่ได้กินจะท้องเสียได้ไง น่าคิด...แต่ท่านผู้หญิงจับมันไงครับและก็ลืมล้างมือไปกินขนมช่วงพักยกและเห็นว่ามีการออรัลด้วยนี่นา...ไม่รอดครับ) รวมทั้ง Neisseria gonorrhea ที่ก่อโรคหนองใน ไม่ต้องขมวดคิ้วนะครับ ผมทราบว่าคุณ Fanta ไม่ได้เป็นและสะอาดพอ แต่เพราะว่าเชื้อพวกนี้มันมีในอากาศทั่วไปแต่ไม่แข็งแรงจนกว่าจะเกิดการหมักหมมหรือขาดการทำความสะอาดจนมันมีแหล่งอาหารที่เจริญเติบโตและสร้างปัญหาได้ อีกตัวที่น่ากลัวถ้าผมจำไม่ผิดคือ Chlamydia trachomatis (ถ้าเขียนไม่ถูกอภัยด้วยน้า...) ที่มาจากอาวุธฝ่ายชายเช่นกัน ตัวนี้ร้ายมาก มะเร็งปากมดลูกอย่างเดียวเลยครับ ตามด้วยเยื่อบุตาอักเสบกับปอดบมแทรกซ้อนได้(เชื้อตัวนีทางทวารก็มีการติดนะครับ...กลุ่มเฉพาะก็ทำความสะอาดอาวุธดีๆน้า) ดูน่ากลัวพอยังครับ ไม่ใช่เรื่องสนุกเลยนะครับคุณ Fanta... ดังนั้นควรไปพบแพทย์ดีที่สุดครับ

หมอสูติจะให้ใช้ยาเหน็บช่องคลอดเพื่อฆ่าเชื้อในช่องคลอดรวมทั้งปากช่องคลอดด้วย ช่วงนี้ถ้าจำไม่ผิดหมอจะสั่งห้ามสนุกกันอย่างน้อย 2-3 วัน อีกแบบคือยาสำหรับทานเพื่อฆ่าเชื้อ ต้องยอมรับนะครับพวกนี้เป็นรา ราจะมีสปอร์ทุกท่านที่มีความรู้ด้านจุลชีวะจะทราบดีว่าพวกมันถูกลำลายยากมาก (ให้พี่ๆน้องๆ คิดถึงกลากเกลื้อนอ่ะครับ นานมากกว่าจะหาย...มันเกิดจากพวกราเหมือนกันจ้า) ดังนั้นจะต้องทานยาเม็ดใหญ่และหลายขนานแน่ๆ แต่สุดท้ายก็จะหายเป็นปกติครับ

สิ่งอันตรายที่อาจจะเกิดถ้าคุณ Fanta ไม่ยอมพาแฟนไปพบหมอละก็...บอกเธอไว้เลยครับว่า เชื้อพวกนั้นจะเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกในอนาคตครับ อีกทั้งถ้าคุณยังขึนมัวใช้แต่ Cleansing product ละก็ อย่างที่ผมบอกครับ ช่องคลอดแฟนคุณจะสะอาดมากกกกส์ จนเชื้อโรคอื่นเข้าไปได้ง่ายมาก โดยเฉพาะ ไวรัส ...ตัวการของการเกิดมะเร็งร้าย อีกตัวเลยทีเดียว หรือ พื้นๆก็อาจจะเป็นชอคโกแลตซีด หรือ ซีดอื่นๆ (สาวๆรู้จักดีเน๊อะ...)

เกือบลืมไปครับ... Candida ที่พูดถึงตอนต้นข้อความน่ะ ไม่หายหมดจากคุณผู้หญิงไปไหนหรอกนะครับ มันมีในอากาศและทั่วไป แต่ไม่ต้องห่วงครับ รักษา Balance ในช่องคลอดให้ดีครับ (ทำอย่างไรได้บ้าง ปรึกษาหมอครับ) อีกอย่างลืมยังครับที่พบบอกว่ามันเป็นรา รามีสปอร์ สปอร์คือ...ง่ายๆก็ละอองมันแล้วกัน ดังนั้นมันปลิวละล่องๆ ไปเรื่อยจนกว่าจะเจอที่ยึดเกาะ สถานที่ที่สำคัญคือ กกน. แน่นอนครับ มันไม่ไปไหนง่ายๆฝังลึกกับเนื้อผ้าได้ดี ดังนั้นทำความสะอาดอย่างเข้มงวดบ้างนะครับถ้ามีโอกาศโดยการแช่ใน เดทตอล หรือ น้ำยาฆ่าเชื้อเสื้อผ้าทั่วๆไป และตากในที่โล่ง ลมโกรก หรือแดดจัดๆ และสำคัญที่สุด ก่อนเก็บเข้าตู้เสื้อผ้าและก่อนใส่ ออกแรงนิดครับ...สะบัดๆๆ สลัดๆๆๆ หน่อยครับ... (ถ้าเป็นผม จะทิ้งหใหมดแล้วซื้อใหม่ เริ่มปรับพฤติกรรมใหม่เลยดีก่า)

เอาซะเยอะจนรกเลย...ขอโทษทีครับ พอดีรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆน่ะครับ จริงๆ

:: แชร์ความรู้กันครับ...ผมก็รู้แค่นี้ เท่าที่เรียนมาครับ
^^

โดย: tonmai    เวลา: 2009-12-6 13:27
จขกท ..คงจะลำบากใจน่าดู
โดย: smirnoff_0    เวลา: 2009-12-6 22:09
กระทู้ นี้ อ่านแล้ว แอบฮา
โดย: nongnu111    เวลา: 2009-12-6 22:45
แอบมาอ่านน

ได้ความรู้ด้วยค่า
โดย: srantorn    เวลา: 2009-12-6 23:31
ถ้า แฟน จขกท ไม่กล้าไปหาหมอ พี่ว่าลองไปปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาในเบื้องต้นก่อนก้ได้
แต่ถ้าไม่หาย ควรจะไปหาหมออย่างยิ่งนะจ้ะ
โดย: yaya2534    เวลา: 2009-12-7 11:28
เข้ามาเจอสะดุดหัวข้อ
เลยมาอ่าน
น่าเห็นใจค่ะ
ยา ว่าน่าจาบอกตรงๆน่าค่ะ แต่พูดประมาณว่า
ออ ทำไมมันมีกลิ่นอะ(ทำหน้างงๆด้วย)
ตอนไปฉี่ได้ล้างอะเปล่าเนี่ยย(หน้างงอีกที แสดงความไร้เดียงสา 55+)
โดย: king_sun    เวลา: 2009-12-7 11:38
นี่ มีความรู้นะจะบอกให้...
โดย: Mil2acLe    เวลา: 2009-12-7 11:40
คงต้องหาหมออย่างเดวอ่ะคะ
โดย: neung975    เวลา: 2009-12-7 12:30
หาหมอครับ ปล่อยไว้นานๆไม่ดีนะ

เหมื่อนเรามีปัญหาเกี่ยวกับช่องปากล่ะ ถ้ามีกลิ่นปากผิดปกติก็สังเกตุได้ว่าจะมีปัญหาในช่องปากตามมา

แต่ถ้าตรงนั้นมีกลิ่น ไม่นานก็จะมีปัญหาในนั้นตามมา อิอิ
โดย: fanta    เวลา: 2009-12-7 18:42
ผมจะบอกแล้วคับ แต่ ไม่กล้า!!!!!!!!!!!!

ผมไม่ได้ทะลึ่งน้า.......

วันนี้ผมกับแฟน เรามีไรกันอีก

แต่วันนี้แฟนทำอีกท่านึงคือให้ผม

อยู่ด้านล่างแล้วเธอนั่งยอง ๆ บนหน้าผม

ให้ผมเลียของเธอซะนานเชียว

ผมคงคุ้นเคยกับกลิ่นนี้แล้วกระมังคับ

เธอทำหน้าพอใจและมีความสุขมาก

ผมก็เลยคิดว่าปล่อยไว้อย่างนี้ดีกว่า

เพื่อน ๆ ว่าดีไหมคับ
โดย: M...    เวลา: 2009-12-7 19:02
แก้ไขล่าสุด M... เมื่อ 2009-12-7 19:04
ผมจะบอกแล้วคับ แต่ ไม่กล้า!!!!!!!!!!!!

ผมไม่ได้ทะลึ่งน้า.......

วันนี้ผมกับแฟน เรามีไรกันอีก

แต่วันนี้แฟนทำอีกท ...
ต้นฉบับโพสโดย fanta เมื่อ 2009-12-7 18:42



ไม่ส่งผลดีทั้ง 2 คนนะ ควรจะบอกความจิง ให้เค้าไปหาหมอเช็คดีกว่านะ
โดย: NoToriouz    เวลา: 2009-12-7 19:41
Fanta คงไม่ได้อ่านที่ผมโพสสินะ...

...แล้วแต่นะครับ ไม่ใช่จิ๋มผม

โดย: HongRim    เวลา: 2009-12-7 21:14
Fanta คงไม่ได้อ่านที่ผมโพสสินะ...

...แล้วแต่นะครับ ไม่ใช่จิ๋มผม
ต้นฉบับโพสโดย NoToriouz เมื่อ 2009-12-7 19:41

555555555555555
โดย: tamaji    เวลา: 2009-12-8 00:49
สงสัยไม่เดือดร้อนแล้วมั้งคะ ฮ่า ๆ ๆ

ดูท่าทางจะไม่ได้รับความเห็นจากคนที่มาตอบเลย

ยังไงจะสนุกกัน ก้อขอให้ปลอดภัยไว้ก่อนนะคะ

ด้วยความปราถนาดีคร้า
โดย: nookyka    เวลา: 2009-12-8 01:20
แหะๆๆ อารายเนี่ย
โดย: sakuyah    เวลา: 2009-12-8 13:23
ง่า >//<
โดย: tannsugar    เวลา: 2009-12-9 10:25
อันที่จิงแล้วเรื่องกลิ่นอับผู้หญิงมีกันทุกคนนะยิ่งช่วงประจำเดือนแล้วก็..ก่อนมีไรกันอาบน้ำก่อนอ่ะเป่า...เคยกังวลอยู่บ่อยๆนะเวลาที่มีไรกะแฟนอือ...(เชื่อป่ะขนาดอาบน้ำล้างอย่างดีแล้วตัวเราเองยังมีความรู้สึกอับๆเลยต้องคอยวิ่งเข้าห้องน้ำหลายรอบ
กว่าจะมั่นใจอิอิ...แฟนคุณอาจมีปัญหาทางช่องคลอดก้ได้นะลองสังเกตดูว่ากลิ่นนั่นมาจากไหนถ้าจะบอกเค้าตรงๆนะอย่าเลยเพราะเค้าต้องอายดีไม่ดีเค้าจะไม่ยอมมีไรด้วยน้า...เอางี้สิอาบน้ำด้วยกันแล้วลองทำให้ในห้องน้ำจะได้ไม่เหม็นไง๊
โดย: Girly    เวลา: 2009-12-9 10:51
แนะนำนะครับ...กลิ่นพวกนี้มาจากเชื้อราที่ทุกๆท่านทราบแหละครับ

เป็นพวก Candida อ่ะครับ ถ้ามีมากหรือสะสม จนกรด ...
ต้นฉบับโพสโดย NoToriouz เมื่อ 2009-12-6 12:02


ความรู้แน่นปึ้กเลยค่ะ

ขอมาเสริมนิดนะคะ

บางทีการมีกลิ่นจากช่องคลอดของผู้หญฺงนั้นอาจมีอีกสาเหตุนึง นั่นคือ ... "เนื้องอก"ค่ะ

ก้อนเนื้องอกเนี่ยแหละค่ะตัวดีเลย เพราะเวลามันเจริญเติบโตนั้น มันจะโตอย่างรวดเร็วมาก จนเลือดสร้างหลอดเลือดไปเลี้ยงไม่ทัน พอไม่ทันเนื้อก็เกิดการตาย และเน่าได้ในที่สุด บางทีก้อนเนื้องอกนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นก้อนอกมาให้เราเห็นหรอกนะคะ มันจะแทรกไปตามเนื้อปกติของเรา จนไม่อาจจะทราบได้

เนื้องอกบางอย่างมันจะไม่แสดงอาการออกมาให้เห็นค่ะ ผู้หญิงโดยส่วนมากแล้วที่เป็นมักจะพบตอนไปตรวจภายใน ถึงได้รู้ว่าตัวเองเป็นค่ะ เคยได้ยินโฆษณาที่ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกกันใช่มั๊ยคะ นั่นแหละค่ะ กว่าจะรู้ตัวก็สายแล้ว

ส่วนเรื่องเชื้อรา ตามที่คุณ NoToriouz เขียนไว้นั่นแหละค่ะ ก็เป็นอีกสาเหตุนึงที่สำคัญของผู้หญิงส่วนมากค่ะ เพราะอวัยวะเพศของเรามันอ่อนแอนะคะ ไม่ค่อยทนต่อความไม่สมดุล การใช้สบู่ฟอกก็อาจทำให้ normal flora ของเรามันตายแล้วติดเชื้ออื่นๆได้ง่ายขึ้น

ส่วนอีกปัญหาที่พบบ่อยๆคือ คุณผู้หญิงเวลาเข้าห้องน้ำค่ะ ถ้าใช้ทิชชูกัน ก็มักจะเช็ดจากก้นย้อนเข้ามาใช่มั๊ยคะ นั่นแหละค่ะ มันจะนำพาเชื้อโรคที่ในระบบทางเดินอาหาร ตัวสำคัญคือ E.coli (normal flora) ในกระเพาะเราเนี่ยแหละค่ะ ตัวดีเลย รักษายาก ดื้อยาสุดๆ อย่าชะล่าใจว่าเราล้างก้นของเราสะอาดเพียงพอแล้วนะคะ เพราะแบคทีเรียพวกนี้มันฉลาดค่ะ มันซุกซ่อนได้

ดังนั้นแนะนำสำหรับผู้หญิงทุกคนนะคะ เวลาเช็ดให้ใช้วิธีซับจากข้างหน้าไปข้างหลังค่ะ อย่าปาด มันติดเชื้อได้แน่ๆค่ะ ยิ่งถ้าช่วงร่างกายเราอ่อนแอ จะมีโอกาสมากขึ้น

^^
โดย: cameronn    เวลา: 2009-12-9 11:41
อ่านมาหลายแรป
แนะนำหาหมอค่ะ
ทั้งคู่เลย
เพราะถึงแฟน(ญ) หาหมอแล้ว แก้ไขแล้ว แต่ไม่หาย
แสดงว่าคุณแฟน(ช) เป็นต้นเหตุนะค่ะ
เพราะเราเวลาเรามีอะไรกับแฟน ช่วงไหนไม่มี ตรงนั้น เราจะไม่มีกลิ่นอับค่ะ
แต่เวลาวันไหนที่เรามีอะไรกับแฟน ล้างก็แล้ว อะไรก็แล้ว จะมีกลิ่นออกมาค่ะ
อยากให้แนะนำไปตรวจทั้งคู่ค่ะ เผื่อจะเป็นเชื้อรา ไรเงี้ย

ปล.เมื่อก่อนแฟนเราเค้าไม่ค่อยชอบล้าง ไม่รู้ว่าขี้เกียจอะไร
เด๋วนี้ต้องบังคับ อยากมีก็ต้องล้างก่อน ก็ทำให้ปัญหาเรื่องกลิ่นกับความสะอาด ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ

(พิมพ์เหมือนตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์พวกน้ำยาล้างช่องคลอดไปซะแร้ว ==")
โดย: bigbos    เวลา: 2009-12-9 13:39
ไปพบสูติด่วนนะคะ  เพราะเราเองก็มีแฟนแต่จะตรวจภายในทุกปี ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอก  แต่ตรวจเพื่อเป็นการป้องกันไว้  ตรวจรังไข่  ตรวจมะเร็ง  เอาเป็นว่าตรวจหมดเลย  ถ้ามีอะไรผิดปกติหมอก็จะบอก  ไม่ต้องกลัวเลย บางทีเคยถามหมอว่าบางเดือนก่อน+หลังประจำเดือนมาจะรู้สึกเหมือนมีกลิ่นอ่อนๆแต่มันไม่ใช่กลิ่นที่ปกติ หมอบอกว่าไม่เป็นไร  เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว  แต่ถ้ากลิ่นมันแรงมากจะต้องพบหมอเพื่อตรวจภายใน  เพราะข้างในอาจมีการติดเชื้อ  ถ้าปล่อยไว้นานจะเป็นมากขึ้น  และถ้านานเกินไปแบบกลิ่นแรงขึ้นมากๆๆอีก จะเป็นอันตรายอย่างมาก...เอาเป็นว่าเราเป็นห่วง......รีบไปหาหมอเร็วๆๆเลยนะคะ
โดย: นัทชา    เวลา: 2009-12-9 15:09
ถ้าเป็นอย่างงั้น.....มีวิธีง่ายๆค่ะและได้ผลดีด้วยค่ะ

มาแก่ปัญหาเฉพาะเหตุกันเลยดีกว่าค่ะ

สาเหตุของการที่มีกลิ่นเหม็นที่จุดซ้อนเล้นเกิดจากเรารับประทานน้ำน้อน

กลั้นฉี่  

วิธีทำง่ายๆก็คือ  ทานน้ำเยอะๆ ฉี่บ่อย    เพียงแค่นี้ภายใน4วันก็จะรู้ทันทีค่ะว่ากลิ่นเหม็นนั้นได้ค่อยๆหายไป

ครบ1อาทิตย์กลิ่นหายไปเลยทีเดียวค่ะ  แต่ต้องทานน้พเยอะๆเป็นประจำทุกวันน่ะค่ะกลิ่นเหม็นก้จะไม่กลับมาหาคุณอีกเลยค่ะ

เพราะนัทเป็นคนที่ดูแลตัวเองอยู่เสมอเลยต้องดูแลร่ายกายตัวเองเป็นพิเศษผู้หญิงควรเห็นความสำคัญของตัวเองทุกจุดน่ะค่ะ

หน้าตาก็ต้องดูดีทุก24ชั่วโมง
โดย: OPOR77    เวลา: 2009-12-9 15:32
สาเหตุของการเกิดกลิ่นผิดปกติอาจมีหลายสาเหตุนะคะ !!!

อาจมีสาเหตุเริ่มจากการตกขาว (ระดูขาว,ประจำเดือนขาว,มุตกิต)
ตกขาว หมายถึง สิ่งที่ถูกขับออกจากทางช่องคลอดซึ่งไม่ใช่เลือดระดูขาว ปกติจะเป็นสีขาวถือเป็นอาการปกติของผู้หญิงไม่ใช่โรค บางครั้งเมื่อเกิดการติดเชื้อ ระดูขาวจะผิดปกติ ทำให้มีสีอื่นๆ เช่น สีเหลือง สีเหลืองปนเขียว หรือสีน้ำตาลเป็นต้น(ลองแอบสังเกตที่กางเกงชั้นในของแฟนดูนะคะ แต่อย่าให้เค้าเห็นนะคะเดียวจะผิดใจกัน)

ระดูขาวจะมี 2 ประเภทนะคะ คือ ระดูขาวปกติและระดูขาวที่ผิดปกติ

ระดูขาวปกติ (Physiologic leukorrhea) จะมีลักษณะเป็นสีขาว กลิ่นออกเปรี้ยวนิดหน่อยแต่ไม่คัน ช่วงที่จะมีระดูขาวออกมามากคือช่วงเวลาใกล้ตกไข่ ช่วงระยะตั้งครรภ์ ขณะมีอารมณ์ทางเพศ การใช้ยาคุม
ส่วนระดูขาวผิดปกติ (Pathologoc leukorrhea) จะมีปริมาณมาก มีกลิ่นเหม็น มักจะมีอาการคัน แสบ หรือปวดท้องน้อยด้วยนะคะ สาเหตุหลักๆของระดูขาวผิดปกติคือ การติดเชื้อรา เชื้อพยาธิ เชื้อแบคทีเรีย หรืออาจจะติดเชื้อมากกว่าหนึ่งชนิด หรืออาจจะรับประทานยาปฏิชีวนะเป็ฯเวลานานๆยาก้อจะไปทำลายเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่อยู่ในช่องคลอดที่สมดุล ก้ออาจจะทำให้เกิดระดูขาวขึ้น หรืออาจเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้วิธีออรัลเซ็กซ์ เพราะแบคทีเรียอาจจะเกิดจากช่องปากของคู่นอน (ไม่แปรงฟันก่อนออรัลฯ คือ กินอาหารแล้วมีแบคทีเรียสะสมอยู่ก้อจะขยายตัวไปกับน้ำลายได้นะจ๊ะ) หรืออาจเกิดจากอวัยวะเพศชายด้วยก้อได้(มีแบคทีเรียสะสมหรือทำความสะอาดไม่ทั่วถึง)
ระดูขาวที่ผิดปกติจะเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกันนะคะ

ระดูขาวที่เกิดจากเชื้อรา,ยีสต์(Candida Vulvovaginitis)จะมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอด ลักษณะการตกขาวขะมีสีขาวเป็นก้อนคล้ายๆแป้งเกาะติดผนังช่องคลอด (บางครั้งเวลามี sex ก้อจะติดออกมากับอวัยวะเพศชาย)
ระดูขาวที่เกิดจากเชื้อพยาธิ(Trichomonas vaginitis)จะมีสีเขียวปนเหลืองเป็นฟอง ปากมดลูกมีลักษณะเป็นจุดแดง
ระดูขาวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย(Bacterial vaginitis)ระดูจะมีกลิ่นเหม็นคาวคล้ายๆกับกลิ่นปลาเน่า(คิดว่าแฟนของคุณ Fanta น่าจะอยู่ในกลุ่มนี้) และระดูจะมีสีใสถึงขาวขุ่นเลยล่ะค่ะ  รีบไปพบแพทย์นะคะ เป็นไปได้ต้องไปทั้งคู่เลยค่ะ เพราะเราไม่ทราบว่าสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากอะไรและจากใคร หากคุณมีคู่นอนเพียงคนเดียวก้อสามารถรักษาให้หายขาดได้
แต่ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งมีคู่นอนหลายคนล่ะก้อต้องมานั่งสืบกันอีกทีล่ะคะ(เคยมีคนไข้กรณีดังกล่าวน่ะค่ะ)

ก้ออยากจะให้เป็นวิทยาทานกับคุณผู้หญิงทุกคนค่ะ เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องใกล้ตัว  ดีนะคะที่มีคนยกเรื่องนี้มาพูดคุยและปรึกษา ฉะนั้นเราควรรักษาสุขอนามัยของตัวเองให้ดีนะคะ เพราะนี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกหากไม่รักษาและป้องกันค่ะ

ส่วนวิธีป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอดนะคะก้อควรจะรับประทานอาหารทีมีคุณภาพ ออกกำลังกาย(ในที่โล่งแจ้ง *_*) นอนหลับให้เพียงหอ ดื่มน้ำมากๆ ,ดูแลจุดซ่อนเร้นให้สะอาดและแห้งและสวมใส่เสื้อผ้าที่อากาศถ่ายเทสะดวก,อย่าใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน(ยาแก้อักเสบ ฯ) ,ไม่สวนล้างช่องคลอดเพราะจะทำให้ความสมดุลเสียไปและไม่แน่ก้ออาจเกิดจากที่ฉีดน้ำ,งดร่วมเพศขณะรักษา ถ้าจำเป็นให้สวมถุงยาง,การทำความสะอาดทวารหนัก ควรเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลัง,หลีกเลี่ยงผ้าอนามัยแบบสอด @@ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะคะ ไม่ควรมองข้าม ควรปรึกษาแพทย์ด่วนๆค่ะ

  1. ไข้หวัดใหญ่ฯ2009 ระบาดระรอกที่สองแล้วนะคะ //ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ
คัดลอกไปที่คลิปบอร์ด

รู้ชัด รู้จริง เรื่องหวัดใหญ่ฯ 2009 โทร 02-5903333 หรือ www.kmddc.go.th

โดย: akd    เวลา: 2009-12-9 15:51
คุณ Notoriouz ให้ข้อมูลละเอียดมากๆๆ
เราก็เป็นผู้หญิงคนนึงล่ะที่จู่ๆ ก็มีกลิ่นแบบเค็มๆ ออกมาค่อนข้างแรงเวลามีอะไรกับแฟน ขนาดเรายังหมดอารมณ์ถ้าเป็นแฟนจะขนาดไหน
จริงๆ เราเป็นคนไม่มีกลิ่นเลยนะ แฟนคนก่อนๆ ยังบอกเลยว่าเราอะไม่มีกลิ่นเลย ดีมากๆๆ
แต่พอมีแฟนคนนี้ แรกๆ ก็ไม่มีกลิ่น เค้ายังออรัลให้เราอย่างสนุกสนาน -_-" แรกๆ อ่ะนะ
พอเราเริ่มกินยาคุมแล้วมีอะไรกับเค้าแบบไม่ใส่ถุงก็ถึงเริ่มมีกลิ่น จนเราสังเกตได้เลยอ่ะว่าเค้าเลิกออรัลให้เรา นานๆทีทำให้แต่ก็ประมาณสองวิ อะไรงี้
เราว่าแฟนของจขกท ก็ต้องรู้ตัวแหละ ขนาดเรายังรู้เลย แต่เค้าอาจจะไม่กล้าไปหาหมอ
ตอนนี้แฟนเราอยู่เมืองนอก ไม่ได้เจอกันเป็นเดือนแล้ว กลิ่นมันก็เริ่มๆ หายไปง่ะ
ถ้ายังไง ทางที่ดีน่าจะพาแฟนไปหาหมอนะ  เพราะตอนเราเป็น เราพยายามล้างๆๆๆๆ ก็ไม่หาย
จริงๆ
โดย: NoToriouz    เวลา: 2009-12-9 16:33
คุณ Notoriouz ให้ข้อมูลละเอียดมากๆๆ
เราก็เป็นผู้หญิงคนนึงล่ะที่จู่ๆ ก็มีกลิ่นแบบเค็มๆ ออกมาค่อนข้างแรงเวลา ...
ต้นฉบับโพสโดย akd เมื่อ 2009-12-9 15:51



ช่วยๆกันครับ... มองจากสาเหตุใกล้ตัวกันก่อนละกันนะครับ มันคือจุดที่แก้ไขได้ง่ายและไวสุด...
โดย: tichanaruk    เวลา: 2009-12-9 18:26
ไม่อยากทำให้แตกแยกนะคะ แต่จากที่ได้รู้มา ปัญหาจากเชื้อและโรคต่างๆมักมีสาเหตุจากฝ่ายชายนะคะ คือผู้หญิงที่จะติดเองโดยไม่มีเพศสัมพันธุ์มีได้น้อยมากๆ ส่วนใหญ่้เกิดจากการเข้าห้องน้ำที่สาธารณะ หรือการใช้ของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่น ซึ่งคิดว่าน้อยมากที่จะใช้ร่วมกันคนอื่นได้ ส่วนใหญ่จะติดจากฝ่ายชายมากกว่าค่ะ เพราะอวัยวะเพศหญิงนั้นเป็นที่รองรับ ไม่ว่าอารัยก็มากองได้หมด แม้แต่ขี้ไคลของฝ่ายชาย ที่เรียกว่าขี้เปียก ก็ยังสะสมได้และอาจทำให้มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพราะฉะนั้น การรักษาความสะอาดนอกจากตัวฝ่ายหญิงเองแล้ว ฝ่ายชายต้องรักษาเช่นเดียวกัน ที่สำคัญอย่าสำส่อนดีที่สุดเพราะคุณกำลังพาโรคร้ายๆมาให้แฟนโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นฆาตรกรเงียบได้เลยทีเดียวนะคะ ขออภัยที่ตอบแบบนี้เพราะนี่คือข้อมูลจริงค่ะ เคยได้ยินไหมคะ ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ูแล้วมักจะมีโอกาสเป็นมะเร็งที่ปากมดลูก หรืออื่นๆกับจุดนั้น มากกว่าหญิงที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ90ค่ะ จบข่าว
โดย: PoBY    เวลา: 2009-12-10 10:43
แบบนี้แสดงว่าข้างในมีปัญหาแล้วครับ  ลองไปตรวจภายในดูนะว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า

อีกสาเหตุนึงก็คือ ไม่ได้ใส่ถุง แล้วสเปอร์มเข้าไปตกค้างข้างใน ล้างออกไม่หมด ทำให้มีกลิ่นแรง

ถ้าทนกลิ่นไม่ไหว แนะนำให้คุณใส่ผ้าปิดจมูกหรือหน้ากากกันแก๊สพิษ ในขณะทำให้แฟนไปก่อนครับ
โดย: su_nisan_urse    เวลา: 2009-12-10 14:35
ตอบให้ได้ไหมเราเป็น nurse คงช่วยได้นะ
แสดงว่าเค้ามีการติดเชื้อภายในช่องคลอดแต่ต้องถามแฟนคุณก่อนว่ามีอาการอื่นร่วมไหมเช่น คันในช่องคลอด ตกขาวเป็นสีเหลืองข้น และมีกลิ่น ตัวกลิ่นนี่แหละบอกได้ชัดเจน
ถ้ารักกันจริงต้องถามเค้าตรงๆๆแหละแต่ใช้คำพูดให้น่าฟังนะ
เสร็จแล้วก็ไปให้หมอสูติ-นรีเวชตรวจดูส่วนของคุณผู้ชายด้วยนะหลังทำเรื่องอย่างว่าควรรีบทำความสะอาดทันทีทั้ง 2 คนนะ
และที่สำคัญควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งด้วยกันได้หลายอย่างน
โดย: Ani    เวลา: 2009-12-10 15:17
ใช่ค่ะเห็นด้วยกับน้อง su_nisan_urse นะค่ะ ติดเชื้อภายในช่องคลอดค่ะ ของแบบนี้ต้องคุยกันนะค่ะ เพราะถ้าไม่รักษา จะเป็นปัญหาได้ โดยเชื้อนั้นอาจจะมาติดที่เราด้วย แล้วก็ต้องรักษากันทั้ง 2 คนเลยทีนี้ (หมอบอกเป็น กรณีแบบปิงปองค่ะ) เพราะถ้าคนนึงรักษาหายแต่อีกคนยังไม่หาย ก็จะติดกันไปมาอยู่อย่างนี้ แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ดีกว่านะค่ะ หมอจะให้ยามาทาน หรือทา และวิธีดูแลรักษาได้ถูกต้องจะได้ไม่กลับมาเป็นอีกค่ะ

ส่วนสาเหตุที่เกิดนั้นมีหลากหลายประการค่ะ ของดิฉันเกิดจากการใช้ น้ำยาล้างเฉพาะจุดซ่อนเร้นค่ะ พูดง่ายๆ คือรักสะอาดมากไปทำให้เชื้อราบางชนิดที่น่าจะเป็นประโยชน์กับเราตายไปหมด คราวนี้เชื้อโรคก็เข้ามาได้ง่ายๆ จากที่ไปพบคุณหมอและหมดค่ายาไปเกือบ 5 พัน เข็ดค่ะ ไม่เคยใช้อีกเลย คุณหมอบอกน้ำเปล่าดีที่สุดค่ะ (จำไว้นะค่ะ คุณสาวๆ) ส่วนกระดาษทิชชู คุณหมอแนะนำให้เช็ดจากหน้าไปหลังนะค่ะ

เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย อย่าอายที่จะปรึกษาหมอนะค่ะ เพราะทิ้งไว้ไม่ดีแน่ๆ ค่ะ
โดย: maomee    เวลา: 2009-12-19 13:08
เราก็เลยเจอปัญหานี้กับตังเองเลยนะ....เพราเราติดเชื้อนะก็เลยไปซื้อยาสอดที่ร้านขายยามาสอดก็หายแล้วต่อไปก็ต้องรักษาความสะอาดหน่อย..ไม่ใช่ว่า่เป็นเพราะะสกปรกเสมอไปหรอกนะ.....มันมีหลายสาเหตุ.......  จิ๊มิเราอับชื้นรึเปล่า..ใส่กางเกงในตัวเดิมไหม ..มันมีหลายสาเหตุตอนี้เราใช้..บีไนท์อยู่เรื่อยๆพยายามทำให้ส่วนนั้นแห้งเสมอ..เวลาเขาห้องนํ้าก็ต้องเช็ดให้แห้งตลอด........สาเหตุทีี่2.......ตัวสำคัญคือผู้ชายนี่แหละต้องทำความสะอาดทกครั้งก่อนมีเพศสำพันธ์ก็ช่วยได้เยอะเลยนะจ๊ะ.......................................ป.ล.....ก็แค่อยากช่วยลูกผู้หญิงด้วยกัน.....ถ้ามีปํญหาโพสไปถามได้นะจ๊ะ........จากนางฟ้าน้อย..

นางฟ้า.gif (363.41 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 7)

นางฟ้า.gif

โดย: Lennoxz    เวลา: 2009-12-19 14:39
มาแอบดุผู้หญิงคุยกัน อิอิ
โดย: ZetsubouShojo    เวลา: 2009-12-19 17:18
อ่านตอนแรกแอบฮาผสมขนลุกซ์ด้วยความสยิวกิ้วว ;P แหะๆ

^///^ แต่หน้าหลังๆที่พี่ๆมาโพสได้ความรู้เยอะเรยค่ะ
โดย: koyzigzag    เวลา: 2009-12-19 23:29
มียาตัวนึงค่ะ มีคนแนะนำมา ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ ไม่มีตกขาวและไม่มีกลิ่นด้วย ยาแองเจลล่ากล่องสีชมพู ได้ผลจริงค่ะ    ลองดู กินแล้วผิวพรรณดีอวบอิ่ม
โดย: kimiko    เวลา: 2009-12-21 01:07
จขกท. ดีมากค่ะ ที่คิดห่วงใยความรู้สึกแฟน วิธีพูดก็ควรหาเวลาว่างอารมณ์ดีๆนะคะ
อ้อ ห้ามเด็ดขาดหลังเวลามีอะไรกันอย่าเพิ่งพูดค่ะ ก็ทำเป็นเหมือนเราเพิ่งนึกได้ก็เลยพูด
บอกว่า
[b]"เออ ตัวเอง(แล้วแต่สัพนามที่เรียกกันเนาะ) เค้าว่าช่วงนี้น้องสาวตัวเองกลิ่นแปลกๆไป
เป็นไรรึป่าว เป็นห่วง(คำนี้ต้องพูด สำคัญ)เคยได้ยินเค้าบอกว่าเวลาที่ผู้ชายมีไรกับผู้หญิง
บางคนอาจจะทำให้เกิดเชื้อราหรืออะไรประมาณนี้ได้เวลาที่ร่างกายอ่อนแอ เพราะดูน้องสาวตัวเองเหมือนจะมีกลิ่นอะ
เราไปหาหมอกันดีมั้ย เค้าจะได้ไปตรวจด้วย(แสดงความรับผิดชอบร่วมด้วย เพราะเป็นเรื่องจริงค่ะที่ ช+ญ มีไรกันทำให้เกดได้จริงๆ) แต่ต้องออกตัวว่าเราไม่ได้ไปมีอะไรกับคนอื่นแล้วเอาโรคมาติดนะ เพราะมีบางโรคค่ะที่ผู้ชายเป็นตัวนำเชื้อแล้วอาการจะมาตกที่ผู้หญิง


แล้วก็การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นบ่อยเกินไป
ทั้งนี้หลายๆคนอาจไม่ทราบว่า การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นบ่อยๆ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้
สุขภาพภายในช่องคลอดอ่อนแอลงและเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้นเนื่องจากผลิตภัณฑ์จะทำลายแบคทีเรียที่ดี (normal flora)
ที่ทำหน้าที่ควบคุมความสมดุลในช่องคลอด ทำให้เชื้อก่อโรคต่างๆ เจริญเติบโตได้ดีขึ้น  ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้บ่อยๆ
จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดปกติจากแบคทีเรียหรือราในช่องคลอดได้ค่ะ
  นอกจากนี้การที่รักษาไม่หายอาจจะเป็นเพราะไม่ได้รักษาคู่นอนของตนเองด้วยเพราะส่วนใหญ่แล้วอาการที่ แฟนจขกท.
กล่าวมานั้นเป็นการติดเชื้อที่มักจะมาจากการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอน  ถ้ารักษาเฉพาะคนที่เป็นก็อาจจะกลับมาเป็นซ้ำอีกได้ ต้องรักษาคู่นอนร่วมด้วยนะคะ เพราะคู่นอนจะเป็นแหล่งพักโรค ถึงแม้ผู้ชายจะไม่มีอาการผิดปกติก็ตาม
ปล.ต้องตรวจทั้ง 2 คนค่ะถึงจะได้ผล เรื่องเพศสัมพันธ์ต้องรับผิดชอบร่วมกันถึงจะได้ผล จริงมั้ยคะ
คำแนะนำจากอดีตพยาบาล ที่เพื่อนยังทำงานอยู่ด้านสูติ นรีเวชค่ะ
โดย: ann3-ann3    เวลา: 2009-12-23 21:01
27# NoToriouz


ขอบคุนสำหรับความรู้เพิ่มเติมนะค่ะ ,, อิอิ
โดย: su_nisan_urse    เวลา: 2009-12-29 23:49
เดี๋ยวหาข้อมูลมาให้เพิ่มอีกนะ
โดย: nu085    เวลา: 2009-12-30 01:28
ก็เคยเป็นเหมือนกันค่ะตั้งแต่ห้าปีที่แล้ว เราไปซื้อยาตามร้านขายยามาสอดก็หาย แต่ไม่นานก็กลับมาเป็นอีก แฟนเราเลยเอายาให้กินและเขาก็กินด้วย ตอนนี้ปัญหานั้นก็ไม่มีอีกเลย ถ้าภายในไม่มีปัญหาแค่ล้างด้วยน้ำเปล่ากลิ่นก็หายแล้วค่ะ แต่ถ้าล้างแล้วไม่หายแสดงว่ามีปัญหาภายใน และถ้าผู้ชายหลั่งข้างในแล้วปล่อยทิ้งไว้นานวันต่อมากลิ่นนี่เหมือนของเน่าในถังขยะเลย แฟนเราบอกว่ากลิ่นเหมือนปลาเน่า จขกท. ลองคุยกับแฟนดีๆนะคะ บอกให้เขารู้แล้วก็หาทางแก้ไข ลองไปซื้อที่ร้านขายยาก่อนก็ได้พวกยาสอดหรือยากิน เพราะตอนที่เราเป็นเราก็ไปซื้อมากินเองเหมือนกัน
โดย: Nu_kAe    เวลา: 2009-12-30 03:58
  ทางที่ดีอีกทางหนึ่งคือ...จับมือกันไปตรวจพร้อมๆ กันเลย
จะได้รู้สาเหตุว่าเกิดจากใคร...และต้องทำอย่างไร..ช่วยๆกันแก้ไขปัญหา
ก่อนที่น้องๆๆตัวน้อยๆๆของแต่ละคน..จะค่อยๆเริ่มโรยราก่อนวัยนะจ๊ะ

แบบว่า...เรื่องแบบนี้... ฟอ แฟน ต้องช่วยกันค้นหาคำตอบด้วยกันค่ะ
โดย: Magician_ii    เวลา: 2009-12-30 11:13
ไปหาหมอดีกว่านะค่ะ
โดย: M...    เวลา: 2009-12-30 11:15
อ่าวยังขุดมาอีกหราาาา  หายไปนาน
โดย: tsuke    เวลา: 2009-12-30 11:30
มีตกขาวร่วมด้วยรึเปล่าครับ ถ้ามีก็แสดงว่าติดเชื้อในช่องคลิดอด  

ถ้าผุ้หญิงมีการดื่มสุราด้วย ก็อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้มีกลิ่น (อันนี้เพื่อนมันพูดกันในวงเหล้า )
โดย: BB.Kub    เวลา: 2009-12-30 15:45
อิอิ.................

คุยไรกันนะ..................

อ่านแล้วจั๊กจี้จัง.............
โดย: jina    เวลา: 2009-12-31 11:26
;P  บอกพี่เค้าตรงๆก็ได้ค่ะ ผู้หญิงเอาใจใส่น้องสาวตัวเองอยู่แล้ว และเอาใจแฟนอยู่แล้วค่ะ ยิ่งถ้าพี่บอกความจริงอ่ะ เชื่อพี่เค้าเปิดใจรับฟังแน่นอนค่ะ ( ปรับปรุงตัวเอง) ว่าแต่พี่เคยถามแฟนพี่ไหมค่ะว่าของพี่มีกลิ่นป่าว(จะใด้เข้าใจกันค่ะ) แนะนำค่ะ หาซื้อยาว่านชักมดลูกให้ทานก็ช่วยใด้นะคะ บำรุงมดลูกหน่อยค่ะ ถ้าถูกรุกรานบ่อยต้องหมั่นดูแลค่ะ;P
ยี่ห้อ เฟมิน่า ก็ดีนะคะ ทานอยู่อร่อยด้วยค่ะทานง่ายค่ะ ช่วยได้นะคะ ชื้อฝากแฟนพี่ก็ได้ค่ะ ของเค้าดีจริงก็อยากแนะนำค่ะ ทานติดต่อกัน 1-3 ขวด รับรองดีขึ้นชัวร์ค่ะ รองดูนะคะ เป็นห่วงผู้หญิงด้วยกันค่ะ ภายในต้องดูแลให้ดี แล้วภายนอกจะไม่มีกลิ่นค่ะ (เปลี่ยนเป็นกลิ่นน่าจุ๊บหอมหวนชวนรับประทานค่ะ;P) ทะลึ่งอีกเรา ถ้าลองจะรอดูอัพเดตผลลัพท์นะคะ โชคดีค่ะ บายยยยยยยยย
โดย: jina    เวลา: 2009-12-31 11:32
เอ...เหมือนจะเคยอ่านเจอว่าปกติแต่ละคนก็จะมีกลิ่นเฉพาะ ที่แตกต่างกันออกไป คล้ายๆ กับกลิ่นตัวรักแร้อ่ะเนา ...
ต้นฉบับโพสโดย YoungKorn เมื่อ 5-12-2009 02:59



มือก็ทำให้ติดเชื้อได้นะคะ ถ้าไม่ล้างก่อนทำอ่ะค่ะ
โดย: nunkung    เวลา: 2010-1-1 01:18
up ไป มีความรู้ครับ
โดย: NoToriouz    เวลา: 2010-1-1 18:35
27# NoToriouz


ขอบคุนสำหรับความรู้เพิ่มเติมนะค่ะ ,, อิอิ
ต้นฉบับโพสโดย ann3-ann3 เมื่อ 2009-12-23 21:01



จ้า...
ไม่ได้สื่อถึง จขกท.ผู้เดียวหรอกครับ ก็ถึงเพื่อนๆ ชาวDD ด้วยกันทุกทร่านส์

ทั้งหญิง ทั้งชายครับ...

...ช่วยกันสร้างสรรค์สังคมครับ ยินดีๆ

โดย: ambre    เวลา: 2010-1-1 20:23
จ้า...
ไม่ได้สื่อถึง จขกท.ผู้เดียวหรอกครับ ก็ถึงเพื่อนๆ ชาวDD ด้วยกันทุกทร่านส์

ทั้งหญิง ทั้งชายครับ...

... ...
ต้นฉบับโพสโดย NoToriouz เมื่อ 2010-1-1 18:35



ทำไง ถ้า อึ เหม็น ละ โนชชชช ^^
โดย: NoToriouz    เวลา: 2010-1-1 20:55
ข้างบนนี่เป็นตัวอย่างที่ไม่สร้างสรรค์สังคมนะครับ...

...............

อึเหม็นหรอ...ต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะรูทวารอ่ะครับ
อาจเกิดจากมีเชื้ออสุจิตกค้าง... หมั่นทำความสะอาดบ่อยๆนะครับ $+(()^%@!*%&$$??

โดย: aoao    เวลา: 2010-1-3 16:53
น่าจะไปปรึกษาหมอนะค่ะ ซึ่ง ปกติกลิ่นตกขาวจะไม่แรงมาก ถึงขั้นเหม็น แต่อย่างที่น้องบอกมา ว่า เหม็น นี่น่าจะเข้าข่ายติดเชื้อกามโรค นะค่ะ ไม่ หนองใน ก็ซิฟิลิส จะมีกลิ่นแรงถึงขั้นเหม็น และมีน้ำสีขาวขุ่นๆ ไม่ว่าจะใช้แลคตาซิด ล้างก็ ไม่หายมีกลิ่นหรอกค่ะ ลองสังเกตุ ตรงนั้นของแฟนน้องดูสิค่ะ ว่าลักษณะของเมือก นั้นเป้นสีอะไรซึ่งปกติ เมือกน้ำตรงนั้นของผู้ ญ  จะเป้นน้ำใสๆ ส่วนกลิ่นจะเป็นลักษณะของแต่ละคน บางคนไม่มีกลิ่นเลย ซึ่งจะคล้ายๆกับกลิ่นตัวลองพูด กับแฟน ช่วงก่อนและหลังมีประจำเดือนดูค่ะว่า ทำไมยังมีกลิ่นอีก (แต่ให้หายเป้น ปจด.ก่อน สักอาทิตย์แล้วค่อยถามนะค่ะ)
โดย: M...    เวลา: 2010-1-3 16:55
อาจเกิดจากมีเชื้ออสุจิตกค้าง... หมั่นทำความสะอาดบ่อยๆนะครับ

อึเหม็นหรอ...ต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะรูทวารอ่ะ ...
ต้นฉบับโพสโดย NoToriouz เมื่อ 2010-1-1 20:55


งงอะเชื้ออสุจิเข้าไปอยู่ได้ไง    คิคิ
โดย: ambre    เวลา: 2010-1-3 17:36
ข้างบนนี่เป็นตัวอย่างที่ไม่สร้างสรรค์สังคมนะครับ...

...............

อึเหม็นหรอ...ต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะรูทวารอ่ะ ...
ต้นฉบับโพสโดย NoToriouz เมื่อ 2010-1-1 20:55


คิิคิ เขิลลลลลลลลลลล ขอบคุณคุณหมอแก้มปริมากนะคร้าาาาาาาาาา
โดย: ambre    เวลา: 2010-1-3 17:36
งงอะเชื้ออสุจิเข้าไปอยู่ได้ไง    คิคิ
ต้นฉบับโพสโดย M... เมื่อ 2010-1-3 16:55


คิคิ เอมมี่ งง หราาาาาาาาาาาาาาา
โดย: jina    เวลา: 2010-1-3 18:14
ข้างบนนี่เป็นตัวอย่างที่ไม่สร้างสรรค์สังคมนะครับ...

...............

อึเหม็นหรอ...ต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะรูทวารอ่ะ ...
ต้นฉบับโพสโดย NoToriouz เมื่อ 1-1-2010 20:55

55555555555555555555555555555555555++++++++++++++++++++++
โดย: ambre    เวลา: 2010-1-3 18:17
55555555555555555555555555555555555++++++++++++++++++++++
ต้นฉบับโพสโดย jina เมื่อ 2010-1-3 18:14


ขำขำ จิตแจ่มใส
โดย: kallypaulsmith    เวลา: 2010-1-5 16:11
เอ่อ ขอถามก่อนว่า แฟนเป็นผู้ชาย ผู้หญิงอะครับ

มันก็มีวิธีจัดการคนละแบบ


ของผู้ชาย ก็ต้อง ปลิ้นนนนนนนนนนนนนมันออกมาล้าง(ภาษาชาวบ้านใช้คำว่า ถอก)ให้สะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนนะครับ  
ส่วนเรื่องของกลิ่นอะ ลองใช้น้ำมันมะพร้าว ทาบางๆ  ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วเช็ดออก จะช่วยได้

ส่วนของผู้หญิง ใช้ลำลีชุบน้ำมันมะกอกเช็ดดูนะครับ เพราะความเป็นกรดเป็นด่าง มันทำให้มีกลิ่นได้นะ
โดย: yamzzz    เวลา: 2010-1-7 06:02
เหน็บคาเนสเทนคะยาสอดอะช่วยได้
โดย: Somjai    เวลา: 2010-1-7 06:56
เรื่องอาหารก็มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นนะคะ
ถ้าแฟนคุณกินปลาร้า กะปิ สะตอ ชะอม หรือหน่อไม้ดอง กลิ่นจะแรงมากค่ะ อ๋อ กระเทียมด้วย
ต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นพวกนี้ค่ะ คุณลองสังเกตุดูนะคะ ว่าแฟนคุณกินอาหารพวกนี้หรือเปล่า

ถ้าใช่คุณก็บอกแฟนคุณว่า ที่รัก คุณรู้ไหมว่า วันไหนที่คุณกิน.... ตรงนั้นของคุณมันมีกลิ่น และก็ควรพูดบอกกันตรงๆ ค่ะ
ผู้หญิงเค้าใส่ใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้วค่ะ ไม่โกรธหรอก แฟนกัน เชื่อสิ
โดย: AmyAmy    เวลา: 2010-1-8 14:28
หึ  หึ  หึ สงสัยต้องแอบถามแฟนมั่งว่า  ....เหม็นอะเปล่า
โดย: ละล้า    เวลา: 2010-1-17 00:08
แก้ไขล่าสุด ละล้า เมื่อ 2010-1-17 00:09

มีแค่กลิ่นอย่างเดียวเหรอ แบบว่าเคยสังเกตหรือป่าวว่าแฟนมีอาการคันร่วมด้วยไหม แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าตรงนั้นมีกลิ่น แสดงว่าอาจมีอาการคัน แล้วตกขาวอาจเปลี่ยนสี เช่น ออกเหลือง ๆ ถ้ายิ่งมีเยอะก็จะยิ่งคัน แต่เขาคงไม่เกาให้คุณเห็นหรอก เอาเป็นว่าคุณควรหยุดมีกิจกรรมสักพักรักษาให้หายก่อนจะดีกว่า เพราะจะได้หายขาด ขอแนะนำถ้าอายที่จะไปหาหมอ ก็ลองใช้ซอลเจลล่า เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดตรงนั้น แล้วก็ใช้ในโรงพยาบาลด้วยนะ  ควบคู่กับการใช้ยาฆ่าเชื้อราจะลองเป็นตัวนี้ก็ได้นะ Metronidazole 200 mg (จริงให้กินคู่กับอีกตัวหนึ่งแต่ลืมชื่อเอาไว้นึกได้แล้วจะมาบอกทีหลัง ตัวนี้ถ้ากินแล้วไม่หายก็ไม่ต้องกินแล้วเพราะเชื้อราคงดื้อยา ต้องเป็นยาสำหรับสอด)  หายแน่แต่ก็ต้องดูแลเรื่องของเสื้อผ้า ชุดชั้นในอย่างที่เพื่อนๆ คนอื่น ๆ บอกด้วยว่าให้ตากในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพราะไม่งั้นมันกลับมาแน่  เพราะเชื้อรายังไงมันก็ต้องมีอยู่แล้วหายแล้วก็กลับมาเป็นอีกได้ (แหมเวบนี้มีทุกรสจริงๆ  แบบว่าสวยตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า  สมหญิง & สมชายจรดปลายเท้า 5555)
โดย: cambai123    เวลา: 2010-1-20 16:23
ถ้ากลิ่นมันไม่ธรรมดา  ผมคิดว่าควรจะพบแพทย์เพื่อรักษาดีที่สุด  จิงๆๆนะ
โดย: mutub    เวลา: 2010-1-20 23:43
จิมิเหม็นนี่เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ
1.เชื้อราที่ช่องคลอด
2.ติดเชื้อแบคทีเรียที่ช่องคลอด
3.ติดเชื้อหนองในหรือChlamydia
พวกนี้ต้องอาศัยการดูตกขาวครับ
1.ถ้าตกขาวคล้ายแป้งเปียกสีขาวขุ่น ออกมามาก > เชื้อรา > Clotrimazole 100mg ไปซื้อมาเหน็บช่องคลอด 2 เม็ดก่อนนอน เหน็บไป 3 วันครับ
2.ถ้าตกขาวเป็นสีเขียวเหลือง เหม็นเหมือนหัวปลาเน่า หรือมีฟอง > แบคทีเรีย > Metronidazole 500mg กิน 1 เม็ด เช้า เที่ยง เย็น หลังอาหาร 7 วันครับ
3.หนองในและChlamydia ต้องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์ครับ ถ้าไม่คิดอะไรมาก กิน Metronidazole 500mg กิน 1 เม็ด เช้า เที่ยง เย็น หลังอาหาร ร่วมกับ Doxycycline 100mg 1เม็ด เช้า เย็น หลังอาหาร เป็นเวลา 7 วัน ครับ

ที่สำคัญงดเพศสัมพันธ์ไปก่อนจะดีมากครับ + ล้างด้วยแลคทาซิสแค่"ภายนอก" ไม่ต้องสวนล้างเข้าไปข้างในครับ ไม่งั้นมันจะไปทำงายจุลินทรีย์ชนิดดีที่ช่วยป้องกันเชื้อโรค ทำให้อาการเป็นหนักเข้าไปอีก
โดย: Lennoxz    เวลา: 2010-1-22 17:06
กาทู้นี้มีประโยชน์ดีนะ เด๋วลองไปดมกุงเกงในของตัวเองดูบ้างดีฝ่า
ว่าเหม็นรึป่าว ( กรี๊ดดด ช้านพูดอารัยยยอ ...
ต้นฉบับโพสโดย laink เมื่อ 2010-1-22 16:07


55555555555555555555+
โดย: tsuke    เวลา: 2010-1-22 17:32
เอ่อ ขอถามก่อนว่า แฟนเป็นผู้ชาย ผู้หญิงอะครับ

มันก็มีวิธีจัดการคนละแบบ


ของผู้ชาย ก็ต้อง ปลิ้นนนนนนนนนน ...
ต้นฉบับโพสโดย kallypaulsmith เมื่อ 2010-1-5 16:11

ใช้น้ำมันมะพร้าวทา  มดไม่ขึ้นเหรอครับ
โดย: 9649    เวลา: 2010-1-22 18:45
ไปหาหมอดีที่สุด เพราะถ้าปล่อยไว้นานๆอาจจะกลายเป็นอย่างอื่นได้
โดย: thailand    เวลา: 2010-1-23 00:15
โอ๊ยๆอ่านไปยิ้มไปกะทู้นี้น่ารักดีจับมือกันไปหาหมอเถอะคะ เริ่มสงสัยตัวเองไม่มีไรกะแฟนมานานมากกกกแล้วเพราะเรามีกลิ่นหรือเปล่าเอ๊ะไม่น่าจะใช่ดมกางเกงในทุกวันกลิ่นก็ยังโอเคอยู่นิ:)
โดย: M...    เวลา: 2010-1-23 11:43
ปลิ้นนนนนนนนนนนนนมันออกมาล้าง(ภาษาชาวบ้านใช้คำว่า ถอก)ใ
ต้นฉบับโพสโดย kallypaulsmith เมื่อ 2010-1-5 16:11



คิคิ
โดย: tsuke    เวลา: 2010-1-23 11:59
ดมกางเกงในทุกวันกลิ่นก็ยังโอเคอยู่
ต้นฉบับโพสโดย thailand เมื่อ 2010-1-23 00:15

คิคิ
โดย: nacha    เวลา: 2010-1-23 13:10
ขอแนะนำอีกวิธีนึงล่ะกัน
การรับประทานโยเกิร์ตที่มีแบคทีเรียที่ชื่อแลคโตบาซิลลัส
ก็ช่วยให้กลิ่นในบริเวณจุดซ่อนเร้นของเธอดีขึ้นไม่มากก็น้อยเช่นกัน
ลองบอกแฟนดูนะ
โดย: rabbit145    เวลา: 2010-2-10 16:56
555+


ขนาดนั้นเลยหรอ


พูดกันดี ๆ เน้อ ระวังคอขาด
โดย: high    เวลา: 2010-2-10 22:40
อ่อ...ลองแซวเล่นไมค้ะ แบบว่าให้เขินๆเล่นอ้ะค้ะ
โดย: kimyoung    เวลา: 2010-2-11 02:44
อารายกานเนี่ย  ฉาวโฉ่ โจ่งครึ่มสุดๆๆ

ถามต่อได้ไหมอยากรู้มากเลย... เอ๊ะ ยังไง

คือ.. เวลาหลังจากมีอะไรกับผู้ชาย (แฟนนั่นแหละ)

ถ้าหลั่งใน=ฝากรักเอาไว้  แล้วเราจะรู้ได้ไงอ่ะคะว่า  รักที่ฝากเอาไว้ออกไปหมดแล้ว

งงป่าว  พิมพ์ไปเขิลไป..

เพราะเห็นหลายคนตอบว่า กลิ่นมาจาก  รักที่หมักหมมไว้ข้างใน.....ไรงี้

มันไม่เหมือนฉี่ที่เราเบ่งออกมาได้นิหน่า

อยากรู้มากๆๆค่ะ
โดย: jennifer    เวลา: 2010-2-11 07:17
5555555555555
โดย: M...    เวลา: 2010-2-11 12:02
อารายกานเนี่ย  ฉาวโฉ่ โจ่งครึ่มสุดๆๆ

ถามต่อได้ไหมอยากรู้มากเลย... เอ๊ะ ยังไง

คือ.. เวลาหลังจากมีอะไรกับผู ...
ต้นฉบับโพสโดย kimyoung เมื่อ 2010-2-11 02:44



ถ้ากลัวล้างไม่หมดก้ใส่ถุงยางอนามัย  สะอาดปลอดภัยไรกังวล
โดย: tsuke    เวลา: 2010-2-11 12:11
อารายกานเนี่ย  ฉาวโฉ่ โจ่งครึ่มสุดๆๆ

ถามต่อได้ไหมอยากรู้มากเลย... เอ๊ะ ยังไง

คือ.. เวลาหลังจากมีอะไรกับผู ...
ต้นฉบับโพสโดย kimyoung เมื่อ 2010-2-11 02:44

มันคนละทางออกไม่ใช่เหรอครับ 55++
โดย: Drops    เวลา: 2010-2-11 15:49
ฉีดน้ำหอมมม หนักกก เอาสำลีอุดจมูกก่อนครับ
ผมว่ากระทู้ นี้ติดเรท น่า แขวนป้าย 18+++ นะนี่
โดย: M...    เวลา: 2010-2-11 16:54
มันคนละทางออกไม่ใช่เหรอครับ 55++
ต้นฉบับโพสโดย tsuke เมื่อ 2010-2-11 12:11

ทำไมรู้อะ




ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com/) Powered by Discuz! X3.2