ดั้งโด่งดอทคอม

ชื่อกระทู้: ปากบางกับ หมอชาตรี เชียงใหม่ศัลยกรรม (รีโพสท์) [สั่งพิมพ์]

โดย: MusicBug เวลา: 2012-3-14 21:42
ชื่อกระทู้: ปากบางกับ หมอชาตรี เชียงใหม่ศัลยกรรม (รีโพสท์)
(รีโพสท์ครับ  เนื่องจากได้ขออนุญาตแอดมินลบ Login เพราะเดิมใช้เป็นชื่อจริงๆ เพิ่งจะรู้สึกตัว)
--------------------------------------------------------------------------

ผมได้เข้ามาชมเว็บนี้มาระยะหนึ่งแล้ว  และได้ทราบถึงกิตติศัพท์ทั้งด้านบวกและด้านลบของคลีนิคแห่งนี้มาพอสมควร แต่บังเอิญผมไม่ค่อยมีปัจจัยและเวลามากนัก  ก็เลยตัดสินใจ เป็นไงเป็นกัน ทำกับหมอที่นี่ครับ

เริ่มต้นกันก่อนด้วยภาพก่อนทำครับ

ปากหนาๆ ปกติของผมตั้งแต่เกิดเลย  ดูสมควรทำมั้ยล่ะครับ  อิอิ

โดย: MusicBug เวลา: 2012-3-14 22:02
โทรไปนัดคลีนิคประมาณวันพุธว่าจะได้คิวเมื่อไหร่ ปรากฏว่าได้วันเสาร์ช่วงเที่ยงๆ ก็เลยเตรียมลางานสัปดาห์ถัดไปไว้เลย สนนราคาปากบน-ล่าง ด้านละ 8000 บาท รวมต้องกดเงินไป 16000  กระเป๋าตุงเลยทีเดียว

พอถึงวันเสาร์เข้าจริงๆ พี่ที่คลีนิคโทรมาหาแต่เช้าบอกว่าไปได้เลย ผมก็เพิ่งแหกขี้ตาตื่น ก็เลยรีบบึ่งออกไปถึงคลีนิคประมาณ 9 โมง  คิดในใจว่า เราก็ได้ทำคนแรกๆ เลย หึๆ

พอไปถึงคลีนิคบรรยากาศคับคั่งมากครับ ผมไม่ต้องต่อคิว เค้าดันขึ้นไปคุยกะหมอก่อน  หมอเห็นหน้าปั๊บบอกว่า ทำตา ทำจมูกน่าจะดีกว่า ปากไม่ใช่ปัญหา

   เอิ่มมมมม อะไรกันครับ ผมตั้งใจมาทำปากกกกกกกกน้าา    อะ .. สรุปสุดท้ายหมอยอม (แปลกดีมะ)

ผมเดินลงมาลงประวัติคนไข้แล้ววัดความดัน  เตรียมตัวนั่งต่อคิวอีกประมาณ 5 คิวก่อนหน้าผม  ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาฉีดยาอะไรไม่รู้ (แต่มักเป็นคนไข้ทำจมูกหรือตามาก่อนไม่แน่ใจครับ)

แล้วก็ถึงคิวผมขึ้นเขียง แปลกใจว่า ห้องผ่าที่นี่ไม่ได้ดูเหมือนห้องผ่าตัดเท่าไหร่  ดูเป็นอพาร์ทเมนท์คุณป้ามากกว่า ผมไม่ได้ถูกขอให้บ้วนปาก หรือแปรงฟัน หรือทายาอะไรเลย ผมเอารูปปากที่ผมเตรียมมาในมือถือยื่นให้หมอดูว่า ผมชอบแบบนี้ครับ  หมอเหลือบตามอง 2 วินาที จากนั้น "ขึ้นนอนเลยค่ะ"  ผู้ช่วยหมอบอก

ผมนอนลงบนเตียงผ่าตัด  หมอเอาปากกามาวาดๆ บนปากผมทั้งบนทั้งล่าง  ใช้เวลา 5 วินาทีเสร็จ  เอ๊ะ นี่มันจิตรกรระดับชาติก็ไม่ปาน  ไวมากๆ ไวเกิ๊นนนนนน!!

จากนั้นฉีดยาชาครับ บนสองเข็ม ซ้าย ขวา  ล่างสองเช่นกัน  เจ็บจี๊ดดดด  แต่ก็พอทนนะ จะหล่อละ

โดย: MusicBug เวลา: 2012-3-14 22:29
จากนั้นอีกไม่ถึง 5 นาที ปากก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วครับ นอนอ้าปากอย่างเดียว เค้าก็จะมีอะไรมาถ่างๆ ที่ปากเราแล้วก็ ดึ๊บดั๊บๆ มีน้ำไหลลงปาก และคอเล็กน้อย มันคือเลือดนั่นเอง แต่ผมก็ไม่ได้อะไร เฉยๆ กะมันละ เพราะมันไม่เจ็บนี่ครับ

ผ่านไปซัก 15 นาที ปากบนเสร็จละ เหลือล่าง เอ๊ะ ทำไมรู้สึกจี๊ดๆ เหมือนจะเจ็บๆ ละนะ โอ๊ย! อั๊ยยะ เจ็บจริง แท้เหลา
เหมือนยาชากำลังจะหมดฤทธิ์ หมอได้ยินเสียงเจ็บ เลยฉีดยาชาเพิ่มอีก 2 ดอก อืม รู้งี้ขอยาสลบเลยดีมั้ย

20 นาทีเสร็จเรียบร้อย หมอเอาผ้าก๊อสทาบปากไว้ ผู้ช่วยประคองผมไปนอนที่ห้องพักด้านนอก เอาผ้าห่อน้ำแข็งประคบปากให้ นอนอยู่อย่างนั้นประมาณเกือบชั่วโมง จนน้ำแข็งละลายเกือบหมด ก็เอายาต่างๆ และวิธีการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด มานั่งอธิบายให้ข้างเตียงในขณะที่ผมนอนอยู่

โอเคได้กลับบ้านแล้วล่ะ

พอถึงบ้าน รู้สึกว่า มีน้ำเต็มปาก ไม่กล้ากลืน อยากคายออก เลยเอาผ้าก๊อสออกแล้วคายเลือดออก เยอะพอสมควรเลยทีเดียวครับ ไม่ค่อยจะหยุดไหลด้วย ปากก็เริ่มเจ็บ เพราะยาชาหมดฤทธิ์ ฤดูนี้แหละทรมานที่ซู้ดดดดด

ผมเปลี่ยนเอาผ้าก๊อสผื่นใหม่มาคาบ แล้วนั่งดูทีวีพร้อมกับประคบน้ำแข็งยาวไป ยาวปายยยยยยยยย

นี่คือรูปหลังทำทันทีตอนเลือดหยุดไหลแล้วครับ

โดย: MusicBug เวลา: 2012-3-14 22:39
ในระหว่างที่อดทนรอคอย ก็ดูดได้แต่โจ๊ก อย่าหวังจะเคี้ยวอะไรเลยครับ เจ็บระบมปากไปหมด อาจจะเพราะทำทั้งบนทั้งล่าง ก็เลยหนักกว่าชาวบ้านเค้า

สรุปดูดโจ๊กไป 3 วัน 3 คืน น้ำหนักลงไป 3 กิโล แบบก็โอเคนะ ยิงนกนัดเดียวได้สองตัว ตัวปาก กะ ตัวอ้วน

สรุปภาพอาการช่วงหลังจากทำจนถึงวันก่อนตัดไหม สภาพเดียวกันเลย คือบวมเจ่อ แม้ว่าจะไม่ได้ขาดยา และน้ำมะพร้าวแต่ประการใด
ผมคงเป็นคนบวมง่าย ผิวขี้แพ้มั๊งครับ

นี่คือภาพที่ไม่ต้องแสดงให้ดูหลายอัน เพราะมันเหมือนกันหมดตั้งแต่วันที่ 2 ถึงวันที่ 7 ก่อนตัดไหม

โดย: MusicBug เวลา: 2012-3-14 22:49
....7 วันผ่านไป ไวเหมือนโกหกครับคุณผู้ชม มาถึงวันเสาร์อีกเสาร์นึงละ

เป็นวันที่เราจะต้องตัดไหมแล้ว ความรู้สึกก่อนไปตัดไหมคือ รำคาญๆ มีอะไรมาแทงปาก เพราะไหมล่างแทงปากบน ไหมบนแทงปากล่าง เอิ่มมมม เอาเข้าไป ส่องกระจกทีไรก็ใจคอไม่ดี ทำไมมันไม่ยักกะยุบลงเท่าไหร่เลย ว่าแล้วก็รีบฮ่อไปคลีนิคแต่เช้าเช่นเคย

ไปต่อคิว คนฉีดยาอีกแระ

   แต่คราวนี้รู้สึกไม่รอนานอย่างตอนที่ไปทำ  เพราะตัดไหมไม่ต้องรอหมอ  ให้ผู้ช่วยตัดให้ก็ได้ ชิชะ!

ขึ้นเขียง... เค้าใช้คีมหรืออะไรไม่รู้มองไม่เห็น แต่ความรู้สึกว่าจะต้องเป็นอะไรที่หนีบได้ และเล็กๆหน่อย  ในใจนึกไปก็เห็นภาพแหนบหนีบขนรักแร้ เอามาคีบไหมดึงขึ้นเล็กน้อย แล้วตัด "แป๊ก"  ไล่ไปเรื่อยๆ ทีละอัน  ขอบอกว่าตอนตัดไม่ได้เจ็บอะไรครับ แต่ตอนดึงสิ  มันจี๊ด เพราะแผลยังไม่แห้งสนิท ผมว่ามันมีอยู่ทั้งหมดน่าจะไม่ต่ำกว่า 15 ปมที่ต้องตัด  อู้วววว เสียวสันหลังวาบ

เสร็จละ กลับบ้านสบายใจ สบายปากขึ้นกว่าเดิม พอถึงบ้าน ใช้ลิ้นเขี่ยๆ ดูตรงมุมปากบนซ้ายด้านใน  โอ๊ะ  อีก 1 ปม อยุ่ตรงนั้น  ทำไงดี ??? ขี้เกียจกลับไปคลีนิคแล้วอะ ตัดเองซะเลย พอดีมีกรรไกรตัดเล็บอันใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ เช็คแอลกอฮอล์แล้วคีบตัดกันสดๆ หุหุ

อันนี้ภาพวันตัดไหมเรียบร้อยแล้วครับ

โดย: MusicBug เวลา: 2012-3-14 22:55
ตัดไหมแล้ว สบายใจไปหาร้านอร่อยๆ กินกันดีกว่า ฮี้วว

ออกจากคลีนิกไปอาหารตามสั่ง ปรากฎดื่มน้ำก็ยังไม่ได้ น้ำรั่วออกจากปาก

คาบช้อนก็ไม่ได้ เจ็บ อ้าปากก็เจ็บ เลยใช้วิธีอ้าเท่าที่จะอ้าได้ แล้วเอาช้อนใส่ปาก ใช้ฟันหน้าลากอาหารเข้าปาก โอ่ย นี่หรือชีวิตหลังผ่าตัด !

อาการก็เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนผ่านพ้นวันตัดไหมไปอีก 7 วัน รวมเป็น 2 อาทิตย์หลังทำ ปากก็อยู่ในสภาพนี้ครับ

โดย: MusicBug เวลา: 2012-3-14 22:57
ณ วันนี้ ผ่านไปเป็นเวลา 3 อาทิตย์กับอีก 4 วัน อาการตึงที่ปากยังไม่หาย ยิ้มก็ยังไม่สุด ยังเจ็บอยู่บ้าง

หน้าตาเป็นแบบนี้ครับ

โดย: ginggabell เวลา: 2012-3-14 23:27
สวยค่ะ

โดย: MusicBug เวลา: 2012-3-14 23:49

ต้นฉบับโพสต์โดย ginggabell เมื่อ 2012-3-14 23:27
สวยค่ะ

ขอบคุณครับ จริงๆ คืออาจจะดูดีขึ้นบ้าง ไม่ถึงกับสวยอย่างของคนอื่นนะครับ แต่ก็ชอบนะ ^^

โดย: MusicBug เวลา: 2012-3-14 23:56
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย MusicBug เมื่อ 2012-3-14 23:57

ต้องขอโทษหลายๆ ท่านจริงๆ ที่ให้คำแนะนำและกำลังใจมาตั้งแต่โพสท์ที่แล้ว แต่บังเอิญต้องเคลียร์ login ไป

ไม่ว่าจะเป็นคุณ Mod_hardrock คุณมักซ์ คุณ Nogde คุณ Beutie คุณ tor_play คุณ 2Oil และอีกหลายๆ คนนะครับ
ว่างๆ แวะเวียนมาเยี่ยมกันบ้างนะครับ

ตอนนี้ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว อาการผมยังไม่หายสนิทเหมือนบางคนเลย ตึงๆ เจ็บๆ เริ่มวิตกนิดๆ แต่ก็ได้คำแนะนำมาจากพี่น้องที่น่ารักเนี่ยแหละ ว่าให้รอดูต่อไป เพราะมันอาจใช้เวลานานกว่า 1 เดือน - 3 เดือน

โดย: ginggabell เวลา: 2012-3-15 00:00
คุณหมอทำราคาถูกมากๆ นี่เป็นข้อดีสำหรับคนทรัพย์น้อยมากๆค่ะ อิอิ

โดย: sunchai22 เวลา: 2012-3-15 01:11
ปากสวยขึ้นนะคับ

โดย: MusicBug เวลา: 2012-3-15 01:24

ต้นฉบับโพสต์โดย sunchai22 เมื่อ 2012-3-15 01:11
ปากสวยขึ้นนะคับ

ขอบคุณครับ สำหรับคนขี้เหร่แล้ว เท่านี้โอเคขึ้น และดีใจมากละครับ ^^

โดย: ออมสิน เวลา: 2012-3-15 08:40
สวยงาม เลยค่ะ

โดย: mod_hardrock เวลา: 2012-3-15 10:59
หมอชาตรี จะเป็นหมอที่ฝีมือดีก็ไม่ใช่ จะว่าเลวร้ายก็ไม่ถึงขนาดนั้นครับ หลายคนทำออกมาดูดี หลายคนทำออกมาดูแย่ ผมเคยเจอเคส หนึ่ง แต่จำไม่ได้ว่ากระทู้ไหนแล้ว เขาทำออกมาดูดีมาก จนถึงขึ้นว่า เอาของทีละลึกไปให้หมอเลยที่เดียว ก็เคยคิดว่านี่หน้าม้า หรือ อะไร จะสร้างภาพอะไรกันนักกันหนา เนื่องด้วยว่ารายนั้น มีการเอาแบบไปให้หมอดูและอธิบายให้หมอฟังอย่างละเอียดถึงความต้องการของเขา ซึ่งถ้าปกติแล้ว ถ้าเราไม่บอกอะไรหมอมากหมอก็จะทำตามแบบที่หมอคิดว่า ใช่ซึ่งไม่ตรงกับความต้องการของเรา ก็อาจจะทำออกมาแล้วไม่ดูดี

ธรรมชาติของหมอชาตรี คนนี้ จะเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยสื่อสารกับคนไข้เท่าไหรนัก ทำให้เกิดความเข้าใจไม่ตรงกันระหว่างคนไข้กับ หมอ

หมอทำศัลยกรรม ก็เปรียบเหมือนคนที่สร้างสรรค์งานศิลปะ หมอแต่ละคนมีเรียนมาเหมือนกัน แต่พรสรรค์ต่างกัน
เพราะฉนั้น ผลงานจึงออกมาต่างกัน

ด้านจิตใจของคุณหมอ ก็สำคัญ ยกตัวอย่างเช่น ผมเองก็เป็นคนที่เคยรับจ้างสร้างสรรค์ผลงาน แต่ลูกค้าพูดจากับผมแรงมากว่าผมงานผมดูแย่ ทั้งที่เขาไม่เคยบอกความต้องการเขาว่าเขาจะเอาแค่ไหน ยังไง คนรับจ้างทำผลงานเมื่อ ได้รับการตอบกลับ อย่างรุนแรงก็ รู้สึกเสียความรุ้สึกมาก จนตอนนี้ผมเลิกทำงานประเภทรับจ้างออกแบบไปแล้วครับ
กลับมาที่หมอ หมอก็เป็นคนสร้างผลงาน เมื่อผลงานออกมาไม่ดี เกิดมีคนไปพูดจา ไม่ดี หรือชักสีหน้าใส่ หมอก็ไม่พอใจเป็นธรรมดา ในทางกลับกัน หากเราเข้าไปด้วยท่าที่เป็นมิตรพูดคุยดีๆ กลับหมอ หมอก็อาจจะมีปฏิกิริยาที่ดีกับเรา

หมอเป็นผู้ที่ได้รับความกดดันทำงานหนักอยู่กับเลือดอยู่ตลอดทั้งวันก็มีความเครียดอะไรบ้างเป็นธรรมดา
หมอหลายคน พูดจา ไม่ดีกับคนไข้ ก็อาจจะเป็นเพราะเขาเครียด เขาแบกรับอะไรบางอย่างอยู่

กลับมาที่หมอชาตรี หมอชาตรี แกเดินทางบ่อย นั่งรถไปมา หลายจังหวัดเพื่อ ไปทำศัลยกรรมในสาขาย่อยๆ ของแก
ความเหนื่อยล้า จากการนั่งรถก็ จะมีผล ทำให้ผลงานของหมอแก ออกมาดูดีบ้างไม่ดีบ้าง

เพราะฉนั้น การทำปากกับหมอชาตรี จะต้องไปทำให้ได้คิวแรกๆ จึงจะออกมาดี
เพราะยิ่ง ถ้าตอนบ่าย หมอ จะเริ่มล้า และเหนื่อย ผลงานก็เริ่มออกมาไม่ดี

นี่ก็เป็นข้อมูลที่ผมพอจะรวบรวมได้ครับ

โดย: MusicBug เวลา: 2012-3-15 18:20
เห็นด้วยกับคุณ Mod_hardrock ครับ หมออาจจะไม่ได้มีบุคลิกที่คุยเก่ง สนุกสนาน หน้าตาดี เหมือนหมออื่นๆ ฮ่าๆๆ บางเคสถูกใจคนไข้ บางเคสไม่ถูกใจ มันก็เป็นเรื่องปกตินะ ของแบบนี้คือ ศิลปะครับ แล้วแต่คนชอบ

โดย: supavanee เวลา: 2012-3-16 16:56
สวยค่ะ

โดย: มักซ์ เวลา: 2012-4-1 14:32
สู้ต่อไป....หล่อต่อไป

โดย: MusicBug เวลา: 2012-4-1 15:58

ต้นฉบับโพสต์โดย มักซ์ เมื่อ 2012-4-1 14:32
สู้ต่อไป....หล่อต่อไป

555 หล่อได้เท่านี้แหละ

โดย: pompomgirl เวลา: 2012-4-24 21:05
อิอิ หล่อขึ้นจริงๆ ปากใหม่สวยค่ะ เด๋วมีอะไรจะเข้ามาถามนะคะ

โดย: MusicBug เวลา: 2012-4-25 18:16

ต้นฉบับโพสต์โดย pompomgirl เมื่อ 2012-4-24 21:05
อิอิ หล่อขึ้นจริงๆ ปากใหม่สวยค่ะ เด๋วมีอะไรจะเข้าม ...

ยินดีครับผม

โดย: GDP เวลา: 2012-7-4 21:26

ต้นฉบับโพสต์โดย mod_hardrock เมื่อ 2012-3-15 10:59
หมอชาตรี จะเป็นหมอที่ฝีมือดีก็ไม่ใช่ จะว่าเลวร้ายก็ ...

คุณ Mod_hardrock พูดถูก ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เลือกทำ ตา กับหมอท่านนี้ สาเหตุเพราะว่าอยู่ใกล้บ้านเดินทางสะดวก ตอนแรกผมก็ได้ไปจองคิวกับ ภรรยาของคุณหมอคลินิคที่ จ.แพร่ นัดวันเรียบร้อยแล้วก็ขอเป็นคิวแรก พอถึงวันทำ ก็ได้ทำเป็นคิวแรก ก็บอกความต้องการกับหมอว่าอยากได้ตาโตๆ แต่ชั้นตาไม่หนาขอสวยๆ และก็ชวนคุณหมอคุยไปเรื่อยถึงแม้ว่าหมอจะไม่ค่อยพูดแต่ก็ชวนคุณหมอพูดอะไรเรื่อยเปื่อย หมอก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ใช้เวลาทำแค่ 20 นาทีก็เสร็จ ผลออกมาตอนนี้ก็เป็นที่น่าพอใจไม่มีปัญหาอะไร

โดย: llNaDiall เวลา: 2012-7-15 20:54
ทำที่สาขาไหนเหรอคะ กำลังหาข้อมูลสนใจทำเหมือนกันเลยค่ะ

โดย: MusicBug เวลา: 2012-7-22 20:59

ต้นฉบับโพสต์โดย llNaDiall เมื่อ 2012-7-15 20:54
ทำที่สาขาไหนเหรอคะ กำลังหาข้อมูลสนใจทำเหมือนกันเลย ...

ผมทำที่เชียงใหม่ครับ

โดย: smilelollipop เวลา: 2012-7-22 21:09
สวยค่ะ กำลังคิดจะทำปากอยู่

โดย: llie เวลา: 2012-7-30 20:09
ผมทำอยู่ก็ดูดีน่ะ เอาแบบไปให้ดูด้ย เด๋ยวหลังตัดไหมกะจะรีวิวมั้ง ^^

ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com/)