ดั้งโด่งดอทคอม

ชื่อกระทู้: ทำไมซิลิโคนจึงยังไม่ดีที่สุดสำหรับการเสริมจมุก [สั่งพิมพ์]

โดย: stmstyle เวลา: 2011-9-16 14:25
ชื่อกระทู้: ทำไมซิลิโคนจึงยังไม่ดีที่สุดสำหรับการเสริมจมุก
สาเหตุที่ซิลิโคนยังไม่ใช่วัสดุเทียมที่ดีที่สุดสำหรับการเสริมจมูก ก็เพราะ....

1. ถือเป็นสิ่งแปลกปลอม เมื่อเข้าสู่ร่างกาย
จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการดันผิวหนังจนเกิดการทะลุได้ โดยเฉพาะ ส่วนปลายสุดของจมูก หรือ แผลด้านในรูจมูก ซึ่งในส่วนนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการเลือกรูปทรงของซิลิโคนที่จะใส่เข้าไป ให้เหมาะกับสภาพผิวหนัง เหลาซิลิโคนให้มีความสมมาตร และ เหมาะสมกับฐานกระดูกจมูก ทางป้องกันที่ดีที่สุดคือ พบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจเป็นระยะ หรือ สังเกตจมูกตัวเอง หลังจากที่ทำหากพบอาการผิดปกติ หรือเห็นขอบจมูกเริ่มชัดเจนขึ้น ควรแจ้งแพทย์ ทันที เพราะหากปล่อยให้มันทะลุแล้ว อาจจะทำให้เกิดปัญหา เกี่ยวกับรูปทรงของปลายจมูก หรือเกิดแผลเป็น หรือแผลหดรั้ง ซึ่งในบางรายแผลรั้งจนจมูกเชิด วิธีการแก้ไขจะซับซ้อน และลำบากมากยิ่งขึ้น

2. เสี่ยงต่อการติดเชื่อ และเกิดอาการแทรกซ้อนได้
วิธีนี้สามารถป้องกันได้ด้วย การรักษาความสะอาดของทางการแพทย์ การดูแลผิวหนังที่ได้รับการผ่าตัด ทั้งด้านในและด้านนอกของจมูก และผิวหนังบริเวณรอบๆ หากเกิดอาการติดเชื้่อบริเวณที่ใส่ซิลิโคนเข้าไป ควรรีบเอาซิลิโคนออก และ ทิ้งระยะเวลาให้ร่างกายได้ปรับตัวก่อน 3-6 เดือน หรือ 1 ปีขึ้นไป อย่าพยายามยื้อเวลาด้วยคิดว่าอาการอักเสบหรืออาการติดเชื้อจะหายไปเอง เพราะมันไม่สามารถเป็นไปได้ หากยังมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกาย ยิ่งทิ้งไว้นาน เนื้อเยื่อในร่างกายยิ่งถูกทำลาย จนยากที่จะแก้ไขให้ดีได้เหมือนเดิม

3. อาจเกิดการเอียงได้
ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างของฐานจมูกที่เอียงมาก่อนอยู่แล้ว หรือเกิดจากการเหลาที่ไม่สมมาตรของแพทย์ หรือในลักษณะที่ฝืนเนื้อเยื่อของผิวหนังมากเกินไป หากทางแพทย์เห็นแล้วว่าเอียง ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด การรีบแก้ไขให้ทันภายในระยะเวลาแรกเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากทิ้งระยะเวลานาน อาจจะทำการแก้ไขได้ยากกว่าเดิม
ขอบคุณที่มา ... บทความจากสมาคมศัลยแพทย์ไทย
** เนื้อหาบทความทางstmstyle ได้ทำการปรับและเรียบเรียงเพิ่มเติมเนื้อหาเล็กน้อยเพื่อให้ผู้อ่านได้อ่านเข้าใจได้มากขึ้น โดยไม่ทำได้ทำการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาแต่อย่างใด

โดย: Prawit เวลา: 2011-9-16 15:00
ตอบกระทู้ stmstyle ตั้งกระทู้

เยี่ยมมาก เป็นบทความที่ดี ให้ความรู้ที่เป็นสาระดี แต่ก็ขอแสดงความคิดเห็นดังนี้
เห็นด้วยทีซิลิโคน ไม่ใช่วัศดุเทียม ที่ดีที่สุดสำหรับการเสริมจมูก แต่ในชั่วโมงนี้ ก็ไม่มีวัศดุสังเคราะห็อะไรที่จะดีเท่า ซิลิโคน เพราะฉะนั้น ซิลิโคน ก็ยังเป็นพระเอก ที่ใช้ในการเสริมจมูกอยู่
ที่นี้ ก็อยู่ที่ว่า เราใช้มันได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม หรือไม่  ซิลิโคน นั้น ทางการแพทย์ เราใช้เพื่อใส่เสริมหนุน แก้ไข ความบกพร่องในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ที่อาจเกิดจากอุบัเหตุ  ทีนี้ ถ้าเราเอามาใช้เสริมจมูก ต้องใช้ที่เป็นเกรดระดับทางการแพทย์  และ รูปทรง สัดส่วน ก็ต้องเหลาแต่งให้มันได้สัดส่วน เหมาะเจาะกับโครงสร้าง รูปร่าง สัดส่วน ของจมูก ที่จะเสริม  ไม่ยาวไป ไม่สั้นไป มันก็จะอยู่กับเราอย่างปกติสุข ตลอดไปทั้งชีวิต
ส่วนเรื่องติดเชื้อ ถ้าได้ทำภายใต้มาตรฐาน การผ่าตัดที่ไร้เชื้อ  การติดเชื้อ ก็ไม่น่าจะ เกิดขึ้น เพราะเป็นการผ่าตัด ที่เป็นแผลที่สะอาด ไร้เชื้อ
ส่วนเรื่องเอียง ก็อยู่ที่ ดีไซน์ และการเหลาแต่งรูปทรง ของ ซิลิโคน ว่า ทำได้ดี ปราณีต มาก น้อย แค่ไหน  เมื่อเหลาได้ดีจริง โอกาสที่จะเอียง ก็จะน้อยลง

  ไม่รู้ว่า พอจะ ฟังขึ้นไหมนะ

โดย: stmstyle เวลา: 2011-9-16 15:09
ตอบกระทู้ Prawit ตั้งกระทู้

ฟังขึ้นอย่างมากเลยค่ะ
ณ ตอนนี้วัสดุที่สามารถใช้แทนซิลิโคนได้อย่างดีเยี่ยม ยังไม่มีทางใครผลิตขึ้นมา เพียงแต่ว่า ณ ตอนนี้ เกรดของซิลิโคนก้ยังมีอยู่หลายเกรดด้วยกัน ซึ่งถ้าเราเลือกซิลิโคนที่เกรดค่อนข้างต่ำแล้ว ก็มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาได้ในภายหลัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งสำคัญคือ รูปทรงจมูกของแต่ละคน อย่างที่ทราบกันว่า ตอนนี้มีการทำกระดูกอ่อนหลัึงใบหูมาใช้ ซึ่งถ้าให้พูดตามตรงแล้ว การนำกระดูกอ่อนมาใช้นั้น ส่วนที่เหมาะสมที่สุดคือแค่ช่วงปลายจมูก ส่วนตรงช่วงสันนั้น ก็ต้องใช้ซิลิโคนอย่างเดิม เพราะกระดูก่ออนไม่สามารถทำให้ทรงจมูกเด่นชัดขึ้นมาได้ จะไม่ใช่การใส่ซิลิโคนเข้าไปทั้งแท่ง เพราะการใส่ซิลิโคนเข้าไปทั้งแท่ง พอเวลาผ่านไป ด้วยแรงโน้มถ่วงโลก และการรั้งของเนื้อเยื่อ ก็อาจจะมีผลทำให้ซิลิโคนดันส่วนปลายจมูกมากจนเกินไป หรือที่เรียกกันว่าจมูกทะลุน่ะค่ะ

ส่วนในเรื่องติดเชื้อ และการเบี้ยวหรือเอียง อันนี้ การดูแลตัวเองของคนไข้ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างนึงอีกเช่นกัน

ปล. ขอบคุณคุณประวิทย์มากเลยนะค่ะ ที่มาแบ่งปันความรู้ให้กับทางเรา ได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยกัน ชอบมากๆเลยคะ่

เรื่องการเบี

ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com/)