ดั้งโด่งดอทคอม

ชื่อกระทู้: อึดอัดใจ กับ"คุณภาพ" ของ "แพทย์คุณภาพ" เดี๋ยวนี้ [สั่งพิมพ์]

โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-2 16:31
ชื่อกระทู้: อึดอัดใจ กับ"คุณภาพ" ของ "แพทย์คุณภาพ" เดี๋ยวนี้
ก่อนอื่น ต้องขอโทษที่ไม่ได้เปิดเผยตัว แต่ว่า เนื่องจากความอึดอัดใจ กับปัญหาศัลยกรรมที่เกิดขึ้นตอนนี้ จากคุณหมอ "คุณภาพ" หนึ่งในหลายๆท่านที่ฮ๊อทฮิตติดลมบนในเวปดั้งโด่งเราๆตอนนี้กัน

ที่ไม่ขอออกตัวเลย เพราะว่า ถ้าเราออกตัว หรือเอารูปลง สมาชิกในนี้ ก็อาจจะรู้ทันทีว่า ดิชั้นเป็นใคร (ถ้าพอจำหน้ากันได้) และ หมอท่านใด ปั้นให้มา ซึ่งใจดิชั้น ไม่อยากจะโจมตีคุณหมอ หรือ discredit เจสะจงคุณหมอ เพียงแต่อยากให้ "เสียง" เล็กๆของดิชั้นเสียงนึง พอจะส่งไปถึงคุณหมอทุกๆท่าน รวมถึงคุณหมอท่านนั้น เพื่อสนใจ "QUALITY" มากกว่า "QUANTITY" ค่ะ

ดิชั้นก็เป็นคนๆนึง ที่เข้ามาศึกษาหาข้อมูล จากเวปดั้งโด่ง ก่อนทำ โดยใช้ระยะเวลาพอสมควร ดูจากรีวิวของคุณหมอ หลายๆท่าน ไม่ว่า จะหมอศิริพรชัย หมอบุญถิ่น หมอเฉลิม หมอสุชาติ หมออรรถพร หมอนพรัตน์ หมอกรีชาติ หมอคมกริช หมอกมล และหลายๆหมอ ไปปรึกษาแต่ละท่านโดยตรงก็มี โทรไปก็มี จนตัดสินใจไปทำกับหมอท่านนั้น

เดิมดิชั้นเป็นคนที่จมูกมฮัมพ์ทั้งกลาง และด้านข้างด้านเดียว ด้วยความที่อยากจมูกเป็นทรงตรงๆเหมือนคนอื่น จะได้ถ่ายรูปสวยเหมือนกันสองข้าง เลยตัดสินใจอยากเหลาแค่ฮัมพ์ แต่หมอทุกท่านก็เสนอให้ใส่ซิลิโคนด้วย ก็เลยเลือกแบบของดาราคนนึงไปด้วย


โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-2 16:32
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย NONAMEPLZ เมื่อ 2011-3-2 17:00

ทำออกมาครั้งแรก ยอมรับนะค่ะว่าสวย แกนตรง ปลายหยดน้ำ สวยเชียว แต่ก็ติดที่ ฮัมพ์ที่เหลามันไม่หมดเท่าไหร่ แถมปลายก็ไม่ได้เหมือนแบบ แต่ก็ได้รับคำชมจากหลายๆคน ว่าสวย

แต่ว่า อยู่ไปไม่นาน ก็เริ่มแห้ง เล็กจนกลัวปลายจะทะลุ สุดท้ายก็ต้องไปแก้ ก็เลือกไปแก้กับหมอท่านเดิม เพราะมั่นใจท่าน แล้วก็ไม่อยากให้ทรงมันเสีย เลยเลือกทรงเดิม รวมถึง เอาปลายกระดูกอ่อนมาใส่เพิ่มเติมเพื่อความยาวที่คงทน

แต่ว่า ทำครั้งที่สอง รู้สึกว่า มันแปลกมาก เพราะว่า คิวผ่านตัดของ "ผู้รับบริการความงาม" *** เยอะมาก กว่า 8 คนได้ เราได้ทำเป็นคิวที่ 4 ในขณะที่ยังมีคิวรออีก 3-4 คิวหลังจากเรา ออกมาก็ช้ามาก ตอนที่ทำ รู้สึกเลยว่า หมอดูเร่งมือมาก ทำเสร็จก็ไม่ได้ดามเผือกจมูกให้ดิชั้น คุณหมอบอกว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องดาม ดิชั้นดูกระจกก็เห็นว่ามันเหมือนจะเบี้ยวบวมข้างที่เย็บ แต่ก็ โอเค เราคิดว่า คุณหมอคงรีบ เพราะเหลืออีกหลายคิว และคิดว่า มันอาจจะบวมจากการผ่าตัด เลยไม่คิดมาก

โดย: bloodrose    เวลา: 2011-3-2 16:34
อยากฟังต่อค่ะ แล้วเกิดอะไรขึ้นเหรอค่ะ
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-2 16:35

แต่พอผ่านไปสัก 4 วัน ก็เห็นชัดว่า ปลายมันชี้ออกไปข้างที่ผ่า แถมแกนกลางก็คดไปอีกข้าง เราก็ตกใจ ถ่ายรูปเห็นชัดเจน มีแต่คนทักว่าเบี้ยว คุณหมอก็ให้ดัด ดัดๆๆๆ เราก็ดัด แต่ก็ไม่หาย พอล่าสุด ก็บอกว่า อาจจะเบี้ยวเพราะแกนจมูกเดิมเราคด (ก็เลยงงว่า แล้วทำไมครั้งแรกมันถึงไม่เบี้ยว ทั้งๆที่ทุกอย่างเป็นอันเดิมหมด) แถมเจอปัญหาอย่างอื่นตามมาอีก ซึ่งไม่อยากเล่า ขอจบไว้รายละเอียดไว้แค่นี้ดีกว่า

เพราะเล่าไป เดี๋ยวคุณหมอท่านจะรู้ทันทีว่า เราคือใคร ซึ่งเราบอกแล้วว่า เราไม่อยากจะออกตัว ไม่อยากมีปัญหากับท่าน แต่แค่อยากพูดให้คุณหมอทุกท่าน ที่ "ให้บริการ" เสริมความงาม แก่ "ผู้รับบริการ/สมาชิก/ลูกค้า" ใส่ใจกับรายละเอียดของงานมากขึ้น ไม่ใช่เน้นแต่ "ประมาณ" จนลืมนึกถึง "รายละเอียด" และ "คุณภาพ" ซึ่ง สิ่งที่ทำให้ "พวกเรา" ตัดสินใจไปเป็น "ลูกศิษย์" ของท่าน

เพราะหลังๆ คุณหมอแต่ละท่าน รับเคสท์ผ่าตัดเยอะมากต่อวัน ในขณะที่เวลามีจำกัด ก็เลยทำให้ ต้องเร่งทำให้ทุกคน จนบางที ก็อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นตามมา

*** บางที ไม่ค่อยรู้สึกชอบคำว่า "คนไข้" เท่าไหร่เลย เพราะว่า เราไม่ได้ "เจ็บป่วย" แต่เรา "อยากสวย/อยากหล่อ" ไม่ใช่ว่า ไม่ทำแล้วเราจะตาย ไม่ทำก็อยู่ได้ แต่ไม่พอใจแค่นั้นเอง เลยไม่รู้ว่าจะเรียกว่ารักษาได้ยังไง แถมบางที เจอคุณหมอตอบว่า "ปกติ ทั่วไปธรรมดาคนเราก็ไม่ได้สมมาตรกันสองข้างอยู่แล้ว" ก็คิดนะค่ะว่า "ถูก" แต่โดยปกติ "ซิลิโคนก็ไม่ใช่ของที่มีอยู่ในร่างกายเราโดยธรรมชาติ" เหมือนกัน ซึ่งหมายความว่า เราอยากทำให้มันดู "สวย" ไม่ใช่ "เบี้ยว/คต" เพราะว่า ถ้าอยากให้ดูเป็นธรรมชาติในแบบนั้น ก็คงไม่ต้องมาทำกับแล้ว

อย่างไรก็ตาม ดิชั้นก็ขอออกตัว ขออภัยคุณหมอทุกท่าน ถ้าความเห็นของดิชั้น จะทำให้ท่านๆไม่สบายใจ แต่อยากขอให้ถือว่าเป็นการติเพื่อก่อนะค่ะ คือ อยากให้ชื่อของท่าน ขึ้นเป็น hall of frame ในแง่ของความสวย ไม่ใช่สุดท้าย กลายเป็น talk of the town ในแง่ร้าย เหมือนหลายๆที่ ที่โดนตอนนี้นะค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม แต่ประสงค์ขอออกความคิดเห็นค่ะ

โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-2 16:55
คือ ปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น คุณหมอแค่ว่า มันผิดปกติ แต่ไม่ได้อันตราย ไม่ต้องผ่าตัดแก้ไข หากมันไม่เกิดอาการผิดปกติเพิ่มเติมเช่นบวม อักเสบ อะไรทำนองนั้นค่ะ

ยังไงก็ตาม หวังว่า Admin และ Webmaster คงจะอนุญาตให้กระทู้ดิชั้น อยู่ต่อ ไม่โดนลบนะค่ะ เพราะดิชั้นไม่ได้เจาะจงถึงชื่อคุณหมอท่านนั้นเลยในนี้ แต่ว่า ไม่อยากลงรูปประกอบ เพื่อตัดปัญหาการลิงค์ไปเจอกระทู้ review แรกของดิชั้นค่ะ
โดย: bermuda    เวลา: 2011-3-2 17:03
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย bermuda เมื่อ 2011-3-2 17:20

...................................


โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-2 17:05
พี่ที่ pm มาถามดิชั้นหลังไมค์ เรื่องคุณหมอ ดิชั้นขออนุญาตไม่ขอเอ่ยชื่อคุณหมอจริงๆค่ะ รวมถึงข้อสันนิษฐานต่างๆ ก็ขอให้พี่อย่านำมาโพสต์ต่อในนี้เลยค่ะ ดิชั้นได้แก้โดยลบข้อความบางส่วนนั้นออกไปแล้ว เพราะดิชั้นไม่อยากให้กระทบหมอที่อยู่ในข่ายความเป็นไปได้นั้น โดนเหมารวมไปด้วยค่ะ

อย่างที่บอกค่ะ ว่า แค่อยากให้คุณหมอทุท่าน หันมองที่คุณภาพของงาน และความพอใจของผู้รับบริการความงาม มากกว่า ปริมาณ และ รายรับที่ได้รับมากขึ้น จนทำให้เกิดความเป็นไปได้ของความผิดพลาดต่างๆที่เกิดขึ้นตามมา จนทำให้ผู้รับบริการเรื่องความงาม มีปมด้อยเพิ่มขึ้นในใจเลยค่ะ
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-2 17:10
จิงๆ วันที่ไปปรึกษากับคุณหมอมาล่าสุด ก็มีคนชมว่า จมูกสวยนะค่ะ ทั้งก่อนแก้ (ทำครั้งแรก) และหลังแก้ (ครั้งที่สอง) มีพี่ๆที่เจอหลายๆคน ก็กระเถิบเข้ามาถาม ก็ยังบอกว่า สวยจังเลย ถ้าเจอเราเร็วกว่านี้ จะขอเอาจมูกเราเป็นแบบ อะไรทำนองนั้น แต่ว่า ก็ไม่วายโดนทัก เรื่อง "ปลายแหลมมาก" สำหรับครั้งแรก และ "ปลายเบี้ยว" สำหรับครั้งที่สอง ค่ะ
ตอนนนี้ ก็พยายามดัด (แต่ก็ไม่ไปซะที) และรับสภาพอยู่ค่ะ
ดิชั้นถือสโลแกน ผู้หญิงอย่าหยุดสวยค่ะ
โดย: first_berry    เวลา: 2011-3-2 17:51
เป็นกำลังใจให้นะครับพี่สาว
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-2 18:03
ต้นฉบับโพสต์โดย porpuan เมื่อ 2011-3-2 17:47
ขอบคุณที่มาเล่าประสบการณ์
แต่จริงๆสามารถลงรูปเพื่ ...

ค่ะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ แต่ก็ตอนนี้ ไม่คิดจะไปแก้ไขกับคุณหมอท่านแล้วค่ะ เพราะว่า เราติตรงที่ฮัมพ์ที่เหลาให้เรา มันไม่หมด เหมือนท่านเหลาไม่ได้ตรงจุด เราโก่งข้างซ้าย แต่ท่านเปิดรูจมูกเราข้างขวา แล้วทแยงข้างไปขูด ขูดฝให้ตายมันก็ไม่มีทางเปิดหมด แล้วจะไปแก้ทำไมล่ะค่ะ แก้ปลายเบี้ยวได้ แต่มันก็ไม่ตอบโจทย์

ตั้งใจว่า จะไปหาหมอท่านอื่น ที่ท่านจะยอมเปิดรูจมูกเราข้างซ้าย เพื่อเหลาฮัมพ์ข้างซ้ายเราตรงๆเลยดีกว่า ยอมเสียตังค์ แต่ตอบโจทย์ที่เราต้องการในครั้งแรกดีกว่าค่ะ

และที่ไม่อยากลงรูป ก็เพราะกัวเค้ารู้ว่าเป็นคุณหมอท่านไหนแค่นั้นเองค่ะ เพราะเราไม่อยากเจาะจงใคร จริงๆค่ะ
โดย: Chamchoy    เวลา: 2011-3-2 18:57
อ่านข้อความแล้วก็เห็นใจเจ้าของกระทู้นะคะ และก็แอบอึดอัดกลุ้มใจในตัวเองด้วยว่าจะใช่คุณหมอคนที่เรากำลังจะไปเสริมด้วย (8 มีนาคม)นี้ ลุ้นในใจว่าจะใช่คุณหมอคนนี้หรือเปล่า??? แต่มาถึงขนาดนี้แล้วยังไงก็จะยังเสริมจมูกค่ะ และจะต้องทำใจยอมรับมันให้ได้หากมันจะเบี้ยวนิดเบี้ยวหน่อย เพราะเชื่อว่าไม่มีใครมานั่งจ้องหน้าจับผิดจมูกเราทั้งวันทั้งคืนหรอก  คิดในแง่บวกเข้าไว้  เจ้าของกระทู้สู้ๆ นะค่ะขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีค่ะ
โดย: nobody_007    เวลา: 2011-3-2 19:39
คุ้นสโลแกนมากเลยอ่ะ ผู้หญิงอย่าหยุดสวย ขอหั้ยแก้ใหม่เปนครั้งสุดท้ายนะคะ ออกมาดีๆค่ะ เราก้อมีปัญหาเหมือนกัน รอลุยอย่างเดียวค่ะ
โดย: paxky    เวลา: 2011-3-2 19:41
หนูก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ทำศัลยกรรมแล้วไม่ได้ดั่งใจหวัง แอบน้อยใจตัวเองเล็กๆ ช่วงแรกๆก็แอบด่าหมอว่าทำไมไม่ทำให้ดีๆแต่ตอนนี้ปลงแล้วค่ะก็เราเลือกเองที่จะเสี่ยงเพื่อความสวยหากผลออกมาไม่เป็นอย่างที่หวังก็ต้องทำใจ แต่จะหาหมอที่ตอบโจทย์เราได้ให้มากที่สุด พี่ก็อย่าท้อนะค่ะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
โดย: notdy    เวลา: 2011-3-2 20:19
ของดี้ก็มีฮัมพ์เหมือนกัน ทั้งซ้ายขวา แต่หมอเปิดข้างขวา (คงเป็นเพราะเปิดได้ข้างเดียว) เอ... หมอจะตะไบหมดไหมหนอ อ่านที่คุณจขกท.เขียนก็เลยแอบกลุ้มเคสตัวเองไปด้วยนิดนึง...

ยังไงก็เอาใจช่วยจขกท.นะคะ ดี้เองก็เป็นเคสแก้เหมือนกัน เข้าใจความรู้สึกดีค่ะ เราก็อยากทำออกมาให้มันสวยสมใจ+เป็นครั้งสุดท้ายอะเนาะ

ยังไงก็สู้ๆนะคะ ดี้ว่าปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ : )
โดย: kittykat@    เวลา: 2011-3-2 20:21
ทุกคนรู้ค่ะว่าการทำศัลยกรรมมีความเสี่ยง แต่เสี่ยงที่จะดูดีขึ้นมากกว่าที่ทำแล้วเลวร้ายทุเรศมากว่าเดิมถ้าทำแล้วไม่ดูดีจะทำ ทำไหม  เห็นใจทุกท่านที่เจอปัญหา เพราะหมอทุกวันนี้พอเริ่มดังคิวก็เยอะตามมา เน้นปริมาณแต่คุณภาพไม่ได้คงที่ แถมราคาก็ไม่คงที่ด้วย เฮ้อ เซ็ง

โดย: misho    เวลา: 2011-3-2 20:31
การศัลยกรรมก้มีความเสี่ยงทุกเศสแหละคะ อย่างเราก้เบี้ยวมาแต่หมอรับผิดชอบอยู่ หมอรับประกันอยู่ว่าถ้าเบี้ยวหรือไม่ชอบทรงให้เข้าไปหาได้ เราจริงๆก็ไม่อยากแก้เพราะมันเบี้ยวตรงหัวนิดเดียว มองไม่เห้นแต่ถ้าคลำจะรู้อ่ะคะ ดีที่หมอที่เราทำนี่รับวันละไม่กี่คน สองสามคนต่อวัน เราก็ไม่รู้สึกแย่เวลาไปปรึกษา ตอนนี้เราไปแก้มาแล้ว ยังไงก็เป็นกำละงใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ
โดย: HongRim    เวลา: 2011-3-2 21:03
เรื่อง ขูดฮัมพ์หรือเหลาฮัมพ์งานยากจริงๆครับ ลองหาหมอท่านอื่น ดูครับ
แต่คิดว่าน่าจะแพงมาก ลองหมอสมศักดิ์ที่ดารานักร้อง มักไปทำกันสิครับ
ฝีมือก็เทพ ราคาก็เทพมาก ลองดูนะคัรบ
โดย: bailey    เวลา: 2011-3-2 23:18
เห็นใจ จขกท นะคะ เข้าใจว่าไม่อยากเผยชื่อหมอ(ดัง) อย่างไรก็ขอให้ได้หมอดีๆนะคะ โชคดีค่ะ
โดย: opor18    เวลา: 2011-3-3 10:02
แฟนเราทำกับหมอ หลังเรา เราทำก่อน แต่จมูกแฟนมีฮัมส์ เลยทำให้เสริมออกมาเบี้ยวอยากเห็นได้ชัด สังเกตุหลายคนแล้วค่ะ ถ้าคนมีฮัมส์โอกาสเบี้ยวมีเยอะกว่าคนไม่มีฮัมส์ เพราะการวัดการเหลาซิลิโคนให้ครอบกับรอยต่อของฮัมส์มันยากค่ะ..ต้องหมอเทพเท่านั้นถึงจะทำได้ และต้องเสียค่าใช้เยอะมากๆด้วยค่ะ
โดย: noopuk    เวลา: 2011-3-3 20:47
การที่เราตัดสินทำอะไร เราก้ออยากจะได้ในสิ่งที่ดีที่สุด อิอิ
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-3 23:08
ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับกำลังใจ
ตอนนี้ก็แค่พยายามทำใจสบายๆกับความผิดปกติที่เกิดขึ้นในรูจมูกข้างที่ไม่ได้ผ่า รวมถึง พยายามทำใจรับกับสภาพแกนคดอีกรอบ และถ้าไม่ดีขึ้น ก็คงไปปรึกษาคุณหมอท่านอื่นๆดูว่าจะแก้ไขได้ในกรณีไหนบ้าง แต่ที่กลัว ก็คือ แค่ไอ้ความผิดปกติที่เกิดขึ้นในรูจมูกข้างที่ไม่ได้ผ่า จะไม่สามารถแก้ไขได้ถ้าทิ้งไว้นานๆเนี่ยแหล่ะค่ะ
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-3 23:19
และอย่างที่บอกค่ะ ไม่เคยคิดจะโจมตีคุณหมอเลย (ไม่อย่างนั้น ก็คงลงรูป รวมถึงเอ่ยชื่อคุณหมอออกมาแล้วจริงๆ) แต่ แค่อยากให้วงการศัลยกรรมของบ้านเรา พัฒนามากขึ้น ในแง่ของความปราณีต  ใส่ใจ และเช็คความละเอียดมากกว่านี้ค่ะ

เพราะ นอกเหนือจากเรื่องปลายและสันที่คดเบี้ยวแล้ว คุณหมอก็ไม่ได้แนะหรือว่าเสนอจะแก้ไขให้เลย โดยเฉพาะความผิดปกติที่เกิดขึ้นในรูจมูกอีกข้างที่ไม่ได้เปิดแผล แต่กลับบอกว่า ไม่มีอันตรายใดๆ ปล่อยไว้ได้ ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดใหม่เพื่อแก้ไข ..... จุดนี้ ทำให้เสียความรู้สึก ยิ่งกว่า ตอนที่คุณหมอว่า โครงเดิมเราเบี้ยว เลยทำให้ออกมาแล้วเบี้ยว (แต่ทำไมตอนเสริมเสร็จครั้งแรก กลับบอกเราว่า เราแค่มีฮัมพ์ไปด้านข้าง แต่แกนจมูกเราตรงปกติ)
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-3 23:34
จากที่ คุณ ปอ แนะนำให้กลับไปเคลียร์กับคุณหมอท่านเดิม ดิชั้นไม่อยากกลับไปเคลียร์แล้วจริงๆค่ะ เพราะตอนนี้ เหมือนหมดกำลังใจกับคุณหมอท่านจริงๆ ก่อนหน้านี้ ทั้งก่อนทำครั้งแรก หรือก่อนแก้ครั้งที่สอง ดิชั้น เทใจ ให้ท่านหมดจริงๆ ใครอยากเสริมจมูก ดิชั้นแนะนำให้ไปหาท่านเสมอ เพราะเชื่อว่าคุณหมอจะดูแลเราดี จะแก้ให้ ถ้าเกิดความผิดปกติ อย่างตอนที่จะแก้ปลายบาง คุณหมอก็นัดแก้ให้ฟรี ไม่คิดสตางค์ สามารถทำได้ทันที แต่เนื่องจากเราชอบทรงเดิมและทรงปลายมาก จึงยอมเสียตังค์เพิ่มเพื่อเอากระดูกอ่อนมาทำ แต่พอตอนนี้ เกิดปัญหา บิด แกนคด ปลายเบี้ยว แถมได้ความผิดปกติเพิ่มในรูจมูก คุณหมอกลับบอกว่า แกนคดเพราะกระดูกเราคด (แต่ครั้งแรก แกนเดิมกลับตรง) แถมบอกว่าปลายไม่เบี้ยว (ทั้งๆที่ทุกคนบอกว่ามันเอียง) ส่วนไอ้ความผิดปกติอันนั้น ก็บอกว่าไม่เป็นอันตราย ไม่ต้องผ่าแก้ไข ก็เหมือนกับว่า ให้เราทำใจยอมรับความผิดปกตินั้นไปโดยปริยาย มันทำใจไม่ได้จริงๆค่ะ จนไม่อยากกลับไปพบคุณหมออีก อยากเก็บความรู้สึกดีๆที่ยังคงมีกับท่านอยู่บ้างไว้ ไม่อยากให้มันหายไปมากกว่านี้ อย่างน้อย กับลูกศิษย์ท่านคนอื่นๆ ก็ยังออกมาสวยงาม รวมถึงคิวอีกหลายๆคิวของท่าน ก็แค่อยากให้ท่านใส่ใจเก็บรายละเอียด มากกว่า เพราะอย่างที่บอกว่า ของดิชั้นแก้เสร็จครั้งนี้ ไม่มีแม้แต่กระดาษกาวดามดั้งกับแกนจมูกเลย ปล่อยให้ดิชั้นเดินออกมาโท่งๆแบบนั้นกลับบ้าน  
โดย: bigdoor    เวลา: 2011-3-4 07:29
ก็ต้องเข้าใจในสัจจะธรรมของคนที่ไม่รู้จักพอ...ด้วยเหมือนกัน

ศัลยกรรม... เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของร่างกาย  ปากแหว่ง เพดานโหว่ หนังตาตก  ทำให้มันพอดูได้เหมือนคนปกติ

แต่เมื่อคนมันเอามาใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงร่างกาย และดีมานด์ก็เยอะเหลือเกิน อยากได้โน่นอยากได้นี่  ไม่รู้จักพอ  คำจำกัดความของสวย ของหยดน้ำ ของโด่ง มันก็ไม่ได้ตรงกันทุกคน ก็ต้องตกเป็นเครื่องมือทำมาหากินของคนบางกลุ่ม  ... มีใครไหมที่ทำศัลยกรรมครั้งเดียวจบ   ของเราก็จมูกสาม ตาสาม
   อยากได้ไม่สิ้นสุด  ก็ว่าจทำจมูกอีกรอบ... ไม่เคยโทษใคร  เพียงแต่ทำแต่ละครั้ง เวลาต่างกัน เงื่อนไขต่างกัน  เมื่อเวลาผ่านไป คำว่าสวยมันเปลี่ยน  ก็ต้องทำใหม่อีกแระ   
โดย: assaporn    เวลา: 2011-3-4 07:44
???????????????????
โดย: robotmer    เวลา: 2011-3-4 08:21
ก็เอาใจช่วยเจ้าของกระทู้นะครับ เห็นด้วยว่าแพทควรรักษาคุณภาพมากกว่าปริมาณครับ
โดย: Prawit    เวลา: 2011-3-4 10:37
ตอบกระทู้ NONAMEPLZ ตั้งกระทู้

ถือว่า เป็นประสบการณ์ตรงที่ได้รับมา  เป็นความจริงของธรรมชาติ งานที่เยอะเกินไป งานที่ต้องเร่งรีบทำในเวลาที่มี ผลงานออกมาย่อมด้อยลงไป ซ้ำร้าย ก็จะไม่มีเวลามาซ่อมของที่ด้อยคุณภาพ ก็เลยต้องหาข้ออ้างต่างๆนาๆ   ทั้งหมอ และ ลูกค้า ต่างมีส่วนทำให้เกิดวงจรนี้  หมอมีส่วนมากกว่า  คือหมอเปิดรับเคสจนเต็มสตรีม คือทำให้มากที่สุด โดยไม่ยอมสูญเสียเวลา และโอกาส  ไม่ได้เผื่อเหลือเผื่อขาด  ไม่ได้กันเวลาไว้สำหรับแก้ไขเคสที่ไม่ได้คุณภาพ ทั้งๆที่หมอเป็นคนทำให้เกิด  ส่วนลูกค้าเอง ก็ใจร้อน อยากทำเลย  ไปจ่อคิว ขอเสียบขอแทรก  เวลาทำงานของหมอก็ยืดยาวออกไป หมอที่ทำเคสเยอะๆ ก็เป็นเหมือคนธรรมดาทั่วไป จะเกิดความเบื่อหน่าย ทำให้มันเสร็จๆ หมดๆไป ส่วนเคสที่มีปัญหา ก็ตอบเลี่ยงๆไป จะไปผ่านไปเสียที  เบื่อกันไปข้างนึง ก็จะไปหาหมออื่น  วนเวียนอยู่เช่นนี้
  เอาละ ทีนี้ จะลดปัญหาได้อย่างไร เรื่องหมอ เราก็คงไปแก้ไขอะไรเขาไม่ได้ เพราะเป็นผลประโยชน์ ส่วนพวกเราผู้เสียประโยชน์ ก็ต้องป้องกันความเสียหายเอาไว้   ที่ทำได้ หมอที่คนไข้ เยอะๆ คิวแน่นๆ ทำวันละหลายคน ( ให้เวลาลูกค้าคนนึง น้อยกว่า หนึ่งชั่วโมงครึ่ง) ก็ไม่ต้องไปเบียดเสียด เข้าคิวกับเขา เพราะมีความเสี่ยง ทำแล้วจไม่เนียน  เพราะต้องรีบทำ และใจหมอเองก็ไม่นิ่ง ไม่สงบ อยากกลับบ้าน อยากพักผ่อนเหมือนกัน หมอที่เคสเยอะๆ จะหงุดหงิดได้ง่าย  ก็อย่างที่เราได้อ่านในหลายๆ กระทู้

   สุดท้าย หมอที่มีฝีมือ มีเวลา ที่จะทำให้ลูกค้าอย่างพิถีพิถัน น่าจะยังพอหาได้  ศึกษาให้ดี ควานหาเอาเถอะครับ  ถ้าอยากจะทำ ก็หาข้อมูลให้เยอะๆ  ถ้าไม่รู้อะไร อย่าเสี่ยงดีกว่า อยู่เปล่าๆ ดีกว่า  อย่าคิดแค่ ดีกว่าอยู่เปล่าๆ  เดี๋ยวจะไม่ได้อยู่อย่างปรกติสุข  ขอเจริญพร
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-4 11:13
ต้นฉบับโพสต์โดย Prawit เมื่อ 2011-3-4 10:37
ตอบกระทู้ NONAMEPLZ ตั้งกระทู้

ถือว่า เป็นประสบการณ์ตรงท ...

ค่ะ เรื่องนี้ก็จริง พูดถูกค่ะ ที่ดิชั้นไปทำกับคุณหมอท่านนี้เป็นครั้งที่สอ ก็คือ งานแก้ไขปลายจมูกที่แหลมจนเกือบทะลุ ซึ่ง ดิชั้นแก้ไขโดยฝใช้กระดูกอ่อนหลังหูเสริมลงไป แต่เนื่องจาก ตอนนั้นมีความเสียงที่จะทะลุมากด้วย (เพราะปลายแหลมมาก จนเป็นแท่งแหลมที่ปลาย เห็นรอยต่อระหว่างปลายซิลิโคนกับเนื้อได้ชัดเจนมาก) จึงทำให้คุณหมอ ต้องแทรกคิวของเราลงไป แทนที่จะไปรอคิว อนาคตของท่าน

แต่ที่แปลกใจคือ ตอนวันที่ปรึกษานัดแก้ คุณหมอบอกว่า วันนั้น มีคิวลงแค่ 5 คิว แต่พอวันที่ไปทำจริงๆ กลับมีหลังจากเราออกไปอีกหลายคน น่าจะอย่างต่ำ 8 คิวได้ ก็เลยแอบงงตอนนั้นว่า คิวเดือนนี้ มันน่าจะ fix จบไปหมดแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำไมจำนวนคนไข้ถึงมากขึ้นกว่าเดิมอีก ก็อาจจะเป็นเพราะรับเพิ่ม หรือเลื่อนคิวในอนาคตให้เข้ามาเยอะขึ้นรึป่าว

ไงก็ กระทู้ดิชั้น ไม่ใช่อุทาหรณ์เตือนใจ "ผู้รับบริการเสริมความงาม" นะค่ะ หรืออาจจะเป็นได้ ก็แค่ "ทางอ้อม" ในกรณีตัดสินใจทำกับคุณหมอที่ไม่ได้รับคิวเยอะจนเกินไปต่อวัน

แต่อยากจะให้เป็น "หนึ่งเสียงเตือน" ถึงแก่ คุณหมอ "ผู้ให้บริการเสริมความงาม" ให้ฉุกคิดเรื่องคุณภาพ ความปราณีต และปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่เกิดจากการ "เร่ง" เกินไปของงานที่ออกมาแต่ละเคสท์ แค่นั้นเอง  
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-4 13:26
จากที่หลายคนบอกว่า อยากให้ลงรูป เพื่อพิสูจน์ว่าดิชั้นมีปัญหาเรื่องเบี้ยวและคดจริง


รูปด้านซ้าย คือ จมูกกับแกนซิลิฯครั้งแรก
รูปด้านขวาคือ จมูกกับแกนซิลิฯแท่งเดิม แต่ใส่ปลายกระดูกอ่อนเข้าไป

มันเอียงมาทางขวา (ซ้ายของรูป)
และที่เห็น ก็เป็นแค่ปัญหาภายนอกที่มองเห็น
แต่ไม่รวมปัญหาภายในที่มองไม่เห็น




โดย: junnyy    เวลา: 2011-3-4 14:52
เป็นกำลังใจให้นะครับ ผมก็เจอคล้ายๆกัน กะลังคิดอยู่ว่าจะแก้กะหมอเดิมหรือหาหมอใหม่ดี พอยุบลงแล้วทรงไม่สวยแล้วก็ไม่ได้ไกล้เคียงกับแบบเลย ต้องลุ้นกันจริง
โดย: mam6009    เวลา: 2011-3-4 15:04
อ่านแล้วเหนื่อยแทนคะ  พูดไม่ออก เขียนไม่ถูก  เอาใจช่วยนะคะ
โดย: nuchid    เวลา: 2011-3-4 15:05
น่าเห็นใจมากๆๆ  ความรู้สึกที่จมูกเราไม่สวยเนี่ยเป็นไงเราก็เคยเจอมากับตัวเอง แต่ยังดีที่หมอเห็นแล้วนัดแก้ไขให้เราเลย  หากหมอมีจรรยาบรรณที่ดีก็ดีไป   หากหมอไม่มีจรรยาบรรณเอาแต่เงินนี่สิ  คนอย่างเรา ๆ ๆ ที่ต้องการสวย  กลับ กลายเป็นความซวย!!!!!  ยังไงเราก้อเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นี้ ขอให้เจอหมอที่ดี ถึงไม่เก่งมากแต่รับผิดชอบแบบ เครีย ๆ ดีกว่า อ้างเหตุผล 108-1009 นะค่ะ  ( จากเด็กปราจีน )
โดย: dreamjung    เวลา: 2011-3-4 15:06
หมายเหตุ: ผู้โพสต์ถูกแบนหรือถูกลบ โพสต์นี้ถูกปิดโดยอัตโนมัติ
โดย: พรอม    เวลา: 2011-3-4 15:16
เครียดแทนแลย
โดย: Kochawan    เวลา: 2011-3-4 15:33
เปนกำลังใจให้นะคะ แต่เรื่องจิงนะพอหมอดังก้อคนไข้เยอะ พอเยอะก้อขึ้นราคาอ้างซิลี่ราคาสูงขึ้น เพราะ บางที่ก้อเหนว่าเพิ่งจะผ่านมาปีกว่าพอดังหรือคนรู้จักเยอะๆๆ ก้อ up 2000-3000 -5000  แต่ก้ออย่างว่าอีกนั่นแหละการศัลยกรรมเปนการเสี่ยงเหมือนกันคนอื่นทำมาสวยๆแต่ทำมัยของเรากลับห่วย ก้อพยายามดูหมอที่ดีๆๆนะคะ คิวไม่แน่นเอี๊ยด ซะจนไม่มีเวลาพิจารณาดั้งเราให้ดีๆ เพราะเราต้องคิดนะคะทำทีไม่ใช่บาทสองบาทนะเปนหมื่น (เงินนะไม่ใช้เศษกระดาษ อิอิ) เจ็บตัว เสียตั้งค์ เสียเวลา แถมเสียความรู้สึก เราก้อเปนอีกคนนึงที่ดวงซวยเหมือนกัน (แต่คนละหมอนะ)
โดย: Lamos    เวลา: 2011-3-4 15:52
งานศัลยกรรมเหมือนกับงานศิลปะครับ  ทำลวกๆรีบๆไม่ได้
อ่านแล้วเห็นใจ จขกท. มากครับ ผมว่า แก้กับหมอท่านอื่นเถอะครับ หลังหลังให้หมอท่านนี้เถอะสบายใจกว่า

ขอให้แก้ไขข้อบกพร่องแล้วกลับมาสวยเหมือนเดิมนะครับ
โดย: alexandra    เวลา: 2011-3-4 15:56
         เอาใจช่วยนะคะ ขอให้ครั้งต่อไปเเก้เล้วออกมาดีนะทีเเรกที่ยังไม่รู้จักดั้งโด่งเราก็เครียดเเละคิดว่าตัวเองโชคร้ายอยู่คนเดียวที่ทำกี่รอบก็ยังบิดไปบิดมา พอได้มาอ่านหลายๆรีวิวก็คิดได้ว่ายังมีอีกหลายคนที่มีปัญหาหลังการเสริมจมูก บางคนทำมา 7-8 ครั้งก็ยังมี น้อยคนนักที่ทำเเค่ครั้งเดียวผ่าน เเต่สำหรับเพื่อนหลายๆคนก็ยังโชคดีที่อยู่ใกล้หมอ พอเกิดอะไรผิดพลาดก็ยังไปหาหมอนั่นนี่เพื่อปรึกษาเเก้ไขได้ บ้านเมืองเราเจ็บไข้ได้ป่วยก็ยังสะดวก ไปร้านขายยาเขาก็จ่ายยาเเก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อให้ เเต่อยู่ประเทศที่เคร่งครัดยาเเก้ไข้ยังซื้อกินยากเลย
          เราเองไปเเก้มาได้ 5 เดือนเเล้วตอนนี้ก็ยังสันจมูกเเดง ซิลิโคนกรวง ได้ยินเสียงเหมือนน้ำอยู่ข้างในเลย เเละบิดเบี้ยวเป็นรูปตัว C ตัว S เเละเจ็บๆเคืองๆ วันดีคืนดีมีเลือดไหลออกมาอีกตะหาก จากครั้งเเรกที่ทำเบี้ยวไปขวาไปเเก้เสร็จก็เบี้ยวไปทางซ้าย ไปหาหมอมาหลายที่ เเต่ละที่ก็บอกให้กลับไปหาหมอเดิมเพราะเขาว่า ''อย่ามาเเก้กับเราเลยเสียดายเงิน กลับไปให้หมอที่ทำเเก้ดีกว่าเผลอๆไม่เสียเงินด้วยซ้ำ เพราะดูเเล้วซิลิโคนของคุณโดนเจาะรู(อันนี้เราไม่เเน่ใจต้องดูวันที่เเก้หละ) เพื่อให้เนื้อเยื่่องอกเเล้วหมออื่นเเก้ยาก'' กริ๊ดๆๆๆเเจคพอทเเตกเลยดิฉัน เบี้ยวอย่างเดียวก็หนักใจเเล้ว นี่หนักกว่าเก่าอีก
         ไม่ว่าใครก็ต้องหาหมอท่านใหม่ทั้งนั้นเเม้เเต่ตัวเราเอง หมอดีๆมีฝีมือเยอะเเยะ เรื่องอะไรหละจะกลับไปหาหมอเดิมให้เสียเงินเสียความรู้สึกอีก เเล้วถ้าเขาเเก้ออกมาดันเบี้ยวอีก มันก็จะเสียเวลาเราเปล่าๆ เจ้าของกระทู้คิดถูกเเล้วหละค่ะที่ไม่ออกนามทั้งชื่อคุณทั้งชื่อหมอ ขอให้ครั้งต่อไปผลงานออกมาดี ไม่มีปัญหานะคะ
โดย: tsuke    เวลา: 2011-3-4 16:01
ตอนผมทำกับคุณหมอเฉลิมผมทำราวๆห้าทุ่ม น่ะ ห้างปิดแอร์หมด ร้อนก็ร้อนเปิดพัดลมทำ ถามว่าประทับใจไหม ไม่ครับ เพราะหมอดูรีบๆมาก แล้วก็ไม่ได้ดูเลยว่าทำเสร็จแแล้ว แล้วหมอก็เย็บเลย อยากให้หมอรับคนไข้ให้น้อยลงต่อวันน่ะ แล้วก็ใส่ใจกับคนไข้มีเวลากับคนไข้ให้มากกว่านี้หน่อย ไหนๆก็ขึ้นราคาซะสูงลิ่วแล้ว  ก็อยากเป็นอีกหนึ่งเสียงสะท้อนปัญหาในการบริการด้วยน่ะครับ  ขอบคุณและสวัสดี
โดย: sonow    เวลา: 2011-3-4 16:02
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย sonow เมื่อ 2011-3-4 16:05

อ่านแล้วเห็นใจมากเลยครับ
ผมว่า จขกท.น่าจะเตือนเพื่อนๆ นะว่าหมอท่านไหนอย่างน้อยก็เป็นประสบการณ์ตรงของ จขกท.เอง เผื่อคุณหมอจะได้ปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้น เพื่อนๆ ก็จะได้รับรู้ข้อมูลและเป็นตัวช่ีวยให้เพื่อนได้ใช้วิจารญานได้อีกทางนึงครับ(ไม่บอกชื่อตรงๆ ก็ได้ แค่เกริ่นๆ ก็ได้ครับ) หรืออย่างน้อยเวลาที่คุณหมอทำพลาดไปก็จะได้กลับมาดูแลคนไข้บ้าง ไม่ใช่ว่าพอมีชื่อเสียงแล้วพอทำอะไรผิดพลาดแล้วคนไข้ขอร้องให้แก้ไขให้ก็ไม่แก้ไขให้ แถมต้องรอคิว+คิดเงินเพิ่มอีก  อยากให้คุณหมอเห็นใจคนไข้บ้างเพราะคนไข้ทุ่มเทความไว้เนื้อเชื่อใจและได้ฝากความหวังไว้กับคุณหมอเกิน100%ไปแล้ว บางคนเงินก้อนนี้เค้าเก็บกันมาค่อนปีหรือหลายปี อย่าให้ผลงานที่เพียงแค่ต้องการทำยอดทำเงินของคุณหมอมาทำลายจรรยาวิชาชีพและจิตใจอันดีงามของคุณหมอเลย และได้โปรดอย่าทำร้ายคนไข้ตาดำๆ เลยครับ

โดย: Rayong555    เวลา: 2011-3-4 16:10
ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ  หาหมอเก่ง ๆ ปราณีตแก้กันต่อไป

อ่านแล้วก็อึ้งเหมือนกัน  คงเป็นอุทาหรณ์ให้หมอหันมาเน้นเรื่อง
คุณภาพมากกว่าปริมาณ
โดย: RAJIO    เวลา: 2011-3-4 16:13
ผมเป็นอีกคนหนึ่ง ที่รักการศัลยกรรม เพื่อต้องการให้ตัวเองดูดี เมื่อเรารับการบริการเเล้ว เเน่นอนเลยว่าคาดหวังที่จะให้ดูดี พอได้อ่านของพี่เเล้วรู้สึกกลัว เเละเป็นบทเรียน ขอบคุณมากๆเลยนะครับ สำหรับบทเรียนบทนี้ เเละผมจะเป็นกำลังใจให้ เเละที่ชอบมากๆของข้อความนี้คือที่เขียนว่า (อยากให้ "เสียง" เล็กๆของดิชั้นเสียงนึง พอจะส่งไปถึงคุณหมอทุกๆท่าน รวมถึงคุณหมอท่านนั้น เพื่อสนใจ "QUALITY" มากกว่า "QUANTITY" ค่ะ) ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
โดย: natthawat    เวลา: 2011-3-4 16:33
ขอบคุนสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-4 16:41
ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ก็ ไม่คิดว่า พอลงรูปแล้ว จะมีคนสนใจเยอะขึ้น 555 (ในความเครียด ก็ยังมีความขำได้)
ก็ แหล่ะค่ะ ไม่อยากลงชื่อหมอ เพราะ เรายังเชื่อว่า หมอท่านนี้ มีความสามารถ มีศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ เพียงแต่ขาดเวลาในการเจียรไนงานแค่นั้นเองค่ะ และหมออีกหลายๆท่านทีเป็นที่นิยมตอนนี้เช่นกัน

จึงอยากเหมือนแค่เป็นเสียงเตือนถึงจุดประสงค์หลัก ของการเสริมจมูก คือ เสริมความงาม ไม่ใช่ เสริมสิ่งแปลกปลอม ให้ร่างกาย เพราะฉนั้น งานนี้ก็คือศิลปะ

ศิลปะก็ต้องการเวลาในการขัดเกลางาน และคุณหมอท่านที่ดิชั้นไปมา ดิชั้นเชื่อค่ะ ว่าท่านมีศิลปะในตัวแน่นอน ขอให้ท่านได้เคลียร์เวลาตัวเองมากขึ้น นับจากนี้ไป พอแล้วค่ะ

ขอบคุณมากค่ะสำหรับทุกกำลังใจ
โดย: plathong_jang    เวลา: 2011-3-4 16:49
เฮ้ออออออออออออออออออออ เมื่อไหร่ นะที่พวกคุณหมอจะ ปรับปรุง
เราคิดว่าเรารู้นะว่าหมออะไร แต่เราก็ไม่อยากเอ่ยชื่อเหมือนกัน กอนเราไปทำเราก็คิดแล้วว่า "เอาวะไหนๆก็ไหนๆและเอาหมอเทพนี่แหละวะ ถ้าหมอเทพทำให้ผลออกมางัยก็น่าจะดีกว่าหมอไม่เทพ งัยมันต้องออกมาดีเหมาะกับเราแน่ๆ" ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ผิด  หมอเทพก็พลาดได้แถมพลาดแล้วแถได้เรื่อยอีก  คือของเราจะเอียงนิดๆ ตรงหัวตาก็ยังถือว่าโชคดีกว่าคนอื่นๆนะเราว่า แต่ยังงัยมันก็อยู่บนหน้าเรางัย มองเผินๆคนอื่นไม่เห็น แต่เราอะเห็นหน้าเราทุกวัน ก็หงุดหงิด ตรงหว่างตาสูงเกินไปสำหรับเรา (ก่อนหน้าวันไปทำไม่กี่วันเห็นในกระทู้วหลายๆคนบอก "ให้บอกหมอท่านนี้ไปว่าอยากได้โ่ด่งๆ เพราะไม่งั้นจะออกมาธรรมชาติมากเหมือนไม่ได้ทำไรมาเลย" หมอคงมาอ่านเห็นป่าวไม่รุ เลยปรับวิธีการเสริมใหม่ให้ออกมาโ่ด่งๆ)  อยากได้ปลายปลายหาย หน้าเราเลยดู ดุไปเลย อยากได้หน้าหวานๆ อะ ><   ไอ้จะไปปรึกษาหมอ อ่านทู้วเพื่อนๆที่มีัปัญหา ฟังคำตอบหมอที่ตอบกลับมา และผลงานหลังแก้ ทำให้เราหวันใจ ขนาดของเคสอื่นยิ่งกว่าเราอีก เค้ายังค่อนข้างไม่ค่อยอยากจะรับผิดชอบ คนที่เอียงเห็นได้ชัดก็บอกว่าเอียงนิดหน่อย คิดว่าถ้าจะแก้เราว่าเราไม่ไปแก้กะหมอคนเดิมแระ เพราะพอเราบอกมาแก้ เราว่าหมอเค้าคงอคติกะเราและมองเราในแง่ลบไปแล้ว พอแก้ให้ก็ทำให้เราแบบมีอคติเราว่าผลงานที่ออกมาไม่น่าจะดีได้ แต่ตอนแรกเราไม่ได้อคติกะหมอเลยนะ จนได้เห็นปัญหาของเพื่อนๆ ที่เข้ามาในเว็บและช่วยกันแชร์ เลยทำให้เราฟันธงแระ ไม่รู้ว่าถ้าหมอมาอ่านที่เราพิมพ์ เค้าจะโมโหวเราหรือโมโหวตัวเองที่ทำให้มีแต่งานแก้ และเป็นที่กล่าวขานในแงลบ  เราว่าน่าเสียดายนะ ชื่อเสียงไม่ใช่ได้กันมาง่ายๆ แต่กลับไม่รักษามาตรฐานไว้ ตอนนี้ก็ได้แต่ทนทนไปก่อน คงยังทำและแก้ตอนนี้ไม่ได้ ไหนจะเงิน ไหนจะต้องหาเวลาอีก
2 อย่างนี้ไม่ได้หากันมาง่ายๆนะค่ะ ท้อจริงๆ
โดย: plathong_jang    เวลา: 2011-3-4 16:53
หงะ นี่เราพิมพ์เยอะขนาดนี้เลยหรอเนี่ย (แอบตกใจตัวเอง)
โดย: whitevanilla    เวลา: 2011-3-4 16:53
ศัลกรรมเหมือนดั่งเซียมซีค่ะ...เราเข้าใจคุณเลย..
อ่านแล้วอดีตอันร้าวรานมันกลับมาหลอน...T ^ T...
โดย: notdy    เวลา: 2011-3-4 17:12
ตอบกระทู้ NONAMEPLZ ตั้งกระทู้

แล้วตอนนี้อาการภายในรูจมูกเป็นยังไงบ้างอะคะ มันอักเสบไม๊หรือยังไงก็เล่าสู่กันฟังอีกนะคะ ดี้ก็เป็นเคสแก้เหมือนกัน เอาใจช่วยค่ะ
โดย: chinjang1977    เวลา: 2011-3-4 17:23
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะคะ ขอให้แก้จมูกใหม่คราวนี้สวยสมดั่งใจอยากได้นะคะ  จะรอดูรูปค่ะ หรือจะหลังไมค์กับแนตก็ได้ค่ะ ยินดีพูดคุยปรึกษารับฟังเรื่องศัลยกรรมค่ะ สู้ๆค่ะ
โดย: zoomoo    เวลา: 2011-3-4 17:24
ขอเปนกำลังใจให้นะค่ะ คนเราก็ต้องมีเคราะห์กันบ้างค่ะแต่สิ่งที่ตามมาจะต้องดีกว่าเดิมแน่นอนค่ะ อย่าหยุดสวยนะค่ะ
โดย: khim66    เวลา: 2011-3-4 17:34
เงินสำคัญ แต่ความรู้สึกสำคัญยิ่งกว่า
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-4 17:39
ต้นฉบับโพสต์โดย notdy เมื่อ 2011-3-4 17:12
ตอบกระทู้ NONAMEPLZ ตั้งกระทู้

แล้วตอนนี้อาการภายในรูจม ...

มันไม่ได้อักเสบอะไรเลยค่ะ แต่"ไอ้จุดที่มันผิดปกติ"เจ็บจี๊ดๆนิดหน่อยค่ะ
ยังไงๆ ความผิดปกติ ก็คือความผิดปกติแหล่ะค่ะ
โดย: towie69    เวลา: 2011-3-4 18:10
เป็นกำลังใจให้นะครับ ของผมมีคิวแก้ 14 มีนาคม นี้ ชักหนาวๆๆ ร้อนๆๆๆ กับหมอ ที่จะไปทำ แล้ว

ลังเล แล้วว่าจะเป็นหมอ คนเดี่ยวกันหรือป่าว
โดย: แสนซน    เวลา: 2011-3-4 19:13
เราก็เป็นคนนึง ที่เข้ามาศึกษาเว็ปนี้ ก่อนตัดสินใจทำ

เราเริ่ม ลังเลใจแล้วล่ะสิ เฮ้ออออออ
โดย: mattan2    เวลา: 2011-3-4 19:26
อยากทราบว่าฮัมส์หมายถึงอะไรค่ะ ช่วยตอบทีค่ะ
โดย: is_joy_naka    เวลา: 2011-3-4 19:38
ถามนิดนึงนะคะ

- จากการทำครั้งแรก ไปถึงแก้ครั้งที่ 2 นานแค่ไหนคะ?

- จากการทำครั้งแรก พอเริ่มเห็นว่าปลายแหลมเกินไป อาการนี้ออกเมื่อไหร่คะ? แหลมแต่แรกๆเรย หรือว่า นานจนแก้ครั้งที่ 2 ?

ขอพูดนิดนึงนะคะ ถึงความรู้และหลักการเรื่องศัลย์เราจะน้อยมากๆ แต่ความคิดเห็นส่วนตัวเรานะคะ เราคิดว่า หมอบางท่าน หากทำแล้วคุณชอบทรง ทรงสวย ไม่ีมีปัญหาตามมา ก้อแล้วไป แต่บางทีการแก้ไขข้อเสีย อาจต้องศึกษาให้มากกว่าการเลือกทำครั้งแรก ที่ให้คิดอย่างนี้เพราะว่า ในเมื่อหมอที่ทำให้เราครั้งแรก ทำแล้วเกิดปัญหา ปลายบางใส เกือบทะลุ เบี้ยว สันขอบชัด หรืออะไรก้อตามแต่ ให้เริ่มหาข้อมูลมากๆเรย ว่าคนไข้หรือผู้ใช้บริการคนอื่นๆ เกิดปัญหาเดียวกับเราไม๊?? หากคำตอบคือ "ใช่" สันนิษฐานได้เรยค่ะว่าหมอท่านนี้ทำทรงสวยจริง แต่ปัญหาความปลอดภัยไม่มี ให้เริ่มหาหมอท่านอื่นได้เรย เราเองก้อเห็นด้วยกับคุณมากๆที่ไม่เอ่ยชื่อหมอ หรือบอกใบ้ใดๆว่าเป็นหมอท่านใด แต่ฟังจากอาการแล้วเราคิดว่าเราน่าจะเดาถูก แต่ก้อช่างเถอะค่ะ บอกเพื่อเป็นอุทาหรณ์ หรือไม่บอกเพื่อไม่ต้องการดิสเครดิต เราเห็นด้วยทั้ง2อย่าง  
เรื่องเหลาฮัมพ์ และ เรื่องปลายกระดูกหลังหู เรา"คิด"ว่า ไม่ใช่หมอทุกท่านนะ ที่จะถนัดและทำได้สวยจริง ! เราจึงเข้าใจว่าทำไมการแก้ไขปลายของคุณ ด้วยการใช้กระดูกหลังหู มันจึงเกิดปัญหา
อย่างไงก้อขอให้คุณแก้ไขออกมาได้สวยและปลอดภัยนะคะ ทำบุญใส่บาตรขอพรพระให้เรามีจมูกที่สวยงามและปลอดภัย อย่างน้อยก้อเป็นที่พึ่งทางใจได้ไม่มากก้อน้อยนะคะ เพราะเราก้อทำอยู่ประจำ ^^


โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-4 19:57
ต้นฉบับโพสต์โดย is_joy_naka เมื่อ 2011-3-4 19:38
ถามนิดนึงนะคะ

- จากการทำครั้งแรก ไปถึงแก้ครั้งที่ 2  ...

คือ ตอบแบบนี้ดีกว่า

ทำครั้งแรก 6/53 เริ่มปลายแหลม 11/53 กัวจิงจัง 12/53-1/54 แล้วก็ไปปรึกษาพร้อมนัดแก้ด่วนเลย
คุณหมอก็เลยให้คิวเสริมมา เราเลยขอปรึกษาเอากระดูกอ่อนมาเติมปลาย โดยช้แกนแท่งเดิม เพราะชอบทรงเก่าเป็นทุนซึ่งคุณหมอก็ทำให้ค่ะ ที่ตัดสินใจไปทำกับท่าน เพราะเราตอนนั้น ศรัทธาและเชื่อในความสามารถของคุณหมอจริงๆ เลยยอมกลับไป แทนที่จะไปลองหาหมอท่านอื่นดูแทนค่ะ
โดย: babizuko    เวลา: 2011-3-4 20:07
โอ๊ยเครียดเลยค่ะ ผิดหวังจากรอบแรกมา รอบสองนี้กลัวจะผิดหวังอีก แง๊ๆๆๆๆๆ
มีความรู้สึกตะงิดว่าจะเป็นหมอที่เรากำลังจะไปแก้ซะด้วย โอ๊ยๆๆๆ
โดย: pempem    เวลา: 2011-3-4 20:24
คลีนิคศัลยกรรมในปัจจุบันประเด็นหลักๆไม่ได้มีเพื่อแก้ปากแหว่งเพดานโหว่ ผู้บริโภคเสียเงินเพื่อต้องการความสวยงาม ไม่ว่ามันจะเป็นความต้องการที่ไม่สิ้นสุดก็เถอะ เพราะคลีนิคศัลยกรรมเองก็หาเงินได้จากความต้องการสวยของผู้บริโภคอยู่แล้ว ดังนั้นควรเป็นหน้าที่ของหมอที่ต้องดูแลรับผิดชอบในลูกค้าให้ดีไม่ใช่ทำแบบขอไปที เพราะการที่เราต้องเสียเงินแล้วได้จมูกเบี้ยวบวกกับเจ็บตัวกลับไปเป็นเรื่องที่ทำใจยาก
โดย: huangxiao    เวลา: 2011-3-4 22:55
เอาใจช่วยนะครับ จขกท ขอให้แก้่ครั้งใหม่ออกมาดีไม่มีปัญหานะครับ
เข้าใจความรู้สึกเลยครับ ทำแล้วมีปัญหา ก้ต้องหาทางแก้อีก
อีกอย่างหมอน่าจะรับคิววันนึงเผื่อเวลาบ้างนะครับ ไม่ใช่รับวันนึงจนเยอะแล้วก็ทำงานเร่งไม่ได้คุณภาพ
โดย: kurama    เวลา: 2011-3-4 23:54
ถ้าไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าของกระทู้ด้วยนะคับ สู้ๆ ต่อไปนะ
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-6 01:50
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ที่เข้ามาตอบกระทู้กัน และขอบคุณค่ะสำหรับข้อความหลังไมค์
มีเพื่อนๆถามเยอะค่ะ ว่า ทำกับหมออะไร และจะไม่พูด ไม่บอกใครทั้งนั้น

คือ อยากขอย้ำค่ะ ว่า เจตนาของดิชั้น คือ ขอให้หมอ "ทุกท่าน" มีความละเอียดรอบคอบปราณีตสำหรับทุกเคสต์ ทุกคิว คิวไหนยาก ก็จัดเวลาพิเศษไป ทำรีมาร์คไว้ชัดเจน ว่าเคสท์นี้จะต้องใช้เวลานานแค่ไหน อะไร อย่างไร จะได้ไม่ต้องเร่งหูดับตับไหม้ให้เวลามันจบๆครบทุกคิวในวันนั้น

เจตนาดิชั้นครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อ โจมตีคุณหมอ"XXX" เพราะถ้าลงชื่อ ก็เหมือนทำลายโอกาสหมอท่านนั้นในการปรับปรุง แถมอาจจะทำให้หมอท่านอื่น ไม่ได้ตระหนักตามไปด้วย (เพราะไม่ใช่เคสท์ตู) ทำนองนั้น

เอาเป็นว่า ก่อนขึ้นเตียง ก็ พูดย้ำกับหมอว่า ขอโทดนะค่ะ พี่ไม่อยากเอ่ยชื่อหมอเค้า เพราะไม่อยากให้มีผลร้ายต่อเค้าจริงๆ เอาเป็นว่า น้องจะไปแก้กับหมอท่านไหน น้องบอกมา พี่ขอตอบแค่ ใช่ หรือ ไม่ก็พอ

แต่พูดตรงๆนะค่ะ หมอทุกท่าน ที่คิวยาวตอนนี้ เพราะทำสวย ทำสวยก็เลยคนต่อคิวเยอะ เพื่อจะให้คิวสั้นลง ก็ต้องเพิ่มจำนวนคิวต่อวัน ทำเยอะจนขาดความรอบคอบ ความละเอียด โจทย์มันแค่นั้น

เพราะฉนั้น ก่อนขึ้นเตียง ย้ำกับหมอค่ะ "คุณหมอครับ/ค่ะ ขอความกรุณาด้วยนะครับ/ค่ะ ขอสวย โด่ง เนียน ไม่คด ไม่เบี้ยว ไม่เอียง ไม่ทะลุ นะครับ/ค่ะ ผม/ดิชั้นอยากทำครั้งเดียวจบ ไม่อยากเจ็บตัวตอนแก้นะครับ/ค่ะ" กันก็พอค่ะ เพื่อเตือนสติหมอ ก็พอค่ะ

เรามีสิทธิ์พูด ก็ต้องรักษาสิทธิ์เตือนสติหมอให้ตาสว่างนะค่ะ

ขอให้แต่นี้ ทุกคนไทย ศัลยกรรมสวยสมใจ หมอศัลฯไทย ไม่ไร้ความปราณีตรอบคอบค่ะ
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-6 14:34
แล้ว ของน้องของน้องออกมาโอเคมั้ยค่ะ?
โดย: lexapro    เวลา: 2011-3-7 10:47
ก็เห็นใจ จขกท. แต่คำว่า "คนไข้" ก็ปกตินิครับ แม้กระทั่งจัดฟัน เขาก็เรียกคนไข้กัน เราอย่าไปจิตตกคำนั้น สู้ต่อไป อย่าหยุดสวย
โดย: NONAMEPLZ    เวลา: 2011-3-7 12:22
ต้นฉบับโพสต์โดย lexapro เมื่อ 2011-3-7 10:47
ก็เห็นใจ จขกท. แต่คำว่า "คนไข้" ก็ปกตินิครับ แม้กระทั่ ...

คือ ก็อย่างที่บอกแหล่ะคะ ว่า หมอศัลยกรรม หรือแม้กระทั่ง ทันตกรรม สมัยก่อน เกิดขึ้นเพื่อ "รักษา" อาการเจ็บป่วย หรือผิดปกติ

คนปากแหว่ง เพดานโหว่ ก็รักษาให้ดูเหมือนปกติที่สุด คนฟันคุด ฟันผุ ฟันเกยกันมากจนทำให้เกิดปัญหาทางปาก ก็ต้องรักษา ถึงเป็นที่มาว่าทำไมต้องเรียกว่าคนไข้

แต่การจัดฟันเดี๋ยวนี้ ถามหน่อย ว่ามีใครจัดเพื่อให้ฟันทำงานปกติบ้าง เดี๋ยวนี้ ฟันดีๆ ยังไปจัดกันหมด เพราะต้องการความสวย

แต่ที่เค้าเรียกว่า "คนไข้" ก็เพราะว่าอีกผ่ายเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ที่เรียกว่า "หมอ" เนี่ยแหล่ะค่ะ พวกเราเลยโดนเรียกว่า "คนไข้" ไปโดยปริยาย ทั้งๆที่ทางพฤตินัยแล้ว เราไม่ใช่คนไข้ซะหน่อย

แต่ช่างเถอะ ก็บ่นไปงั้นแหล่ะค่ะ (คำว่า คนไข้นะ)
โดย: saycheese    เวลา: 2011-3-8 03:48
น่าจะบอกชื่อหมอนะค่ะ จะได้มีประโยชแก่ท่านอื่นบ้าง....แต่ก็ขอบคุนที่มาแชร์ประสบการ
โดย: nuchid    เวลา: 2011-3-8 16:42
ตอบกระทู้ nuchid ตั้งกระทู้

ไม่ได้ดวงซวยหรอกค่ะที่เล่าให้ฟังนะ  อยู่ที่คุณหมอมากกว่าค่ะที่นัดแก้ไขให้แล้วไม่ใส่ใจรายละเอียด รีบทำรีบเสร็จหรือป่าว อันนี้เราไม่ได้ว่าหมอนะ แต่ดูตามหลักความเป็นจริง
ขนาดของเรานะ  ครั้งแรกหมอให้ดูว่าพอใจไหมเราไม่กล้าดูเลย นะเรากลัว แต่พอครั้งที่ 2 การแก้ไขเรากล้าที่จะดูอ่ะ เราเล็งตั้งนาน หากไม่สวยเราก้อแจ้งคุณหมอ....... เอาจนเราพอใจกับมัน  ดีกว่าแก้แล้วไม่ดีเนอะ  เราเป็นกำลังใจให้แล้วกันนะ ขอให้แก้ใหม่อีกครั้งเป้นครั้งสุดท้าย นะเจอหมอที่ดีดี ไม่เอาเปรียบคนไข้อย่างเรา ๆ ที่รักความสวยงาม  สู้ ๆๆ
โดย: ชีวาส    เวลา: 2011-3-30 19:52
เป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ  เลือกคุณหมอที่จะแก้ให้ใหม่ได้หรือยังค่ะ  เห็นด้วยกับที่คุณพูดค่ะ  ถ้าเกิดกับดิฉันก็คงแย่  แต่การแก้ใหม่เป็นสิ่งที่เจ็บตัว และก็เสียเวลาด้วย




ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com/) Powered by Discuz! X3.2