รีวิวปรับโครงหน้า+ตา+จมูกของบิวท์ - ดั้งโด่งดอทคอม

Consulting Day

มาเกาหลีครั้งนี้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ศัลยกรรมครั้งแรกในชีวิตจะเกิดขึ้นแล้วค่า ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตเลยหละเพื่อนสาว หลังจากหาข้อมูลศัลยกรรมต้องบอกเลยว่า ความสวยครั้งนี้ขอฝากไว้ให้ รพ.บาโนบากิ ช่วยดูแล เพราะวางใจกับคุณหมอที่นี่มากๆ ชื่อเสียงคุณหมอเค้าโด่งดังจริงๆ จะสวยปังขนาดไหนรอติดตามได้เลย

หลังจากตัดสินใจมาเกาหลี จองตั๋วเครื่องบินและที่พักเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องเตรียมใจเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยนะคะ เราเพิ่งรู้เลยค่ะว่าการทำศัลยกรรมจะต้องล้างเล็บด้วย สำหรับใครที่ต่อผมก็จะต้องเอาออกมาให้เรียบร้อยด้วยนะคะ

หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าเราอยากทำอะไรบนใบหน้าบ้าง

ด้วยส่วนตัวเป็นคนที่มีชั้นตาไม่เท่ากัน ทำให้เวลาถ่ายงาน เราต้องใช้สติ้กเกอร์หรือกาวติดตาสองชั้น เพื่อให้ดูเท่ากัน ซึ่งบางครั้งถ่ายมาแล้วเห็นชัดมาก จะทำทั้งทีเจ็บตัวน้อยครั้งดีกว่าเนอะ ตัดสินใจทำจมูกเพราะรู้สึกว่าเป็นคนจมูกเล็ก หน้าตรงไม่ค่อยเห็นสันจมูก และทำโครงหน้าด้วย อันนี้เห็นรีวิวโครงหน้าที่นี่แล้วอยากทำบ้าง55555 แต่ก็อยากให้ทุกอย่างยังเป็นเราอยู่ ให้ดูละมุนขึ้น เราได้เตรียมแบบที่ชอบมาเป็นตัวอย่างคร่าวๆว่าชอบหน้าตาทรงแบบไหน แล้วก็ให้คุณหมอช่วยพิจารณาว่าแบบไหนที่จะเหมาะกับเราที่สุด

วันนี้เรามีนัดเข้ามาปรึกษากับคุณหมอ และตรวจร่างกายก่อน1วัน ได้พบกับ คุณหมอ ปาร์คออนจู เป็นผู้ดูแลศัลยกรรมตาและจมูก คุณหมอลองยกชั้นตาไล่ระดับให้ดูด้วยค่ะว่าชอบประมาณไหน แล้วคุณหมอก็แนะนำให้ทำการเปิดหัวตาเล็กน้อย ส่วนจมูกของเราส่วนปลายคุณหมอใช้เป็นซีโครงเทียมค่ะ และพบกับคุณหมอ โอชางฮยอน เป็นผู้ดูแลศัลยกรรมโครงหน้า ก็เป็นการปรับรูปหน้าให้สมส่วน และเข้ารูปมากขึ้น คุณหมอทั้ง 2 ท่านน่ารักมากเลยค่ะ แนะนำดีมากๆ หลังจากนี้พี่ๆล่ามก็เข้ามาสรุปกับเราอีกทีค่ะว่าทำรายการตรงไหนบ้าง และข้อควรทราบต่างๆหลังผ่าตัดเพื่อเตรียมความพร้อม พี่เค้าอธิบายได้กระชับและรวดเร็วมากๆเลยค่ะ หลังจากนั้นก็กลับที่พักหาของอร่อยมื้อสุดท้ายก่อนกินไม่ได้หลายวัน เตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัดตอนเช้า กลิ่นความสวยเริ่มมาแล้วอะ เป็นกำลังใจให้บิ้วด้วยน้าาา ลุยยยยค่าาา

หลังผ่าตัด 1 อาทิตย์

[attach]454695[/attach]
Day 1 (3 Jun)

ผ่านพ้นคืนแรกไปแล้วค่ะ แบบยังไม่ทรมานมากเพราะมียาแก้ปวดผ่านเส้นเลือด ไม่รู้ว่าถ้ากลับที่พักไปจะปวดขึ้นมั้ยนะ ก็พยายามตื่นมาประคบเย็นแล้วก็เข้าห้องน้ำให้ได้ลุกเดินบ้าง ตอนเช้าคุณพยาบาลมาทำแผลแล้วก็ถอดสายเดรนออก พี่ล่ามมาอธิบายการทานยาและล้างแผลเอง เตรียมตัวกลับที่พักแล้วค่ะ

Day 2 (4 Jun)

เป็นวันที่บวมพีคสุดของเราค่ะ เป่งมาก แบบแก้มจะแตก พลาสเตอร์ทุกอย่างบนหน้าตึงไปหมด หลับยาก หลับๆตื่นๆทั้งวันทั้งคืนเลย พยายามประคบ แต่ก็เพลียมากๆ ปวดจนอยากหลับให้หายปวด ไม่ค่อยมีแรงทำอะไรเลย

แต่ก็ต้องลุกมานั่งๆเดินๆในห้อง จะลองออกไปเดินข้างนอกแล้วรู้สึกเหนื่อยสุดๆ ทั้งที่ออกไปยังไปถึงไหน สรุปเราก็กลับมาพักผ่อน555555

บ่ายวันนี้ได้แกะผ้าเทปที่แปะใต้คางแล้ว แกะค่อนข้างยากเพราะเหนียวมาก แล้วก็รู้สึกเสียวๆทั้งใบหน้าและใต้คางมากๆ ต้องค่อยๆดึงสุดๆ

วันนี้ก็ยังดื่มแค่น้ำกับนม ขยับปากได้นิดเดียว ชาทั้งหน้าแล้วก็บวมไม่สามารถกินอย่างอื่นได้เลย ยังต้องหายใจทางปาก ทำให้มีอาการปากแห้งมากๆ ทาลิปก็แห้งแบบเอาไม่อยู่ ที่ยังหายใจทางจมูกไม่ได้เพราะเลือดยังไหลตลอดเวลา มีแค่ตอนนอนที่จะน้อยลง แต่โดยรวมวันนี้ก็ยังผ่านไปด้วยดีค่าา

Day 3 (5 Jun)

วันนี้มีนัดทำแผลค่ะ ร่างกายเริ่มโอเคไม่ค่อยมึนหัวแล้ว คุณพยาบาลล้างแผลให้ เช็ดภายในจมูกให้รู้สึกโล่งขึ้นเลย ทายาที่รอยแผลด้วย

Day 4 (6 Jun)

ออกมาเที่ยวแบบต้องพกทิชชู่ แวะเช็ดเลือดกับน้ำมูกตลอดเวลา เหนื่อยตรงนี้แหละ5555

Day 5 (7 Jun)

เข้าสู่วันที่5 ความบวมค่อยๆลดลงแล้วค่า แต่วันนี้ปากบวมมีความช้ำมากขึ้นเป็นสีออกม่วง แล้วก็เข้มขึ้นช่วงดึกๆ ก็เลยแอบกังวลเพราะดูน่ากลัว ไลน์ไปหาพี่ล่าม ตอนเช้าพี่เค้ามาตอบ ว่าไม่มีอันตรายใดใดเป็นบวมช้ำปกติ อุ่นใจขึ้นมากกก

Day 6 (8 Jun)

วันนี้รอยช้ำเริ่มกลายเป็นสีเหลืองมากขึ้นที่ขอบตา กับแก้มมุมปาก แล้วก็บริเวณคอ ความช้ำค่อยๆไล่ลงมาเรื่อยๆ หน้ายังคงบวมมากอยู่เต่งตึงไปหมดเลยค่า สก๊อตเทปบนหน้าเหนียวจนรู้สึกอยากล้างหน้ามากเลย แต่ต้องอดทนไว้พรุ่งนี้จะได้เอาออกแล้วค่าาา

Day 7

จะได้ตัดไหม และถอดเฝือกจมูกแล้วค่ะทุกคนนนน อยากบอกว่าเจ็บจนน้ำตาจะไหลเลย เกร็งตัวไปหมด คุณพยาบาลไม่ออมมือให้น้อนเลย แงง ยิ่งตอนถอดเฝือกคือดึงทีเดียว ใจหายแว้บเลยค่ะ

แล้วเราก็ได้เห็นจมูกใหม่ครั้งแรก วันนี้เราก็ได้ฉายแสง และเข้าเครื่องอบอ๊อกซิเจน เพื่อลดอาการบวมช้ำครั้งแรกด้วย แล้วก็ได้ผ้ารัดหน้ามาค่ะ เครื่องอบอ๊อกซิเจนนอนหลับสบายมากกกกก อาจจะมีแน่นๆหูช่วงแรก แต่เข้าไปแล้วนอนสบายจริง

วันนี้เราไปซื้อแปรงสีฟันเด็กมาด้วย หลังจากที่บ้วนปากด้วยน้ำยามาทั้งอาทิต คุณล่ามอนุญาตให้ใช้แปรงเด็กแปรงเบาๆได้แล้วค่ะ แต่ยังต้องจุ่มน้ำยาเท่านั้น ยังใช้ยาสีฟันไม่ได้ แต่แค่นี้ก็รู้สึกค่อยยังชั่วหน่อย5555 วันนี้สบายหน้าเป็นพิเศษเลยไม่มีอะไรมาแปะบนหน้าแล้ว แต่กลายเป็นยิ่งต้องระวังมากขึ้น กลัวไปชนโดนสุดๆ กลับมาที่พักก็ลองใส่ผ้ารัดหน้าเลยค่ะ

Week 2-3 รู้สึกหน้าเริ่มหวานขึ้น รอยช้ำเริ่มจางลงไปเยอะมากๆ ปากบนที่ตุ่ยเริ่มหายไปบ้าง ไว้มาอัพเดตตอน 1เดือน ให้ทุกคนดูอีกรอบนะค๊าา

1 month

สวัสดีค่ะทุกคน แล้วตอนนี้บิ้วก็ผ่าตัดมาครบ 1เดือนแล้ว วันนี้จะมาอัพเดตให้ดูกันนะคะ

ในช่วง 1เดือนแรกของเรานะคะ สำหรับอาการตอนนี้ยังชาบริเวณหน้าแก้ม รอบปาก แล้วก็มีความเสียวที่บริเวณช่วงคางอยู่ค่ะ ตอนนี้ก็ยังอ้าปากกว้างมากไม่ได้อยู่เลยค่ะ

เริ่มเห็นโครงหน้าชัดขึ้นนิดนึง รอยุบบวมอีกหน่อยแทบไม่ไหวแล้วค่ะ ตื่นเต้นนน ส่องกระจกแต่ละวันยังเดาใจหน้าตัวเองไม่ถูกเลยค่ะ บางวันบวม บางวันยุบ ตื่นมาก็จะลุ้นๆหน่อยวันนี้จะเป็นยังไงน้าา จมูกตอนนี้เริ่มเรียวขึ้น ตั้งแต่ถอดเฝือกมาก็ยังดูไม่เคยออกเลยว่าบวม จนมาย้อนดูรูปถึงได้สังเกตว่าเปลี่ยนไป บอกเลยว่าหน้าเปลี่ยนแทบทุกวันก็ว่าได้

ก่อนทำศัลยกรรม ไม่คิดว่าจะฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ ยิ่งทำโครงหน้าด้วย คิดว่าจะต้องบวมมากๆนานเลย แต่ตอนนี้บอกเลยว่าแทบจะปกติเลยค่า ถึงแม้แก้มจะยังบวมอยู่นิดหน่อย ถ้ายังลังเลอยู่อย่าตัดสินใจนานค่ะ ทำเลยเธอ ความสวยความหล่ออยู่แค่เอื้อมนะ