ดั้งโด่งดอทคอม

ชื่อกระทู้: ตัดไขมันหน้าท้อง (Tummy Tuck) เอาพุงห้อยย้อยออกไป หุ่นกลับมาดีได้จริงในชั่วพริบตา [สั่งพิมพ์]

โดย: chalsiri    เวลา: 2019-8-15 17:55
ชื่อกระทู้: ตัดไขมันหน้าท้อง (Tummy Tuck) เอาพุงห้อยย้อยออกไป หุ่นกลับมาดีได้จริงในชั่วพริบตา
หากใครกำลังประสบปัญหาหน้าท้องหย่อนคล้อย หน้าท้องย้วย หน้าท้องยาน อยู่ล่ะก็ คุณคิดถูกแล้วค่ะที่เปิดอ่านกระทู้นี้ เพราะกระทู้นี้จะเป็นกระทู้รีวิวประสบการณ์จริงของการผ่าตัดหนังหน้าท้องของเราเองค่ะ
เราเป็นคนหนึ่งนะคะที่ประสบปัญหาดังกล่าว ถ้าดูจากภายนอก เราเป็นคนค่อนข้างไปทางผอมค่ะ แต่หลังจากเป็นคุณแม่ปุ๊บ ชีวิตเปลี่ยน หน้าท้องที่เคยแบนราบกลับป่องและหย่อนคล้อย แตกลายไม่พอยังยานอีก ไม่ปลื้มค่ะ ต้องหาทางแก้ด่วนๆ


ก่อนตัดหนังหน้าท้อง


เราหาข้อมูลบนอินเตอร์เนตและในเฟสบุ๊ค ซึ่งก็มีไม่กี่ที่ที่ทำผ่าตัดหนังหน้าท้อง ซึ่งเราสนใจอยู่ที่นึงคือ รพ.เลอลักษณ์ค่ะ เราทักเฟสบุ๊คไป และก็แอดไลน์คุยกับเจ้าหน้าที่ทางไลน์ต่อ


ก่อนตัดหนังหน้าท้อง


หลังจากปรึกษาเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว เราตัดสินใจทำที่นี่ทันที ไม่คิดมากเลย เพราะ ผ่าตัดกับศัลยแพทย์ตกแต่งแท้ๆ , ดมยาสลบกับวิสัญญีแพทย์ และได้นอนพักฟื้นที่รพ. 2 คืนค่ะ


ก่อนตัดหนังหน้าท้อง


ก่อนผ่าตัดหนังหน้าท้องต้องงดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมงนะคะ เพราะเป็นการดมยาสลบ และก็มีการตรวจร่างกาย ตรวจเลือดด้วยค่ะ ซึ่งทุกอย่างออกมาปกติ เราสามารถทำการผ่าตัดหนังหน้าท้องได้ค่ะ
ห้องพักสามารถนำญาติมานอนเฝ้าได้ 1 คนค่ะของเราเป็นพี่สาวมานอนเฝ้า ส่วนสามีอยู่บ้านดูแลลูกค่ะ ในระหว่างที่นอนพักฟื้นอยู่ที่รพ. มีพยาบาลเข้ามาดูแลตลอด ฉีดยาระงับปวดอย่างดีให้ค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่าปวดฉี่ อยากเข้าห้องน้ำจะลุกไหวมั้ย? บอกเลยว่าทางรพ.เขาใส่ใจมากๆ มีการสวนท่อปัสสาวะให้ตั้งแต่เรายังหลับอยู่ (เลยไม่รู้สึกเจ็บ เพราะไม่รู้ตัว) ซึ่งเราสามารถทำธุระได้เลย ไม่ต้องขยับตัวมากเพื่อเลี่ยงการกระทบกระเทือนของแผลค่ะ


7 วันหลังตัดหนังหน้าท้องค่ะ


กลับมาพักฟื้นที่บ้าน 7 วันเริ่มเดินเหินไปปกติแล้วค่ะ แต่ยังไม่ออกแรงเยอะ ไม่วิ่ง จะบอกว่าไม่เจ็บก็ดูจะเกินไป เพราะเป็นธรรมดาของการผ่าตัดหรือมีแผล ก็มีรู้สึกบ้างค่ะ เจ็บๆตึงๆ แต่มันไม่ใช่เจ็บแบบทนไม่ได้ คลอดลูกเจ็บกว่าเยอะเลยค่ะ คอนเฟิร์ม!


เห็นแค่นี้ก็รู้แล้วว่าหน้าท้องออกมาสวยแน่ๆ


หลังผ่าตัดหนังหน้าท้อง 15 วันค่ะ


แผลจะมีลักษณะกรีดยาวนะคะ จากอีกด้านนึงไปอีกด้านนึงเลย ด้วยความที่แผลยาว เราก็ต้องดูแลเป็นพิเศษ เคล็ดลับในการดูแลแผลของเราคือ หลังจากที่ตัดไหมกับคุณหมอเรียบร้อยแล้ว เราใช้แผ่นแปะซิลิโคนลดรอยแผลเป็น ตรงนี้จะช่วยลดการเกิดแผลเป็นคีลอยด์ได้ดีทีเดียวค่ะ แต่ราคาอาจจะโหดร้ายสักหน่อยนะคะ เราเลยเลือกซื้อแบบแผ่นใหญ่แล้วมาตัดเอาค่ะ ก็ช่วยประหยัดไปได้หน่อยค่ะ (สำหรับแผลเป็นควรดูแลตั้งแต่หลังตัดไหมเสร็จใหม่ๆเลย เพราะถ้าเป็นแผลเริ่มเก่าจะดูแลยากแล้วค่ะ) ที่สำคัญคือเวลาคัน ห้ามเกาแผลเด็ดขาดค่ะ เพราะถ้าเกาปุ๊บ ระวังคีลอยด์ถามหาปั๊บนะคะ หลายคนยังไม่รู้ค่ะ


ด้านข้างค่ะ เรียบเนียนสุดๆ ปลื้มค่ะ


อาหารการกิน เรางดกินของแสลง จำพวก ส้มตำ ปลาร้า ของหมักดอง รวมถึงอาหารทะเลด้วยค่ะ 1 เดือนเต็ม ส่วนตัวไม่เป็นคนปาร์ตี้สังสรรค์อะไร เลยไม่ได้ห่วงเรื่องการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ แต่สำหรับใครที่เป็นสายปาร์ตี้ แนะนำว่าให้ดื่มหลังครบ 1 เดือนไปแล้วนะคะ มาถึงการออกกำลังกายกันบ้าง แนะนำว่าให้ผ่านไป 2 เดือนก่อนนะคะ ให้ร่างกายฟื้นตัวอย่างเต็มที่ แต่ก็สามารถยกของได้ปกติ เอาที่ไม่เกิน 2 กิโลก็น่าจะดีค่ะ



หลังตัดหนังหน้าท้อง ครบ 1 เดือนค่ะ


ด้วยความที่เราดูแลแผลอย่างดีแต่แรก เรื่องคีลอยด์เลยไม่เป็นปัญหาสำหรับเราค่ะ แผลที่คุณหมอผ่าจะอยู่ใต้ขอบบิกินี่ ใส่กางเกงในก็ปิดแล้วค่ะ ตอนนี้แผลของเรายังมีอยู่บ้าง แต่มันจะค่อยๆจางลงเรื่อยๆค่ะ



หลังตัดหนังหน้าท้องครบ 3 เดือนค่ะ

3 เดือนแล้ว เราก็ยังไม่หยุดดูแลเรื่องรอยแผลนะคะ แต่เปลี่ยนจากการใช้ซิลิโคนแผ่นแปะ เป็นเจลทาลดรอยแผลเป็นธรรมดาแล้วค่ะ เราทาเช้าเย็นสม่ำเสมอเลยค่ะ จะเห็นได้ว่ารอยแผลของเราเรียบเนียน ถ้าไม่สังเกต ก็จะไม่เห็น อาจจะเพราะมีรอยสักด้วย เลยทำให้ดูสังเกตยากขึ้น
โดย: chalsiri    เวลา: 2019-8-15 17:56

เปรียบเทียบชัดก่อน-หลังตัดหนังหน้าท้อง

เห็นได้ชัดค่ะว่าเอาหน้าท้องส่วนเกินออกไปเยอะแค่ไหน สังเกตที่รอยสัก หลังทำ หัวมังกรหายไปแล้วจ้าาาา
สำหรับใครที่กำลังสนใจ หาข้อมูล หรืออยากได้คำปรึกษา ก็คอมเม้นหรือ DM มาได้เลยนะคะ เราสามารถแนะนำได้นิดๆหน่อยๆ จากประสบการณ์ของตัวเองเท่านั้น แต่ถ้าลงลึกแนะนำโรงพยาบาลเลอลักษณ์เลยค่ะ เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับวันนี้ขอลาไปก่อน ถ้าครั้งหน้าแอบไปทำสวยที่ไหนอีกล่ะก็ จะไม่พลาดมารีวิวให้อ่านกันอีกนะคะ ขอบคุณค่ะ ^^





ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com/) Powered by Discuz! X3.2