เนื่องจากอายุที่มากขึ้น(52) ผิวหนังก็หย่อนคล้อย และมีริ้วรอยกวนใจค่ะ นอกจากเรื่องริ้วรอยแล้ว ก็จะมีร่องลึก และส่วนที่ตอบลงไปมากขึ้น เลยยิ่งทำให้ดูเป็นคนดุและดูมีอายุมากขึ้นไปอีก
ซึ่งก่อนที่จะเลือกผ่าตัดกับโรงพยาบาลบาโนบากิ เคยฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มบริเวณหน้าผากจากที่อื่นมาก่อนค่ะ แต่พอเวลาผ่านไป บริเวณหน้าผากจะมีก้อนนูนๆดูไม่เรียบเนียน (สังเกตได้จากรูปก่อนผ่าตัดรูปซ้ายค่ะ บริเวณหน้าผากจะดูเป็นก้อนนูนๆ)
ก่อนผ่าตัด ก็จะได้ปรึกษากับคุณหมอเจ้าของเคสค่ะ ซึ่งคุณหมอที่ผ่าตัดให้คือคุณหมอฮันกยูนัม
คุณหมอแนะนำว่า บริเวณใบหน้าที่ผิวหนังหย่อนคล้อยจะผ่าตัดยกกระชับด้วยไหมพิเศษ ชื่ออิลาสติคกุม
และฉีดสลายก้อนฟิลเลอร์ที่หน้าผากให้ค่ะ หน้าผากจะได้ดูเรียบเนียนขึ้น
ตอนแรกที่ได้ยินว่าต้องผ่าตัดยกกระชับควบคู่กับใช้ไหมด้วยก็กังวลเล็กน้อยค่ะ
เพราะเคยได้ยินมาเยอะจากที่อื่นๆ และจากคนรู้จักว่า การร้อยไหมไม่ค่อยเห็นผลลัพธ์ที่ยาวนานค่ะ
แต่หลังจากที่ฟังคุณหมออธิบายก็เข้าใจมากขึ้น ว่าไหมที่โรงพยาบาลบาโนบากิใช้ ไม่ใช่ไหมทั่วไปที่พบตามท้องตลาด แต่เป็นไหมที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก เสมือนกับเส้นเอ็นของคนค่ะ
นอกจากจะมีการใช้ไหมนี้ในการศัลยกรรมความงามแล้ว ยังใช้เป็นวัสดุในการผ่าตัดหัวใจ หรือผ่าตัดเส้นเอ็นด้วย จึงมีความปลอดภัยสูงมาก และที่สำคัญ หากมันมาอยู่บนใบหน้าเราแล้ว เวลายิ้มหรือแสดงสีหน้าต่างๆ ก็จะดูเป็นธรรมชาติ ไม่ดูตึงจนผิดแปลกไปด้วยค่ะ
ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้ว มาดูรูปอัพเดทหลังผ่าตัดกันค่ะ!
หลังจากออกมาจากห้องผ่าตัด ไม่ค่อยเจ็บ ชาๆมึนๆ กลับมาพักที่ห้องกินข้าวได้ตามปกติ แต่จะเริ่มมีอาการปวดขมับข้างขวาตึบๆนิดหน่อย เวลาเคี้ยวข้าว กลางคืนมีอาการปวดทั้งสองข้างค่ะ
หลังผ่าตัดวันที่ 1 วันนี้ตื่นมาบวมขึ้นมากว่าเมื่อวานนิดหน่อย ไม่เขียวไม่ช้ำเพิ่ม แต่มีอาการปวดตึ้บๆตรงขมับ น่าจะแถวรอยเย็บ เลยรู้สึกไม่อยากเคี้ยวข้าว เลือกเป็นพวกข้าวต้ม เจลลี่ นม อาหารนิ่มๆแทน
หลังผ่าตัด วันที่ 2 ตอนเช้ารู้สึกไม่ค่อยเจ็บช่วงขมับแล้วเพราะใช้เจลเย็นประคบไว้ตอนกลางคืน หน้าไม่บวมขึ้น ไม่เขียว ช่วงหางตาที่ดูตึงๆแค่วันแรก วันนี้ดูไม่ตึงแล้วค่ะ แต่เริ่มคันๆช่วงแผลเย็บนิดหน่อย ออกไปเดินเล่นช้อปปิ้งได้ตามปกติ แต่ยังกินแค่ของนิ่มๆอยู่นะคะ
หลังผ่าตัดวันที่3 วันนี้ไม่ปวดแผลแล้ว เริ่มกินอาหารได้ตามปกติ อาจจะมีรู้สึกเจ็บที่แผลบ้างแต่ไม่มาก วันนี้ผ้าพันที่หัวหลุดเลยเอาออกมา แต่ยังมีผ้าก็อซที่แผลอยู่
.
เดี๋ยวมาอัพเดทต่อในคอมเม้นนะคะ
หลังผ่าตัดวันที่4 ตื่นมาแล้วผ้าก็อซที่แผลหลุดเลยเอาออกมาแล้วเช็ดแผลด้วยแอลกอฮอล์กับใส่ยาเอง วันนี้มีนัดเข้าไปเช็คแผลที่รพ. พอไปถึงพยาบาลก็มาเช็ดทำความสะอาด ดูแผลให้ ปรากฏว่าแผลเรียบร้อยดี และไม่ต้องใส่เจลใส่แผลแล้ว เพราะอาจจะใส่เยอะไปทำให้แผลแฉะ เสร็จแล้วก็ไปสระผมที่ร้านทำผม ที่ทางรพ.ดิวเอาไว้ให้ รู้สึกสบายผมมาก
หลังผ่าตัดวันที่5 ตอนนี้คือใช้ชีวิตปกติมากๆ พอเวลาปล่อยผมก็ดูไม่ออกว่าทำศัลยกรรมมา ไปเดินเล่น กินข้าวได้ตามปกติหมดแล้ว
หลังผ่าตัดวันที่6 ช่วงนี้เจ็บแค่ที่แผล คันๆ ชาๆ เหมือนแผลใกล้จะหาย นอกจากนั้นก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
หลังผ่าตัด 1อาทิตย์ วันนี้เข้าไปรพ. ตอนแรกเข้าไปคลีนหน้า นวดหน้าลดบวม ตอนนวดจะมีเครื่องเป่าไอร้อนจ่อเอาไว้ ตอนนวดสบายหน้ามากๆหลังจากนวดเสร็จรู้สึกหน้าชุ่มชื้นมาก หลังจากนั้นก็เข้าไปอบด้วยเครื่องออกซิเจน เข้าไปนอนในเครื่องเหมือนกระสวยอวกาศ นอน20นาที จากนั้นก็เข้าไปให้คุณหมอตรวจแผล คุณหมอบอกว่าแผลแห้งดีมาก เลยได้ตัดไหมเรียบร้อย และฉีดสลายฟิลเลอร์ที่หน้าผากที่ยังค้างอยู่ เรียบร้อยแล้วก็เข้าไปฉายแสงลดช้ำต่อ เสร็จเรียบร้อยแล้วตอนนี้หน้าดูปกติมากๆ แต่หน้าดูเด็กลง บริเวณใต้ตากระชับขึ้นมากๆ หลังจากนี้ทางรพ.บอกว่าสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เลย
...
เดี๋ยวมาอัพเดทอีกนะคะ .. : )
ครบ 19 วัน ตอนนี้แต่งหน้าได้แล้ว รู้สึกมั่นใจขึ้นมาก น้องทักว่าสาวขึ้น รู้สึกเหมือนอายุลดลงไป5-10ปี ส่วนแผลยังมีอาการตึงๆเวลาล้างหน้าใกล้ๆนิดหน่อย สะเก็ดแผลยังลอกไม่หมด แต่ส่วนที่ลอกแล้วเนียนมากแทบมองไม่เห็นแผลเลยล่ะ
...
เดี๋ยวมาอัพเดทอีกนะคะ .. : )
1 เดือนครึ่ง
หลังจากทำลิฟติ้งหน้าครั้งแรก ผ่านมาเดือนนิดๆ รู้สึกประทับใจมาก คิดถูกมากๆที่ไปทำ
ตอนนี้เหมือนย้อนวัยกลับไป5-10ปี หน้ากลับมาตึง กระชับ รวบผมก็ไม่เห็นความเหี่ยวคล้อย
ส่วนแผลเป็นแทบมองไม่เห็นเลย ทั้งๆที่ตอนแรกกลัวว่าจะเป็นแผลเป็นมากเพราะเห็นคนอื่นๆไปทำมาแล้วเป็นแผลเห็นชัด แต่ที่นี่แทบไม่เห็นแผลเลย ฝีมือหมอเก่งมากแผลก็หายไวมากแค่เจ็บแผลอยู่2วันคือทางโรงพยาบาลให้ประคบเย็นแต่เราขี้เกรียจทำเลยปวดแผล2วัน พอวันที่3เลยประคบเย็นตามที่โรงพยาบาลแนะนำ ปรากฏว่าประคบคืนเดียวก็หาย
ปวดสามารถไปเดินเล่นกินอาหารใช้ชีวิตแบบชิวๆมากอยู่เกาหลี 7วันก็ตัดไหมได้ แผลดีมากจะมีแค่ตึงๆๆที่หน้าบ้างแค่นั้น นอกจากความกระชับยังรู้สึกรูปหน้าเปลี่ยน หน้าเราวีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
พอกลับมาที่เมืองไทยคือเพื่อนๆหรือลูกค้าที่เจอหน้าจะต้องทักว่าไปทำอะไรมาทำไมสวยขึ้น บางคนก็บอกว่าสวยวันสวยคืนจนถึงวันนี้เดือนครึ่งคนที่ได้เจอจะต้องบอกว่าสวยขึ้นดูสาวขึ้นหน้าเป็นวีอย่างเห็นได้ชัด