อดีตอันขมขื่นทิ้งมันไป ปัจจุบันชั้นตาชัดสดใสแล้วค่ะ
สวัสดีค่ะ สาวๆ ทุกคน(ไม่สาวก็เข้ามาอ่านกันได้น้า^^)วันนี้อารมณ์ดีอยากมารีวิวเรื่องราวการไปทำตา 2 ชั้นของอุ้มซักหน่อยค่ะ ส่วนหนึ่งอุ้มทำมาได้หลายเดือนแล้วก็รู้สึกว่ามันคงเข้าที่แล้วแหละ(อันนี้คุณหมอก็บอกเองด้วยว่าชั้นตาจะเข้าที่ภายใน 3 เดือน) แล้วก็มีหลายคนแนะนำว่าทำตา 2 ชั้นมา แล้วชั้นตาสวยแบบนี้ ต้องไปบอกต่อแล้วแหละ 555 อุ้มก็เลยคิดว่าเอ้อ แชร์ให้คนอื่นรู้บ้างดีกว่าว่าการทำตา 2 ชั้นเนี้ย มันทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นได้ อุ้มก็อยากให้คนที่มีปัญหาแบบอุ้มมั่นใจขึ้นเหมือนกัน
ก่อนทำตา ตาหมวยขั้นสุด ไร้ซึ่งชั้นตาใดๆ ทั้งสิ้น
ที่จริงอุ้มก็มีปัญหาเรื่องตามานานแล้วแหละค่ะ คือเป็นคนที่ไม่มีชั้นตาเลย จะแต่งหน้าแต่งตามันก็ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่เมื่อก่อนเวลาจะแต่งหน้าสวยๆ ก็พึ่ง Eyelid Tape กันไป อุ้มนี่ติดตั้งแต่ที่เค้านิยมใช้เทป 3Mมาติด จนถึงตอนที่เป็นเทปตาข่ายบางๆ ด้วย แต่ที่ตัดสินใจทำตาเพราะรู้สึกว่าการติด Eyelid Tape มันวุ่นวายค่ะ ไหนจะต้องรอกาวแห้ง ไหนจะต้องกลัวเลอะ ปัญหายุบยิบเต็มไปหมด อีกอย่างก็ทำงานหาเงินได้เองแล้วนี่ เก็บเงินนิดหน่อยก็ทำตา 2 ชั้นได้แล้ว ทำทีเดียวสวยตลอด ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาแต่งหน้าตอนเช้าอีก มันก็น่าจะดีกว่าเนอะ และอีกอย่างจ่ายเงินค่า Eyelid Tapeทุกเดือนๆ รวมๆ กันก็หลายบาทอยู่ ถ้าเอาเงินซื้อ Eyelid Tape มาทำตา 2 ชั้น อุ้มว่าอุ้มมีเงินทำชั้นตาสวยๆ ไปนานแล้ว
ตอนแต่งหน้าค่ะ ขนาดจัดเต็มแล้วนะคะ แต่ตาไม่ไปด้วย
ส่งแรกที่ต้องทำก่อนทำตา 2 ชั้น คือต้องทำที่ไหน? ที่ไหนดี?ที่ไหนดัง?ที่ไหนที่ราคาไม่แพงและเดินทางสะดวก เลยเริ่มจากการ Search ใน google ก่อนค่ะ Search คำง่ายๆเลย แบบ ทำตา 2 ชั้น ก็มีคลินิกมาสเตอร์พีซ คลินิก เด้งขึ้นมาข้างจอเลยค่ะ อ่านความเห็นและรีวิวของคลินิกนี้ เห็นว่าทำออกมาสวยทุกคนเลยค่ะ และดูไม่ค่อยมีปัญหาอะไร อยู่แถวสยาม แถมเห็นว่ามีปรึกษาฟรีก็ยิ่งสนใจกว่าเดิมนัดคิวปรึกษาเลยค่ะ นัดผ่านทาง Call Center ค่ะ ได้ปรึกษากับคุณหมอกาญจนาค่ะ
ตอน Search หาที่ทำตา 2 ชั้น คลินิกนี้ก็เด้งมาเลยค่ะ
ก่อนเข้าไปปรึกษาก็ต้องหาข้อมูลก่อนว่าคุณหมอทำตาออกมาสวยจริงอย่างที่ Call Center บอกหรือเปล่า พอ Search คำว่า หมอกาญจนา ทำตา ทั้งรีวิวและผลงานก็ขึ้นมาเต็มไปหมดเลยค่ะ อ่านจากรีวิวคนที่เข้าไปทำส่วนใหญ่ก็ชอบ และชั้นตาก็ออกมาสวยฉ่ำเว่อ และจากที่อุ้มได้ดูหลายๆ อย่าง คุณหมอทำตาได้หลายแบบค่ะ ทั้งเปิดหัวตา เปิดหางตา ทำตาแบบกรีดสั้น กรีดยาว ตัดแต่งหนังตา หรือตัดถุงใต้ตายังได้เลย อุ้มก็เริ่มมั่นใจว่าคุณหมอเก่งเรื่องตาจริงๆ
เข้าปรึกษาที่คลินิกครั้งแรก มาไม่ยากค่ะ เพราะอุ้มนั่ง BTS มา เดินลงจากสถานีเดินมาตรงข้ามหน้าบุญครองก็เจอเลย ที่คลินิกมีอยู่ 2 ตึก แยกเป็นตึกที่ไว้ทำเลเซอร์และตึกที่ไว้ทำศัลยกรรม อุ้มเดินหลงไปตึกที่ทำเลเซอร์ด้วยเขินหนักมากกกก
อยู่หน้ามาสเตอร์พีซ คลินิกแล้วค่ะ ตอนแรกหลงไปตึกตรงป้ายเล็กข้างหลังเขิลมากกก
พนักงานก็พามาที่ตึกศัลยกรรมค่ะ ตอนที่อุ้มมาคนข้างเยอะ และรอนานมากกกก กว่าจะได้เข้าปรึกษา แต่ระหว่างรอพนักงานก็นำน้ำ นำขนมมาให้กินรอเพลินๆ หลังจากเข้าไปปรึกษาและประเมินตาของอุ้ม อุ้มต้องขอชมก่อนค่ะว่าคุณหมอน่ารักมาก ตรวจเช็คละเอียดถามอะไรไปก็ไม่มีบ่นมีว่าซักคำ หลักจากเช็คเสร็จคุณหมอแนะนำให้อุ้มทำตา 2 ชั้น แบบกรีดยาวเพราะอุ้มไม่มีชั้นตาเลย และอุ้มก็ขอแบบชั้นตาชัดๆ แต่ไม่ต้องสูงเว่อร์แบบฝรั่งอะไรนะคะ ขอแค่แบบสาวไทยตาคมๆ พอซึ่งคุณหมอก็จัดให้ค่ะ
คุณหมอกาญจนที่เนรมิตตาให้อุ้มค่ะ
หลังจากปรึกษาเสร็จและอุ้มก็ตัดสินใจทำตากับที่นี่เพราะประทับใจคุณหมอจริงๆ ก็ถึงเวลาที่ต้องดูแลและเตรียมความพร้อมตัวเองก่อนทำตาด้วย ซึ่งคุณหมอก็แนะนำให้งด แอลกอฮอล์บุหรี่อาหารเสริม และให้พักผ่อนอย่างเพียงพอนอนให้ครบ 8 ชั่วโมงค่ะ เพื่อความสวยเราทนได้งดปาร์ตี้และอาหารเสริมทุกอย่าง เพื่อน แฟนชวนไปไหนดึกๆ อุ้มเทหมดค่ะ ขอเป็นเด็กดีอยู่บ้านนอนไวดีกว่า 555 2 อาทิตย์แห่งการรอก็หมดไป คราวนี้เข้าโหมดตื่นเต้นที่จะได้ทำตาแทนแล้วค่ะ 555
เปลี่ยนชุดเรียบร้อย เห็นหน้านิ่งๆ แต่ในใจเต้นตูมตามมาก 555
อุ้มเข้าไปทำตาแปปเดียวค่ะประมาณ 45 นาทีได้ อารมณ์แบบได้นอนฟังเพลงเคลิ้มๆ จะหลับแล้ว ได้ยินเสียงคุณหมออีกที “ไหนลองลืมตาหน่อยนะคะ“ อุ้มลืมตากระพริบตาอยู่ 3-4 รอบ คุณหมอให้นั่งแล้วยืนจ้องตาจนอุ้มเขินเลย 555 คุณหมอก็บอกว่า “เสร็จแล้วนะคะ” และบอกอีกว่าช่วง 1 อาทิตย์- 2 เดือนแรกตาจะยังดูบวมอยู่ ยิ่งช่วงอาทิตย์แรกจะบวมมากหน่อยให้คอยประคบเย็นไว้ค่ะ แต่คุณหมอก็ให้ยาลดบวมมากินด้วยแล้วก็นัดให้อุ้มมาติดตามผลที่คลินิกหลังทำตาไป 7 วัน และ 14 วันค่ะ พอทำตาเสร็จพยาบาลก็พาอุ้มไปนอนพัก มีเจลเย็นมาให้ประคบตาด้วย พยาบาลก็แนะนำว่าเจลเย็นนี่แหละ ประคบบ่อยๆ ดี หายบวมไว
หลังทำตาเสร็จก็กลับมาดูแลแผลที่บ้านค่ะ เพราะตาอุ้มตุ่ยมาก ทำให้ไม่อยากไปไหน เลยได้แต่กลับมานอนพักที่บ้านนับวันรอให้ตาหายบวมค่ะ
เห็นว่า 3 วันตาอุ้มบวมแล้ว วันแรกบวมกว่านี้อีกค่ะ 555 แต่แปลกที่ตาแทบไม่ช้ำและไม่เจ็บเลย
เห็นว่าวันที่ 5 ตายังไม่หายบวมเท่าไหร่ แต่ไม่แดงเท่าวันแรกแล้วค่ะ ช่วงนี้รู้สึกว่าแผลที่ตาเริ่มแห้งแล้ว
มาติดตามผลครบ 7 วันค่ะ แต่งหน้าเบาๆ มาคลินิก
ครบ 7 วันต้องเข้าคลินิกไปตัดไหมและติดตามผลกับคุณหมอค่ะ ตอนนั้นอุ้มกังวลใจเรื่องตาที่มันยังดูบวมอยู่พอสมควร แต่พอได้คุยกับคุณหมอก็สบายใจขึ้นเยอะค่ะ คุณหมอบอกว่าแต่ละคนระยะเวลาพักฟื้นไม่เท่ากันค่ะ บางคนหายบวมเร็ว บางคนหายบวมช้าอยู่ที่ความ Sensitive ของผิวแต่ละคนด้วย อย่างของอุ้มอาจต้องรอถึง 1 เดือน ถึงตอนนี้จะยังดูบวมแต่ขอให้อดใจรอซักนิด ยังไงก็หายบวมแน่นอน
ช่วงตัดไหมค่ะ รู้สึกจิ้ดๆ แต่แปปเดียวก็เสร็จค่ะ
รอยแผลหลังตัดไหมค่ะ
ตาเริ่มบวมน้อยลงแล้วค่ะ แค่ 14 วันเอง แต่ก็ของให้หายบวมกว่านี้เถอะ สาธุ
กลับมาติดตามผลที่คลินิกอีกครั้งจ้า หลังทำไป 1 เดือน
ติดตามผลอีกครั้งหลังทำตาครบ 1 เดือน สังเกตเห็นอะไรมั้ยคะ ชั้นตาอุ้มดูไม่บวมแล้ว เย้!!!คุณหมอเห็นก็ยังบอกเลยว่าเห็นมั้ยชั้นตาดูไม่บวมแล้ว หลังจากนั้นคุณหมอตรวจเช็คชั้นตา และดูเรื่องแผลนิดหน่อยค่ะ และคุณหมอก็ยังย้ำว่า รอให้ครบ 3 เดือนนะคะ ชั้นตาจะเข้าที่มากกว่านี้ แต่เท่านี้ก็สวยมากสำหรับอุ้มแล้ว 555
ตา 2 ชั้น 2 เดือนแล้วค่ะ สำหรับอุ้มก็ว่ามันไม่ต่างเดือนแรกเท่าไหร่น้า คิดว่าชั้นตาน่าจะเข้าที่แล้วแหละ
เดือนที่ 3 ชั้นตาลดลงนิดนึงค่ะ พอให้ให้ดูละมุนขึ้น
ตอนนี้ชั้นตาของอุ้มคือสวยมากกกก ดูหนาแต่เนียน ไม่โบ๊ะ แฟนบอกเมื่อก่อนก็ว่าสวยนะแต่เดี๋ยวนี้สวยกว่า (พูดดี 555) เจอหลายๆ คน ทุกคนเลยนะย้ำว่าทุกคนต้องทักว่าตาหวาน ชั้นตาสวย หรือไม่ก็ดูดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนนะ รู้มั้ยแค่คำพูดแค่นี้มันทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นได้เหมือนกันนะคะ มันทำให้รู้สึกว่าทุกๆ วัน อยากจะแต่งตัวสวยๆ แต่งหน้าสวยๆ ไปเจอผู้คนรู้สึก Happy มากกว่าเมื่อก่อนค่ะ ถ้าสาวๆ มีปัญหาแบบอุ้ม อย่ามัวแต่ใช้กาวติดตา 2 ชั้นเลยค่ะเสียเวลา แถมสวยไม่สุดอีกด้วย เกิดเป็นผู้หญิงทั้งที อย่ากลัวสวยค่ะเดี๋ยวแพ้กระเทย 555 อย่างอุ้มก็ฝันมานานแล้วว่าอยากเป็นผู้หญิงตาหวานๆ วันนี้ฝันเป็นจริงซักที รู้สึกดี๊ดีค่ะ ถ้าอยากมีความมั่นใจมากขึ้นก็ลองติดต่อคลินิก ลองเข้าไปปรึกษากับคุณหมอกาญจนาดูก่อนได้นะคะ ราคาทำตาก็ไม่แพงอย่างที่คิดเลยค่ะ