ดั้งโด่งดอทคอม
ชื่อกระทู้: ทำนมเปลี่ยนอกไข่ดาว เป็นสาวคัพบี (345 ซีซี) [สั่งพิมพ์]
โดย: dao_thunvarin เวลา: 2017-9-21 15:26
ชื่อกระทู้: ทำนมเปลี่ยนอกไข่ดาว เป็นสาวคัพบี (345 ซีซี)
เคยโดนเพื่อนทักกันบ้างมั้ยว่าพกทีวีจอแบนมาหรือเปล่า? หันหลังคุยกับเราทำไม? เป็นใครก็คงรู้สึกปวดใจไม่ใช่น้อยจริงไหม? และยิ่งหน้าอกนี่เป็นอะไรที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิงแล้วด้วย ความมั่นใจคงหายไปแน่นอนหากต้องโดนทักแบบนั้น ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน ยิ่งสำหรับเราที่เป็นสาว Healthy ชอบปั่นจักยานแล้ว ยิ่งทำให้หน้าอกหน้าใจหายไปพร้อมกับน้ำหนักตัวเลยล่ะค่ะ แล้วยิ่งเรามีตำแหน่งเป็นถึงนางฟ้านักปั่น ก็ต้องดูแลตัวเองให้ดีสมกับตำแหน่งที่ได้มา คือต้องดูดีอยู่เสมอ และที่สำคัญคือหุ่นต้องดี สัดส่วนต้องดูสมส่วนดูเป็นผู้หญิง เวลาออกสื่อหรืออยู่ต่อหน้ากล้องจะมาหุ่นแบนๆ ดูแมนๆ แบบผู้ชายไม่ได้เพราะทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ
ถ้าถามผู้หญิงหลายคนว่าอยากทำหน้าอกหรือไม่? เราบอกได้เลยว่าเกิน 70% ของสาวไทย คงอยากจะเสริมหน้าอกให้มันดูตูม ๆ ถึงแม้บางคนนิยมใส่ไส้ลงไปในบราเพื่อดันทรงให้มันดูดูมๆ แต่ก็ได้แค่หลอกตัวเองชั่วครั้งชั่วคราวแค่นั้นเอง เราก็เคยเป็นเหมือนกันชอบใส่เสื้อในดันทรงที่เค้าว่าดูมดี เราซื้อมาใส่ตามหมด แต่พอถึงเวลาที่ต้องปั่นจักรยาน เราไม่สามารถใส่ยกทรงธรรมดาได้ ต้องใส่เป็นแบบสปอร์ตบราทำให้เห็นชัดเลยว่าไม่มีหน้าอก เหมือนผู้ชายมาเกิดเลยค่ะ
การหาข้อมูลก่อนเสริมหน้าอก
ก่อนอื่นเลยเราหาข้อมูลอย่างละเอียดทั้งในอินเตอร์เน็ตหรือสอบถามจากคนที่มีประสบการณ์ผ่านการเสริมหน้าอกมาแล้ว บางที่เรานัดคิวปรึกษาคุณหมอที่คลินิกเลย จะรู้รายละเอียดและทำให้ตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยค่ะ และเราดูไปถึงเรื่องหมอที่จะมาเสริมหน้าอกให้เราด้วย เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดที่จะติดตัวเราไปอีกนานแสนนาน หลังจากค้นหาข้อมูลมาอย่างหนักหน่วง เตรียมทั้งตัว เตรียมทั้งตังค์ เพื่อเข้ารับการเปลี่ยนหน้าอกจากทีวีจอแบนสู่ โรงหนัง IMAX เราก็จะได้บทสรุปที่เราต้องการแล้วค่ะ
เราเข้าไปปรึกษากับ “คุณหมอสมบูรณ์ ไหวพริบ” ศัลยแพทย์ด้านการออกแบบและศัลยกรรมตกแต่งหน้าอก ที่ Masterpiece clinic ตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ ฝั่งตรงข้าม MBK ซึ่งเราเคยอ่านบทความจากไทยรัฐ ที่คุณหมอมาให้ความรู้เรื่องการเสริมหน้าอกไว้ ทำให้เรารู้สึกมั่นใจในตัวคุณหมอมากยิ่งขึ้นค่ะ เราขอยกประเด็นและประวัติคุณหมอในบทความมาให้อ่านกันก่อนซักนิดนะคะ
ประวัติคุณหมอ
คุณหมอจบจากศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นศัลยแพทย์ในด้านการออกแบบและศัลยกรรมตกแต่งหน้าอก อีกทั้งยังศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศัลยกรรมตกแต่งจากบอสตัน และยังเป็นหนึ่งในอาจารย์แพทย์โรงพยาบาลราชวิถีที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการศัลยกรรมมากว่า 10 ปี ปัจจุบันคุณหมอสมบูรณ์เป็นแพทย์ประจำอยู่ที่มาสเตอร์พีซ คลินิก และรับคนไข้ที่ต้องการเสริมหน้าอกอยู่อย่างต่อเนื่อง ทำให้คุณหมอสมบูรณ์เข้าใจถึงความต้องการของคนไข้และสามารถแก้ไขให้ได้อย่างตรงจุด คุณหมอสมบูรณ์ยังถือคติที่ว่า “ความสวยเป็นเรื่องเบสิก แต่ความเหมาะสมของคนไข้เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด”
ในยุคที่ใคร ๆ ก็หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ก็ทำให้บางคนอาจตกเป็นเหยื่อให้กับการประชาสัมพันธ์ของคลินิกที่อาจไม่ได้มีใบอนุญาต หรือแพทย์ที่ไม่ได้มีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง จนทำให้เกิดเป็นข่าวการเสียชีวิตจากการทำศัลยกรรมมากมายจนถึงทุกวันนี้ “การเสริมหน้าอกเป็นหนึ่งในศัลยกรรมที่ละเอียดอ่อนละมีความเสี่ยงสูง ต้องใช้ขั้นตอนการตรวจเช็กมากมาย เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตรงกับความต้องการของคนไข้ และที่สำคัญที่สุดคือ ความปลอดภัย เพราะการเสริมหน้าอกไม่ใช่เพียงแค่การผ่าแล้วยัดซิลิโคนเข้าไปเท่านั้น หากการผ่าตัดไม่ได้ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมวิสัญญีแพทย์ เมื่อเกิดปัญหาระหว่างการผ่าตัด อาจเกิดความสูญเสียขึ้นได้”
“อย่างที่บอกไปข้างต้นสิ่งสำคัญกว่าเรื่องราคาคือเรื่องความปลอดภัย ดังนั้น ทุกคนจึงควรรู้ว่าสถานประกอบการที่ดี และปลอดภัยควรมีอะไรบ้าง”
โดย: dao_thunvarin เวลา: 2017-9-21 15:26
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dao_thunvarin เมื่อ 2017-9-21 15:31
1.ศัลยแพทย์
“การเลือกเสริมหน้าอกครั้งหนึ่งนั้น เรื่องแพทย์ถือเป็นเรื่องที่ควรศึกษาเป็นอันดับแรกเลย เพราะการเลือกแพทย์ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง จะรู้ได้ไงว่าแพทย์คนไหนดี ก็สามารถเช็กรายชื่อศัลยแพทย์ได้ที่ “สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย" เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราเลือกหมอที่มีคุณภาพและมีประสบการณ์ทางด้านนี้โดยตรง”
2.วิสัญญีแพทย์
“วิสัญญีแพทย์มีความสำคัญต่อการผ่าตัดมาก ๆ เพราะมีหน้าที่คือให้การระงับความเจ็บปวดแก่ผู้ป่วยในระหว่างการผ่าตัด อีกทั้งวิสัญญีแพทย์ยังต้องรู้ว่าการผ่าตัดต้องใช้เวลานานเพียงใด มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นกับผู้ป่วย ตั้งแต่ก่อนการผ่าตัด ระหว่างการผ่าตัด และหลังการผ่าตัด ซึ่งหากมีอาการผิดปกติวิสัญญีแพทย์ต้องสามารถช่วยให้คนไข้ปลอดภัยได้อย่างทันท่วงที”
3.สถานประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต
“สถานประกอบการที่ดี ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรือคลินิกควรเชื่อถือได้ ไม่ใช่คลินิกเถื่อนที่ลักลอบเปิดกันเอง แบบนั้นอันตรายมาก ดังนั้นก่อนตัดสินใจศัลยกรรมใด ๆ ก็แล้วแต่ควรเช็กดูก่อนว่าสถานประกอบการนั้นมีใบอนุญาตการเปิดกิจการด้านนี้โดยเฉพาะหรือไม่”
4.ซิลิโคนได้รับมาตรฐาน
“สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ควรเช็กให้แน่ใจ ว่าดีจริงก็คือซิลิโคน หากเราเช็กมาทุกอย่างว่าที่คลินิกหรือโรงพยาบาลนี้ หมอเก่งมาก มีวิสัญญีแพทย์โดยเฉพาะ สถานประกอบการได้รับอนุญาต แต่ลืมเช็กว่าซิลิโคนได้มาตรฐานหรือไม่ ก็อาจทำให้หน้าอกพังได้ ดังนั้นก่อนเสริมหน้าอก ควรเช็กยี่ห้อซิลิโคน หีบห่อที่บรรจุซิลิโคน และใบรับประกันว่ามีเรียบร้อยหรือไม่ และสุดท้ายอย่าลืมขอใบรับประกันซิลิโคนเก็บไว้ด้วย จึงจะปลอดภัยที่สุด”
“การทำศัลยกรรมก็เปรียบเสมือนการรักษาคนไข้ ไม่ว่าจะทำศัลยกรรมอะไรความปลอดภัยและความสวยงามต้องมาควบคู่กันเสมอ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเสริมหน้าอก ควรเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน อาจจะมีราคาสูงไปบ้าง แต่เชื่อว่าเมื่อแลกกับความปลอดภัยที่คนไข้จะได้รับ ถือว่าคุ้มค่ากว่ามาก” คุณหมอสมบูรณ์กล่าวเพิ่มเติม
ขอบคุณข้อมูลจากไทยรัฐค่ะ
https://www.thairath.co.th/content/958035
โดย: dao_thunvarin เวลา: 2017-9-21 15:26
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dao_thunvarin เมื่อ 2017-9-21 15:31
โดยวันนี้เราขอเอาข้อมูลที่สอบถามคุณหมอ จากที่ได้เข้าไปปรึกษามาและขั้นตอนรายละเอียดต่างๆ ที่เราได้พบมาแชร์เป็นประสบการณ์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
การเสริมหน้าอก ในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง
การเสริมหน้าอกในยุคนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นมามาก ทั้งปลอดภัยและรวดเร็ว โดยเฉพาะในเรื่องของการวางยาสลบ ที่มาสเตอร์พีซ คลินิกนั้น คุณหมอสมบูรณ์บอกว่า เราใช้วิสัญญีแพทย์ดูแลตลอดขั้นตอนการทำศัลยกรรม ซึ่งสิ่งนี้เองเป็นสิ่งที่เหนือกว่ามาตรฐานกว่าที่ไหน ๆ ทำกัน รวมไปถึงการใช้ซิลิโคนที่ได้รับมาตรฐานสูงสุด ผ่านการรับรองโดยองค์กรอาหารและยาของอเมริกา มีการใช้ทั่วโลกมากกว่า 1 ล้านเคส ไม่เสี่ยงต่อการรั่วซึมในอนาคต และเป็นยี่ห้อที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกยาวนานมากกว่า 25 ปี อีกด้วย
การเสริมหน้าอกมีการผ่าตัด นำซิลิโคนใส่ได้ทั้งหมดกี่ทาง
คุณหมอสมบูรณ์บอกว่า ปัจจุบันในประเทศไทยนิยมใส่ 3 ทางคือ
ทางที่ 1 : จะเป็นการเปิดแผลบริเวณรักแร้ จะไม่เห็นแผลชัดเจน แผลจะซ่อนอยู่ใต้รักแร้ แต่เวลายกแขนจะทำให้เห็นแผลบริเวณดังกล่าว เมื่อใส่ บิกินี่ หรือ สายเดี่ยวได้
ทางที่ 2 : การเสริมบริเวณปานนม เหมาะสำหรับคนที่เส้นผ่านศูนย์กลางบริเวณปานนมมีขนาดใหญ่กว่า 3 ซม. ทั้งนี้แล้วต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมอด้วย ปัจจุบันมีเพียงแค่ 3% ที่เลือกวิธีนี้ เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง
ทางที่ 3 : การเปิดแผลใต้ราวนม สำหรับในตำแหน่งนี้จะได้รับความนิยมสูงสุด เหมาะกับคนที่ชอบใส่บิกินี่ และ เสื้อสายเดี่ยว กว่า 90% ของคนไข้ทั้งหมดจะเลือกเสริมทางนี้ เนื่องจากว่ามีข้อดีตรงที่เวลาสวมใส่ชุดอะไรก็จะมองไม่เห็นแผลผ่าตัด การพักฟื้นก็จะเร็วกว่าวิธีการเสริมทางอื่น ๆ และจะเจ็บน้อยกว่าวิธีการผ่าตัดแบบวิธีอื่น ๆ ถึง 50% จนไปถึงบางเคสบอกว่าไม่เจ็บเลย ในการเสริมใต้ราวนม คนไข้ที่ยังไม่เคยทำมักจะกังวลเรื่องแผลว่าจะมองเห็นหรือไม่เวลาถอดเสื้อผ้า แต่ความเป็นจริงแล้วแผลจะแอบอยู่ใต้ฐานนม รวมถึงคุณหมอจะมีความใส่ใจเป็นอย่างมากในการเย็บแผล และมีเทคนิคพิเศษในการเย็บแผล ทำให้รอยแผลเป็นนั้นมองเห็นเพียงเส้นขีดเล็ก ๆ เท่านั้น
รอยแผลใต้ราวนม เป็นแบบนี้ค่ะ
เทคนิคการเสริมหน้าอก มีกี่แบบ
คุณหมอสมบูรณ์ตอบว่า ตอนนี้มี 3 แบบ แต่ที่นิยมมีเพียง 2 แบบแรก คือ
แบบที่ 1 : การเสริมเหนือกล้ามเนื้อ ข้อดีคือ ไม่มีอาการเจ็บมาก ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 40 นาที ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย อาจพักฟื้นเพียง 1-2 ชั่วโมง ก็สามารถกลับบ้านได้ทันที หรือทำกิจกรรมอื่นเพิ่มเติมได้ เช่น ช้อปปิ้ง ดูหนัง ทานข้าว
แบบที่ 2 : การเสริมใต้กล้ามเนื้อ ข้อดีคือ ลดโอกาสในการเกิดผังผืด และการคลำเจอขอบซิลิโคน การเสริมวิธีนี้จะมีขั้นตอนการทำที่ซับซ้อนมากกว่า ส่วนใหญ่แล้วลูกค้าจะต้องนอนพักฟื้น 1 คืน แต่ด้วยความชำนาญของคุณหมอที่มาสเตอร์พีซ คลินิก คนไข้แทบจะไม่ต้องนอนพักฟื้นเลย เมื่อผ่าตัดเสริมหน้าอกแล้ว อาจนอนฟักฟื้นเพียง 1-2 ชั่วโมง ก็สามารถกลับบ้านได้ทันที
แบบที่ 3 : เป็นเทคนิคการเสริมรูปแบบใหม่ที่สุด เรียกว่า Duo Plan เป็นเทคนิคการเสริมที่รวมข้อดีของการเสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อและใต้กล้ามเนื้อเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ลดโอกาสเกิดการหย่อนคล้อย เหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อหน้าอกน้อยมาก ๆ หรือ ไม่มีเลย รวมถึงกรณีการแก้ไขจากการทำมาจากที่อื่น ๆ ทั้งนี้ การเสริมวิธีนี้จะต้องให้คุณหมอพิจารณาก่อนว่าคนไข้เหมาะสมหรือไม่ในการทำวิธีนี้
ซิลิโคนมีกี่ชนิดและมีความแตกต่างกันอย่างไร?
โดยทั่วไปแล้วซิลิโคนมี 2 แบบ ซึ่งแนะนำให้ใช้ซิลิโคนแบบถุงน้ำเกลือ แต่ปัจจุบันซิลิโคนแบบเนื้อเจลที่เรียกว่า Cohesive gel จะทำให้ทรวดทรงดูเป็นธรรมชาติและมีโอกาสแตกหรือรั่วน้อยกว่ามาก ซึ่งแบบนี้จะมีผิวซิลิโคนคือแบบผิวเรียบและผิวทราย แต่เดี๋ยวนี้ผิวทรายจะเป็นที่นิยมของสาว ๆ มากกว่าเพราะสามารถทำให้เนื้อเยื่อเข้ามาเกาะได้ดีกว่า นอกจากผิวขอซิลิโคนแล้วยังมีรูปทรงที่ต่างกันอีกเป็นร้อยแบบ แต่นิยมแยกเป็นรูปทรงประเภทใหญ่ๆ 2 ประเภทคือ ทรงกลมที่ทำให้เนินอกดูอวบอิ่ม และทรงหยดน้ำที่ทำให้หน้าอกดูเป็นธรรมชาติ
โดย: dao_thunvarin เวลา: 2017-9-21 15:26
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dao_thunvarin เมื่อ 2017-9-21 15:31
ซิลิโคนที่ทางคลินิกเลือกใช้
ปัจจุบันคุณหมอใช้ซิลิโคนเจล (Cohesive Gel implant) เพราะยืดหยุ่นเป็นธรรมชาติมากกว่าซิลิโคนประเภทอื่น ๆ แถมมีความปลอดภัยมากกว่าด้วย และยังได้การรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งประเทศไทย และสหรัฐอเมริกาอีกต่างหาก ซึ่งที่ Masterpiece Clinic นิยมแนะนำให้ใส่เป็นผิวทราย เพื่อลดการเคลื่อนตัวของซิลิโคน (ซิลิโคนที่มีมาตรฐานจะมีใบรับประกันอยู่ในกล่องเพื่อสามารถนำเลขไปตรวจสอบได้ค่ะ)
ใบรับประกัน ยืนยันซิลิโคน
คำแนะนำจากคุณหมอสำหรับสาวๆ ที่อยากเสริมหน้าอกใหญ่ ๆ
คุณหมอไม่แนะนำให้เสริมมากกว่า 400 CC เนื่องจากจะทำให้รูปร่างดูอ้วนใหญ่ ทำให้เกิดโอกาสผิวแตกง่ายขึ้นถึง 70% เสี่ยงต่อการเจอขอบซิลิโคน, หน้าอกเป็นคลื่น, หัวนมเกิดอาการชา และปวดหลังเรื้อรังสูง จากการเสริมซิลิโคนที่น้ำหนักเยอะเกินไป เพียงแค่ 300-350 CC ก็จะทำให้รูปร่างมีทรวดทรง สามารถใส่เสื้อผ้าได้สวยงาม ซึ่ง 90% ของคนไข้ที่ทำไปแล้วจะแนะนำเพื่อนมาทำไซซ์ 300-350 CC ในไซซ์ 350 CC ยังได้รับการตอบรับจากคนไข้ที่ใส่ไซซ์นี้ว่า เวลาใส่เสื้อผ้าแล้วมีความมั่นใจมากขึ้น รวมถึงคนไข้ที่มีครอบครัวแล้วยังได้รับคำชมจากสามีว่า ทำมาแล้วดูเป็นธรรมชาติ ดูแล้วสมส่วน คิดไม่ผิดที่เลือกทรงนี้
ตอนนี้เราก็ได้ข้อมูลกันไปเยอะพอสมควรแล้ว มาดูกันว่าขนาดตัวแบบเราจะใช้ซิลิโคนแบบไหน ทรงอะไรที่คุณหมอจะเลือกมาใช้กับเราดีกว่าค่ะ
ก่อนเข้าวัดขนาดหน้าอก
ก่อนกำหนดขนาดซิลิโคนหน้าอกคุณหมอจะพูดให้เข้าใจก่อนนะคะว่า ซิลิโคนมีความแตกต่างกันที่ขนาดและรูปลักษณ์ ในบางครั้งเราคิดมาแล้วว่าอยากได้ซิลิโคนแบบนี้ ขนาดเท่านี้ เพราะศึกษามาแล้วว่าเป็นซิลิโคนที่ดีที่สุด แต่ฐานหน้าอกเราอาจจะรับไม่ได้ ใส่เข้าไปแล้วอาจทำให้เห็นขอบซิลิโคนชัด หรือไม่ได้รูปทรงที่ธรรมชาติ คุณหมอก็อาจจะแนะนำให้ใส่ซิลิโคนที่มีขนาดเล็กลงมาอีกค่ะ และคุณหมอจะถามถึงลักษณะชีวิตประจำวันรวมถึงอาชีพ และมีการวัดขนาดหน้าอกด้วยเครื่องมืออย่างละเอียดเพื่อดูว่าผิวหนังเราสามารถรับขนาดซิลิโคนได้แค่ไหน เพื่อให้ได้ขนาดหน้าอกที่เหมาะสมสวยงาม อย่างของเราหลังจากประเมินขนาดหน้าอกแล้ว ผลออกมาเราเหมาะที่ต้องใช้ซิลิโคนทรงหยดน้ำ ขนาด 345 ซีซี คุณหมอบอกว่าขนาดประมาณนี้เมื่อเสริมออกมาหน้าอกจะดูไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เรียกได้ว่าขนาดกำลังพอดีตัวและไม่ใหญ่จนเป็นอุปสรรคในการเล่นกีฬาของเราด้วย
คุณหมอมีซิลิโคนมาให้ลองจับดูด้วยค่ะว่าชอบแบบไหน
พอตรวจเช็คร่างกายและทำการวัดไซซ์เรียบร้อยแล้ว ทางพนักงานก็จะนัดวันอีกครั้งเพื่อที่จะเสริมหน้าอก ซึ่งระหว่างนี้คุณหมอจะให้งดอาหารเสริม จำพวกวิตามิน ยารักษาโรค แล้วก็แอลกอฮอล์และบุหรี่ค่ะประมาณ 2 อาทิตย์ค่ะ (ถ้าใครไม่ได้ยุ่งเรื่องนี้อยู่แล้วก็ไม่ต้องกังวลค่ะ)
ก่อนวันจริงก็ต้องงดน้ำและอาหารก่อนเลย 8 ชั่วโมงเต็ม ใครได้คิวช่วงเช้าจะดีหน่อยค่ะ ไม่ทรมาน ของเราได้ผ่าตัดช่วงเช้าค่ะ ตื่นมาก็รีบเข้าคลินิกเลยจะได้ไม่หิว เมื่อถึงทางพนักงานจะให้เรากรอกเอกสาร ชำระเงิน และรับยาก่อน จากนั้นก็จะพาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าค่ะ ล้างหน้าให้สะอาด แล้วก็พาไปถ่ายรูปก่อนทำเพื่อเก็บไว้เปรียบเทียบค่ะ
ยาที่ได้รับมาค่ะ
โดย: dao_thunvarin เวลา: 2017-9-21 15:27
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dao_thunvarin เมื่อ 2017-9-21 15:31
หลังจากถ่ายรูปเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทางพนักงานจะพาเราไปเปลี่ยนชุด ทำความสะอาดหน้า และนั่งรอในห้องส่วนตัวด้านบนก่อนเข้ารับศัลยกรรมค่ะ สักพักพนักงานก็มาเรียกเราไปเข้าห้องผ่าตัดค่ะ อาการตอนนั้นต้องบอกเลยว่าหวิวๆ ใจตุ้มๆ ต่อมๆ มากค่ะ เป็นการศัลยกรรมครั้งแรกของเราเลย เรียกว่าเป็นความทรงจำแบบระทึกมาก
รอก่อนเข้าห้องผ่าตัดค่ะ ใจเต้นแรงมาก
รอยวัดที่คุณหมอวาดไว้ ละเอียดมากค่ะ
พอเข้าไปในห้องผ่าตัด ก่อนเสริมหน้าคุณหมอจะทำการวาดรูป วัดทรงลงบนตัวเราว่าควรจะสูงต่ำเท่าไร แผลอยู่ช่วงไหนแบบเส้นต่อเส้น คุณหมอแทบจะเอาไม้บรรทัดมาวัดเลยทีเดียว คุณหมอบอกว่าขั้นตอนนี้สำคัญ เพราะถ้าพลาดแค่นิดเดียว ก็อาจส่งผลให้หน้าอกออกมาไม่สวยได้ คุณหมอละเอียดมากๆ เลยค่ะ วัด วาดอยู่ประมาณ 15 นาที ได้เลยค่ะ คุณหมอยังพูดเสริมอีกว่า ถ้าไม่เป๊ะหมอไม่เสริมหน้าอกเด็ดขาด
อุปกรณ์ที่คุณหมอใช้วัดและประเมินขนาดหน้าอกค่ะ
ถ่ายรูปกับคุณหมอก่อนเข้าเสริมหน้าอกค่ะ
พอวาดเสร็จ ก็มีคุณหมออีกท่านหนึ่ง เป็นวิสัญญีแพทย์จะคอยสอบถามเราก่อนผ่าตัดค่ะ ว่ากินข้าวกินน้ำไปตอนกี่โมง นอนหลับเมื่อไหร่ น้ำหนักส่วน สูงเท่าไหร่ ประมาณนี้ค่ะ คุยเสร็จคุณหมอจะให้ขึ้นนอนบนเตียง ให้น้ำเกลือ แล้วก็มีการเอาผ้ามารัดช่วงขาค่ะ ตอนแรกเราก็กลัวนะคุณหมอเอามาพันทำไม คุณหมอบอกกันคนไข้ดิ้นเวลาสลบ เพราะบางคนก็นอนดิ้นค่ะ ระหว่างนั้นก็ชวนคุยไปเรื่อย จนเราไม่ประหม่าคุณหมอก็เอาที่ครอบมาครอบจมูกแล้วให้เราสูดหายใจเข้าลึกๆ ประมาณ 3-4 รอบ เราก็หลับเลย
ภายในห้องผ่าตัดค่ะ
รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนคุณหมอเรียกค่ะ แต่ตอนนั้นยังมึนๆ เบลอๆ อยู่ มาได้สติเต็มๆ ก็ตอนที่นอนในห้องพักฟื้นแล้วค่ะ ระหว่างที่เรานอนอยู่จะมีพยาบาลคอยดูเราค่ะ เพราะเราตื่นขึ้นมาก็เจอพยาบาลนั่งเช็ค ใบเช็คอาการต่างๆ ของเราอยู่ พอเห็นเราตื่นก็เอาน้ำหวานมาให้กินพร้อมกับโจ๊กค่ะ ระหว่างนี้ก็มีถามอาการของเราว่ามีติดขัดอะไรบ้างหรือเปล่า หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เรานอนยาวๆ เลย เราหลับไปประมาณ 2 ชั่วโมงได้ ก่อนกลับบ้านก็มีพนักงานเข้ามาบอกเวลานัดติดตามผล และตัดไหมประมาณ 7 วันค่ะ
ห้องพักฟื้นค่ะ
โดย: dao_thunvarin เวลา: 2017-9-21 15:27
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dao_thunvarin เมื่อ 2017-9-21 15:32
เม้าท์ หลังเสริมหน้าอกกันหน่อยดีกว่าค่ะ
หลังทำวันแรก แน่นหน้าอกค่ะ หายใจไม่ทั่วท้องรู้สึกเหมือนโดนคนนั่งทับอยู่ตลอดเวลา แล้วก็เจ็บตรงแผลหน่อยๆ ช่วงนี้ยังเดินไปไหนมาไหนได้ แต่ยังปั่นจักรยานไม่ได้ค่ะ กลัวสะเทือนแล้วแผลฉีกแผล เอาจริงๆ วันนี้นอนทั้งวันค่ะ ทำความสะอาดแผลนู่นนี้เสร็จ ก็นอนพักทั้งวันเลย
วันที่ 3 เอาผ้าที่หมอพันหน้าอกไว้ออกแล้วเปลี่ยนเป็นสปอร์ตบราแทนค่ะ เป็นสปอร์ตบราของทางคลินิกนะคะ ช่วงนี้ระวังโดนแผลนิดนึง แต่พอใส่สปอร์ตบราแล้วรู้สึกว่าหายใจโล่งขึ้น ตอนนี้ก็ยังรู้สึกตึงๆ อยู่เลยค่ะ ทานยา ดูแลแผลวนไป
วันที่ 5 แล้ว มีคนแนะนำมาว่าให้กินพวก ใบบัวบก ฟักทอง เยอะๆ จะช่วยให้หายช้ำลดบวมได้เร็ว แผลเริ่มแห้งแล้ว เวลาทำความสะอาดแผลก็ไม่ค่อยเจ็บแล้วค่ะ
วันที่ 7 วันนี้ต้องไปตัดไหมแล้วค่ะ แอบกลัวว่าจะเจ็บหรือเปล่าเวลาหมอเขาเอาไหมออก แต่พอถึงเวลาจริงก็ไม่เจ็บเลยค่ะ มีเสียวๆ แผลตอนดึงไหมอยู่บ้างค่ะ ช่วงนี้หมอให้ประคบเย็นลดบวมค่ะ ส่วนเรื่องนวดไม่นวดนี่ คุณหมอบอกว่าแล้วแต่เราสะดวกเลยค่ะ เพราะที่จริงแล้วซิลิโคนเดี๋ยวนี้ดีกว่าเมื่อก่อนมาก การเกิดพังผืดมีน้อยค่ะ แต่ถ้าไม่สบายใจจะนวดก็ได้ค่ะ หมอไม่ห้าม
หลังจากผ่านไป 2 อาทิตย์ เราเริ่มทำกายบริหารแบบเบาๆ ก่อนค่ะ คือทำแค่แบบยืดเส้นเบาๆ พอไม่ให้เส้นยึดค่ะ อย่างเราที่ขี่จักรยานทุกวัน พอไม่ได้ออกกำลังกายแล้วรู้สึกไม่สดชื่นเลยค่ะ
1 เดือนแล้วค่ะ ตอนนี้แผลแห้งสนิท ส่วนรอยแผลผ่าตัดก็เหลือแค่ขีดๆ เท่านั้นเองค่ะ
1เดือนหลังทำหน้าอก หน้าอกเริ่มคลายตัวแล้ว ไม่ตึงเหมือนตอนแรกแล้วค่ะ แผลตอนนี้ถือว่าดูดีมากค่ะ ของเราเป็นแผลใต้ราวนมนะคะ แต่เห็นเป็นแค่เส้นขีดๆ เล็กๆ เท่านั้นเองค่ะ คุณหมอเย็บแผลสวยมาก ช่วงนั้นเราเริ่มออกไปปั่นจักรยานได้แล้วค่ะ ปั่นระยะสั้นๆ เบาๆ ไม่ไกลมาก เป็นการวอร์มไปในตัวด้วย
ตัดสินใจเสริมหน้าอกในครั้งนี้ เพราะว่าอยากเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง และอยากแต่งตัวได้หลากหลายมากขึ้น ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดที่จะเสริมหน้าอกเลย แต่พอเราเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้น เป็นพิธีกร ออกงานอีเว้นโชว์ตัวบ่อย ก็เจอทั้งคำชมและคำแซวขำๆ (ที่เราไม่ขำ) จนทำให้เราอยากเสริมหน้าอก แต่ก็ติดที่ว่าการเสริมหน้าอกต้องเป็นอะไรที่น่ากลัว ต้องเจ็บหนักแน่ ๆ แต่หลังจากที่ทำเสร็จแล้ว ทำให้รู้เลยว่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะฝีมือคุณหมอกับความพร้อมของร่างกายเราทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ไวมากค่ะ เพื่อน ๆ ยังทักเลย ขอพูดเรื่องฝีมือของคุณหมอนิดนึง คุณหมอสมบูรณ์มีความประณีต ไม่รุนแรง ร่างกายแทบจะไม่เจ็บช้ำเลยค่ะ ยิ่งเลือกผ่าใต้ราวนมแล้ว ยิ่งดูแลง่ายและฟื้นตัวไวด้วยค่ะ
ขอฝากสุดท้ายก่อนไปสำหรับสาว ๆ ที่กำลังมีความคิดที่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อย่าลืมนะคะว่า การศึกษาข้อมูลต่าง ๆ สำคัญมาก ๆ ศึกษาเยอะ ๆ ปรึกษาคุณหมอเยอะๆ สงสัยอะไรถามได้เลยค่ะ คุณหมอตอบให้ละเอียดทุกคำถาม แล้วจะได้รับความประทับใจกับผลลัพธ์ที่ออกมาเหมือนกับเราค่ะ
ขอขอบคุณ: นายแพทย์สมบูรณ์ ไหวพริบ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านการออกแบบและศัลยกรรมตกแต่งหน้าอก แห่งMasterpiece clinic ด้วยค่ะ
โดย: barbyz เวลา: 2017-9-21 17:09
รีวิว ยาวมาก 555 อ่านไม่ไหว
โดย: pandapapa เวลา: 2017-9-22 12:10
ขนาดกำลังพอดีเลยค่ะ
โดย: beautyclub44 เวลา: 2017-9-25 11:29
เราว่าทำที่ราวนม ดีกว่าทำที่รักเเร้มากเลย แผลสวยดีนะคะ
โดย: dao_thunvarin เวลา: 2017-9-28 11:48
ค่อยๆ อ่านนะคะ อยากให้อ่านให้จบ ตั้งใจเขียนมากเลย
โดย: dao_thunvarin เวลา: 2017-9-28 11:49
ใช่ค่ะ ชอบมากเลย 345 CC กำลังดีค่ะ
โดย: dao_thunvarin เวลา: 2017-9-28 11:49
ใช่ค่ะ ของเราก็แผล อยู่ที่ราวนม ตอนนี้ แผลก็จางไปเยอะเเล้วค่ะ
ยินดีต้อนรับสู่ ดั้งโด่งดอทคอม (http://dungdong.com/) |
Powered by Discuz! X3.2 |